"พงษ์พัฒน์" เสมือนอัยการมีคำสั่งฟ้อง "สนธิ" เผยแพร่คำปราศรัย ดา
ตอร์ปิโด ชี้ ถือเป็นการอ่อนแอของอำนาจรัฐในการบังคับใช้กฎหมาย
เพราะไม่ได้ดูที่เจตนา
แต่กลับใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งผู้ที่ปกป้องสถาบัน
เชื่อสุดท้ายกระบวนการจัดการพวกล้มเจ้า จะล้มเหลวในที่สุด
วันนี้ (21 ก.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่
(ก.ม.ม.) กล่าวถึงกรณีที่ ตร.ออกหมายเรียกให้ นายพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ศิลปินนักร้องนักแสดง เข้ารับทราบข้อกล่าวหากรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น
น่าจะเป็นวาระซ่อนเร้นของทางเจ้าหน้าที่ที่พยายามจะใช้กฎหมายจัดการกับผู้
ที่กล่าวถึงสถาบัน ไม่ว่าจะทางบวกหรือลบ โดยไม่จำแนกแยกแยะ
คล้ายกับว่าเป็นมาตรการห้ามทุกคนกล่าวอ้างถึงสถาบัน
ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ผิด เพราะการกล่าวอ้างถึงสถาบันในทางที่เป็นการเทิดทูน
ควรจะเป็นนโยบายของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ต้องสนับสนุนส่งเสริม
การออกหมายเรียก นายพงษ์พัฒน์ ครั้งนี้ คล้ายกับกรณี นายสนธิ
ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องข้อหาหมิ่นฯ
กรณีเผยแพร่คำปราศรัยของ ดา ตอร์ปิโด
เป็นภาพสะท้อนความอ่อนแอของรัฐบาลและกลไกรัฐราชการ ว่า
ในที่สุดจะไม่สามารถจัดการกับขบวนการล้มเจ้าได้
เพราะไม่สามารถสร้างแนวร่วมกับประชาชน
หรือพสกนิกรที่มีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัว
ซ้ำร้ายการพูดถึงพระปรีชาสามารถและพระราชกรณียกิจต่างๆ
ของพระองค์ท่านจะทำได้ลำบากมากขึ้น เพราะผู้ที่พูดก็อาจกลัวถูกดำเนินคดี
และอาจจะไม่กล้าออกมาต่อต้านขบวนการล้มเจ้าด้วยเช่นกัน
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า วิธีการจัดการขบวนการล้มเจ้า รัฐบาล
และเจ้าหน้าที่ต้องดูที่เจตนาของผู้พูด
เพราะถ้าเป็นการพูดในลักษณะเทิดทูนสถาบันควรจะส่งเสริม
ไม่ใช่ให้เจ้าหน้าที่ไปไล่ออกหมายเรียก หรือหมายจับแบบนี้
แทนที่จะเอากำลังหรือเวลาไปดำเนินการกับกลุ่มคนหรือขบวนการล้มเจ้าที่
เคลื่อนไหวโจมตีสถาบันกันอย่างเปิดเผย และกว้างขวางอย่างในขณะนี้
ถ้านี่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ในการจัดการกับขบวนการล้มเจ้า
ก็ต้องบอกว่า รัฐบาลและเจ้าหน้าที่กลายเป็นแนวร่วมมุมกลับของขบวนการล้มเจ้าไปโดยไม่รู้
ตัว
เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ระบุว่า
การบังคับใช้กฎหมายไร้มาตรฐานแบบนี้ รัฐบาลต้องทบทวน
และควรให้นโยบายกับเจ้าหน้าที่ ถึงหลักปฏิบัติที่เป็นธรรม
และเป็นประโยชน์กับการปกป้องสถาบันอย่างถูกทิศถูกทางกว่าที่เป็นอยู่
ไม่เช่นนั้น การจัดการกับขบวนการล้มเจ้าโดยรัฐบาลชุดนี้ก็คาดหวังไม่ได้อย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น