++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

“ดร.อนันต์” ย้ำ “อ๊อฟ” ไม่หมิ่นฯ ซัด ตร.วิจารณญาณต่ำต้อยทำลายขวัญคนจงรักภักดี

“ดร.อนันต์” ย้ำการเรียกว่า “พ่อ” ไม่ใช่การหมิ่นฯ ใช้เรียกพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ซัดเจ้าหน้าที่มีวิจารณญาณต่ำต้อยถึงแยกแยะไม่เป็น ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แต่กลับเป็นผู้ทำลายขวัญของคนจงรักภักดี ชี้ตำรวจไม่ต้องสอบถามจากนักภาษาศาสตร์ เพราะเด็กเดียงสายังรู้เลย

วันนี้ (22 ก.ค.) ดร.อนันต์ เหล่าเลิศวรกุล อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะคณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมฉบับล่าสุด และผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทย ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทางช่อง “อีสานทีวี” ถึงกรณีตำรวจออกหมายเรียก “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์” เข้าให้ปากคำในคดีหมิ่นสถาบัน

ดร.อนันต์กล่าวว่า การที่ พล.ต.ต.อำนวยบอกว่าจะเรียก “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์” มาถามว่าทำไมถึงเรียก “พ่อ” เฉยๆ ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะคนไทยเรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าพ่อมานานแล้วตั้งแต่สมัย สุโขทัยเราก็เรียกพระมหากษัตริย์ว่า “พ่อขุน” ซึ่งมีความหมายเปรียบเหมือนพ่อของปวงประชาไม่ได้หมายถึงพ่อผู้ให้กำเนิด ทุกคนรู้ว่าเป็นคำเปรียบและใช้กันอย่างมากมายก่ายกอง โครงการในพระราชราชดำริเองก็มีหลายโครงการที่ใช้คำว่า “พ่อ” ที่สำคัญปลายปีที่แล้วรัฐบาลเคยจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยใช้พระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นฉากหลังในการฉายภาพยนตร์ซึ่งก็มีชื่อว่า “บ้านของพ่อ”

ดร.อนันต์กล่าวอีกว่า คุณพงษ์พัฒน์ไม่มีความผิดใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการดูหมิ่นแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม ขณะที่ขึ้นพูดบนเวที มีพฤติกรรมที่ประกอบไปด้วยท่าทีขึงขัง สะกดทุกคนให้ฟังกันอย่างจดจ่อ ก่อให้เกิดความประทับใจแก่ทุกคน มีทั้งเสียงปรบมือ และเรียกน้ำตาจากหลายๆ คน เป็นการพูดเพื่อปกป้องพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้อย่างไร

“สะท้อนวิจารณญานอันต่ำต้อยของเจ้าหน้าที่ จำแนกไม่ได้ว่าสำนึกความจงรักภักดีกับการหมิ่นฯต่างกันอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าขบขันของสังคม แปลกใจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่กลับทำลายขวัญประชาชนผู้จงรักภักดี แบบนี้จะพิทักษ์สันติของราษฎรได้อย่างไร” ดร.อนันต์ กล่าว

เมื่อถามว่า พล.ต.ต.อำนวยออกพูดว่าต้องใช้นักภาษาศาสตร์มาร่วมปรึกษาถึงคดีนี้ ดร.อนันต์กล่าวว่า ไม่ต้องใช้นักภาษาศาสตร์ หรือผู้เชี่ยวชาญภาษาแต่อย่างใด แค่เด็กเดียงสาที่พอจะรู้ภาษา ก็เข้าใจดีแล้ว

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ27 กรกฎาคม 2553 เวลา 13:35

    ตำรวจเค้าก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว ครับ เรื่องยีดเยียดข้อหา เป็นงานถนัดนักละครับ

    ตอบลบ