ว่ากันว่า มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน เพราะนอกจากจะทำให้การเริ่มต้นทำงาน หรือเรียนหนังสืออย่างสดชื่นปลอดโปร่งแล้ว รู้ไหมว่า “อาหารเช้า ช่วยลดหุ่นได้” !! ยิ่งเป็นมื้อเช้าที่เน้นโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตแล้วล่ะก็ จะช่วยเราลดความอยากกินของจุกจิกก่อนมื้อเที่ยงได้ แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกรมอนามัยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่หนุ่มสาววัยทำงานอายุ 15-59 ปี รับประทานอาหารเช้าเพียง 53.9 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น
แต่รู้หรือไม่!! คนที่งดมื้อเช้าควรทำความเข้าใจเสียใหม่ ก็คือ การงดอาหารเช้าบ่อยๆ มีแนวโน้มจะอ้วนมากกว่าคนที่รับประทานอาหารเช้าทุกวันถึง 450 เปอร์เซ็นต์
นพ.อิทธิชัย วัชรีคุปต์ อายุรแพทย์ทั่วไป โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ไขข้อสงสัยข้อนี้ ว่า คนที่ไม่รับประทานอาหารเช้าจะอ้วนง่าย เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารมาตลอดทั้งคืน ทำให้สมองรู้สึกว่าร่างกายขาดอาหารและต้องการสะสมพลังงานไว้ คนที่งดอาหารเช้าจึงชอบทานของจุบจิบเพราะหิว โดยเฉพาะของว่างที่หยิบได้ใกล้มือ และมักจะเป็นขนมปังกรอบ คุกกี้ ขนมถุง ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นขนมที่ให้พลังงานสูง ทำให้เกิดไขมันสะสมในร่างกายมากอีกทั้งยังมีโซเดียมสูงที่ทำให้ร่างกายบวม น้ำ ทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น
“การทานมื้อเช้าทำให้เราไม่รู้สึกหิวในระหว่างวัน โดยเฉพาะมื้อก่อนเที่ยง การอดอาหารเช้าทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ทำให้ต้องทานมื้อกลางวันและมื้อเย็นมากกว่าปกติ ดังนั้น เมื่อเราไม่ทานมื้อเช้าหลายคนจึงมีปัญหาเรื่องอ้วน”
นพ.อิทธิชัย บอกอีกว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับทานมื้อเช้ามากที่สุด คือ 07.00-09.00 น. เพราะเป็นช่วงที่กระเพาะอาหารเริ่มทำงาน ส่วนอาหารที่ถือเป็น “มื้อเช้าที่ดี” ที่เหมาะกับสุขภาพนั้น ควรจะเป็นอาหารที่มีไขมันต่ำ และย่อยง่าย เพื่อให้ระบบย่ายไม่ต้องทำงานหนักมากนัก โดยเน้นคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนเป็นหลัก
สำหรับอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนนั้น อายุรแพทย์รายนี้ ยกตัวอย่างว่า ได้แก่ ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ซีเรียลต่างๆ ขนมปังโฮวีต ซึ่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนนี้ จะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสอย่างช้าๆ ไม่เปลี่ยนพรวดพราดเหมือนแป้งขัดขาว ถือเป็นอาหารสุขภาพ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ป่วยเบาหวาน ทั้งยังช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ทำให้ไม่เกิดอาการหิวหรืออยากกินจุบจิบระหว่างมื้อ
“ส่วนโปรตีนมื้อเช้านั้นควรจะเป็นไข่ เนื้อปลา และถั่วต่างๆ นอกจากนี้ ต้องทานผักผลไม้เพื่อให้ได้วิตามินและเกลือแร่ครบสมบูรณ์ 5 หมู่ด้วย”
อย่างไรก็ตาม คุณหมอแนะนำว่า เพื่อให้หุ่นสวยกระชับควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย โดยเลือกออกกำลังแบบต่อเนื่อง และช่วยเผาผลาญไขมัน เช่น แอโรบิก ปั่นจักรยาน หรือวิ่ง อย่างน้อยวันละ 30 นาที เพียง 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น