เน้นความสามารถด้านความรู้และการงานอาชีพ ชี้ต้องให้อิสระ โปร่งใส
ปราศจากอิทธิพลจากภายนอก พร้อมจัดประชุมเสนอนโยบาย
และยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาด้านคุณภาพ
มาตรฐานการศึกษาและเรียนรู้ตามกรอบ 4 ใหม่ วันที่ 3-4 กรกฎาคมนี้
รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ
เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษา (กนป.)
ด้านการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาและเรียนรู้
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการประชุม ว่า
ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการพัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่
และคุณภาพสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่ ซึ่งได้ข้อสรุป คือ
การพัฒนาคุณภาพของคนไทยยุคใหม่
จะต้องมีความสามารถด้านความรู้และการงานอาชีพ โดย มีลักษณะสำคัญ 4 เรื่อง
คือ 1.ความรู้เรื่องการสื่อสารในการใช้ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ
2.ความรู้เรื่องทักษะด้านชีวิต เช่น การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
3.การงานอาชีพ 4.ลักษณะนิสัย บุคลิกภาพ ทัศนคติที่เหมาะสม ตลอดจนค่านิยม
วินัย แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ที่จะทำให้งานประสบความสำเร็จ
โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้จะต้องนำทั้ง 4
เรื่องไปพัฒนาเพื่อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของผู้เรียนในแต่ละช่วงอายุต่อไป
"สำหรับการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่
ที่ประชุมเห็นว่า ควรให้สถานศึกษาบริหารจัดการอย่างอิสระ
การกำกับดูแลสถานศึกษาให้มีคุณภาพ
ตลอดจนการสรรหาแต่งตั้งและประเมินเป็นไปอย่างโปร่งใสปราศจากอิทธิพลจากภาย
นอก รวมทั้งการกำหนดขนาดของสถานศึกษา การใช้ไอที ที่สำคัญที่สุด
คือการจัดสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษาที่เรียกว่า ครูที่พูดไม่ได้
เพื่อให้มีความเหมาะสมต่อการเรียนรู้" ประธานอนุกรรมการ กล่าว
รศ.ดร.วรากรณ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้
จะมีการประชุมปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและร่วมกันจัดทำข้อเสนอ
นโยบายและยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในด้านคุณภาพและมาตรฐานการ
ศึกษาและเรียนรู้ตามกรอบ 4 ใหม่ ในวันที่ 3-4 กรกฎาคมนี้ โรงแรมบางกอก
กอล์ฟ สปา รีสอร์ท จังหวัดปทุมธานี เมื่อได้ข้อสรุปเบื้องต้น
หลังจากนั้นจะเชิญผู้มีความรู้ในแต่ละเรื่องมาร่วมแสดงความคิดเห็น
เพื่อนำไปสู่การจัดทำเป็นยุทธศาสตร์เสนอ กนป.ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น