เคาะข่าวริมโขง : กมม.เสียรังวัด!ถอนลงเลือกตั้ง -เสียโอกาสซ้อมรบ

เสธ.อู๊ด"ถอนตัวลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม
ทำพรรคการเมืองใหม่เสียรังวัดสื่อให้เห็นว่ากรรมการบริหารพรรคทำงานพลาดไม่คิดให้ดีก่อนประกาศ
ซ้ำเสียโอกาสฝึกซ้อมรบก่อนเจอศึกใหญ่
และหากเป็นเหตุผลกลัวตัดคะแนนเสียงกันกับปชป.เป็นการขี้ขลาด
ควรยุบพรรคไปซะ

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เคาะข่าวริมโขง"

รายการ "เคาะข่าวริมโขง" ออกอากาศทาง "อีสานทีวี" ช่วงเวลา
18.30-20.30 น.วันศุกร์ที่ 25 มิ.ย. โดยมี น.ส.กมลพร วรกุล
รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้มีการเชิญ นายไพศาล พืชมงคล
อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และนายกฤษฎา ให้วัฒนานุกูล
อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ มาร่วมพูดคุยในรายการ

น.ส.กมลพร กล่าวเปิดประเด็นเรื่องการถอนตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเขต
6 ของ พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ
ในนามตัวแทนของพรรคการเมืองใหม่โดยให้ความเห็นไว้ว่าไม่อยากแข่งขันกับผู้ต้องหาก่อการร้าย

นายไพศาลกว่าวว่า
สภาพการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ถ้าเปรียบกับนักมวยลงเข้าชกแต่พอขึ้นสนามก็กระโดดหนีเลย
เพระฉะนั้นต้องคิดให้ดีว่าจะแก้ตัวยังไงก็ตามแต่ห้ามความคิดคนไม่ได้
ต้องชื่นชมเสธ.อู๊ด ที่เสียสละเมื่อรู้ว่ามีคนไม่สนับสนุนก็ยอมถอนตัว
แต่กรรมการบริหารพรรคนี่สิมีการลงมติกันแล้วว่าจะส่งคนลงรับเลือกตั้งแต่วันนี้เกิดอะไรขึ้น
ถ้าวันนี้จะส่งก็ยังทันอยู่

นายไพศาลกล่าวต่อว่า
แต่ถ้าเหตุผลที่กลัวตัดคะแนนเสียงกับประชาธิปัตย์ ถือเป็นเหตุผลอัปยศ
และควรฝังพรรคการเมืองใหม่ได้เลย เลิกพรรคไปเลย
แต่เป็นเหตุผลนี่หรือเปล่าไม่รู้ แต่ถ้าใช่ อีก 1 ปี 6 เดือน
ที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่ ความคิดขี้ขลาดนี้จะยาวไปถึงตอนนั้นหรือเปล่า

"เชื่อว่าวันนี้กรรมการบริหารพรรคมีแรงกระเพื่อมเข้ามามาก
เพราะนี่เป็นศึกแรกและเป็นโอกาสพิเศษในการฝึกซ้อมรบ
เพื่อดูกำลังพันธมิตรทั่วประเทศจะได้รู้มีจุดอ่อนจุดด้อยอย่างไร
เพื่อนำไปปรับใช้กับศึกใหญ่ แถมถ้าชนะเลือกตั้งครั้งนี้
กระแสพรรคจะดีจะมีคนแห่มาสมัครเข้าพรรคเต็มไปหมด
แต่นี่ทำให้ประชาชนผิดหวัง" นายไพศาล กล่าว

นายกฤษฎากล่าวว่า มองในมิติของความรู้สึกก่อนที่จะประกาศส่งคนลง
ต้องคิดก่อนว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร ต้องมีกระบวนการชัดเจน
ไม่รู้ว่ากรรมการบริหารพรรคได้มีการทำงานเป็นกระบวนกการแบบนี้หรือเปล่า
ซึ่งในวันที่ 3 นี้ ที่จะประชุมพรรค เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่
ต้องมีการซักไซ้ไล่เลียงกรรมการบริหารพรรค
และให้เอาเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียน

นายกฤษฎากล่าวต่อว่า
สำหรับหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่จะมีอำนาจในการคัดเลือกกรรมการบริหารพรรคด้วย
ต้องคัดคนที่เหมาะสม เหมาะที่จะมาทำการเมืองใหม่จริงๆ ส่วนตนเห็นใจพล.อ.
กิตติศักดิ์ เท่าที่รู้มา
มีกรรมการบริหารพรรคหลายคนที่ไม่เห็นด้วยที่จะส่งคนลงในเมื่อไม่พร้อมจะประกาศทำไม
และขอวิพากษ์ นายพิเชษฐ พัฒนโชติ เคยเป็นสว.โคราช
แต่ดันให้เป็นผอ.เลือกตั้ง สก. สข. กทม.
ไม่ได้ดูถูกแต่ในกระบวนขับเคลื่อนคนในพื้นที่จะเข้าใจได้มากกว่า

"หวังว่าการวิพากษ์วิจารณ์
จะเป็นสิ่งที่พรรคการเมืองใหม่จะเอาไปปรับปรุงเพราะพรรคนี้เป็นความหวังของประชาชน
แล้วนี่ก็เตือนด้วยความเป็นกัลยาณมิตร" นายกฤษฎา กล่าว

น.ส.กมลพรถามต่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้พรรคการเมืองใหม่เสียรังวัดหรือเปล่า

นายไพศาลกล่าวว่า เสียแต่จะได้นำไปทบทวน นำไปแก้ไขปรับปรุง
เพื่อใช้กับศึกใหญ่ในอีก 1 ปี 6 เดือน

นายกฤษฎากล่าวว่า เสียแน่นอนดูจากข่าวแล้วแต่ละคนหน้าถอดสีกันหมด
คำตอบก็ไม่ชัดเจน แต่ให้นำไปเป็นบทเรียนของกรรมการบริหารพรรค
และก็เป็นบทเรียนที่แรงที่สุดครั้งแรกของพรรคนี้ด้วย

น.ส.กมลพรกล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยส่ง นายก่อแก้ว พิกุลทอง
ลงรับเลือกตั้งแล้วจะใช้หุ่นในการหาเสียง

นายไพศาลกล่าวว่า บ้านเมืองจะพังเพราะพวกวิปริตพวกนี้
ตนขอแนะให้ปธ.ศาลฎีกาใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญวางระเบียบปฏิบัติไว้
ว่ากรณีนี้ต้องทำอย่างไรเพื่อเป็นบรรทัดฐาน
เหตุตอนที่ร่างรัฐธรรมนูญไม่มีใครคาดถึงว่าจะมีคนทำแบบนี้ได้
เหตุการณ์ที่ให้ผู้ต้องหาก่อการร้ายลงรับเลือกตั้งได้
เป็นการงามหน้าไปทั่วโลก

นายกฤษฎากล่าวเสริมว่า มันจะทำให้เป็นบรรทัดฐานทางสังคม
ต่อไปพ่อค้ายาเสพติดก็จะสมัครเข้าพรรคใดพรรคหนึ่งพอติดคุกก็จะขอออกมาโดยอ้างแบบนี้เหมือนกัน
ตนขอถามว่าคิดกันได้ไง
ไม่อยากจะพูดว่าสันดานพรรคนี้คาดไม่ถึงว่าจะเลวได้ขนาดนี้