++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552

"พระคุณแม่มากล้นรำพัน"เปิดใจนศ.ต่างชาติที่ มทร.ธัญบุรี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

"แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง แม่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล "
หนึ่งในเนื้อร้องเพลง "ค่าน้ำนม"
ซึ่งเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมอีกเพลงหนึ่งในช่วงเทศกาลวันแม่ แม่ คือ
ผู้ให้ ให้ชีวิต ให้ร่างกาย ให้ลมหายใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบเป็นคน 1
คน วันแม่ปีหลายคนคงเตรียมของขวัญให้แม่

เช่นเดียวกับ นักศึกษาต่างชาติ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
(มทร.) ธัญบุรี ที่พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ลืมที่จะแสดงความรักของพวกเขาที่มีต่อแม่
รวมตัวกันเข้ากราบ มอบพวงมาลัยให้กับคณะผู้บริหารและอาจารย์
แม่ๆที่ให้ความรักและความรู้แก่พวกเขา ตลอดระยะเวลาที่ได้ใช้ชีวิตในรั้ว
มทร.ธัญบุรี

"Chris" Christian Pappenheim จาก TH Gelsen Kirchen
ประเทศเยอรมัน ชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ
ซึ่งจะใช้เวลาในแลกเปลี่ยนประมาณ 1 ปี เล่าว่า ใช้ชีวิตอยู่ที่
มทร.ธัญบุรี ประมาณ 4 เดือน ตอนมารู้สึกแปลก
ตอนแรกๆเวลาที่สั่งอาหารทานจะมีปัญหามาก แต่ก็ได้เพื่อนๆคนไทยช่วยสั่ง
รู้สึกชอบนิสัยคนไทยที่สบายๆ
ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตในตอนกลางคืนมากกว่าตอนกลางวัน เพราะว่า
อากาศที่ประเทศไทยค่อนข้างร้อน
โดยตนเองวางแผนชีวิตไว้จะกลับไปที่ประเทศเยอรมัน
หลังจากนั้นก็จะกลับมาทำงานที่ประเทศไทย
ซึ่งตอนนี้ได้ช่วยงานอาจารย์ อยู่ที่ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์
อาจารย์ที่นี่มีความเป็นกันเองคอยให้ความช่วยเหลือ
เป็นโอกาสดีที่ตนเองและเพื่อนจะได้แสดงความขอบคุณ
ความรักของตนเองที่มีต่ออาจารย์
ซึ่งอาจารย์ก็เปรียบเหมือนแม่อีกคนของตนเอง

" สำหรับที่ประเทศเยอรมันก็มีวันแม่เหมือนกับประเทศไทย
แม่เป็นบุคคลที่สำคัญ แม่สามารถแก้ปัญหา ปรึกษาได้ทุกเรื่อง
มาอยู่ที่ประเทศไทย แม่ยิ่งต้องทำทุกอย่าง
โดยปีที่ผ่านๆมาเมื่อถึงวันแม่ก็จะมีของขวัญให้แม่ พาแม่ไปเที่ยว
ซึ่งอาทิตย์หน้าแม่ก็บินมาที่เมืองไทยก็จะพาแม่ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ
ในวันแม่ปีนี้ได้มีโอกาสมอบพวงมาลัยให้กับอาจารย์
รู้สึกว่าเป็นวัฒนธรรมไทยๆ ที่แสดงถึงความรู้สึกได้ดีมาก
สุดท้ายนี้ฝากบอกแม่ว่า "ขอบคุณแม่ที่ให้ชีวิตกับเขา"

"OLLI" Oliver Scharher และ "ANDY" Andreas Schngider จาก
Management Center Innsbruck Information System
สองหนุ่มเพื่อนซี้จากประเทศออสเตรเลีย เล่าว่า
ไม่รู้สึกกังวลที่จะต้องมาอยู่ที่ประเทศไทย
คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่คนเราจะต้องมีการเรียนรู้ ซึ่งต้องมาใส่ชุด
Unifrom ตอนแรกก็รู้สึกแปลก อากาศก็ร้อนใส่กางเกงขายาว แต่ก็เริ่มชิน
ซึ่งเมื่อดูแล้วเป็นระเบียบ เพราะว่าทุกคนแต่งตัวเหมือนกัน
ซึ่งรู้สึกแปลกใจในเรื่องของรองเท้า
โดยปกติที่ประเทศจะใส่รองเท้าเดินในบ้าน
แต่ที่ประเทศไทยถอดรองเท้าเดินในบ้าน
เป็นอีกวัฒนธรรมของคนไทยที่ไม่เหมือนกับที่ประเทศออสเตรเลีย "น้ำใจ
ความสัมพันธ์ของคนไทยทีมีต่อกัน" เป็นสิ่งที่มีเสน่ห์
สำหรับภาษาไทยเป็นภาษาที่ยาก เพราะว่า มีทั้งเสียงสูง-ต่ำ
ตอนนี้เริ่มที่จะเข้าใจและพูดได้นิดหน่อย

"แม่ มีความสำคัญมาก แม่เปรียบเป็นครูของลูก
โดยที่ออสเตรเลียมีวันแม่ตรงกับอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม
ทุกคนก็มีของขวัญให้แม่ แสดงออกเหมือนกับคนไทย มอบดอกไม้ เหมือนกับคนไทย
ตนเองเป็น 1 ในนักศึกษาทั่วไปที่รักแม่มากที่สุด"

"T.K" Tenzin Kunichok จาก Tibetan Homes sfoundahan (India)
ประเทศทิเบต นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ (IBA)
คณะบริหารธุรกิจ เล่าว่า ที่เลือกเรียนที่นี่ เพราะว่า
สถานที่เหมาะแก่การเรียน ไม่อยู่ในที่วุ่นวาย เหมาะที่จะศึกษา
อาจารย์มีความรู้ เป็นกันเอง "การเคารพผู้ที่อาวุโส
ให้ความเคารพซึ่งกันและกัน" รำไทย
เป็นสิ่งที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของไทย ซึ่งสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก
นิยามความรักของแม่ แม่เป็นเหมือนทุกอย่าง เป็นตัวอย่าง
อยากที่จะเป็นครูเหมือนแม่ วันแม่ที่ทิเบตวันที่ 20 ตุลาคม
สิ่งที่จำทำให้แม่ก็คือ ตื่นเช้าขึ้นมาก็จะกอดแม่
จากนั้นก็จะชงน้ำชาให้ท่าน พร้อมกับการทำอาหารอย่างสุดความสามารถ
และจะอยู่ด้วยกันตลอดวัน

เช่นเดียวกับพี่น้องฝาแฝด "Joy" Yan Jiry Sun "Rita" Yan Niry Sun
นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาการบริหารธรุกิจระหว่างประเทศ (IBA)
คณะบริหารธุรกิจ เล่าว่า อยู่ที่นี่มา 2 ปี ซึ่งรักประเทศไทยมาก คน
ไทยใช้ชีวิตที่เรียบง่าย มาเรียนที่ มทร.ธัญบุรี
อาจารย์ให้ความเป็นกันเอง คอยให้คำปรึกษา ถือเป็นโอกาสที่ดี
ที่วันนี้ได้มีโอกาสมาไหว้อาจารย์
ซึ่งเป็นปีแรกหลังจากที่ได้เข้ามาเรียนที่นี่ โดยคิดว่าอาจารย์ก็เป็นแม่
ที่คอยดูแล "แม่เปรียบเหมือนร่มคันใหญ่ที่คอยปกป้องลูก"
ระหว่างที่อยู่เมืองไทย ก็จะโทรกลับไปที่บ้าน 2 ครั้ง/อาทิตย์

ส่วน "Emma" Le thi Nuong จาก Hong Duc University ประเทศเวียดนาม
นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาการบริหารธรุกิจระหว่างประเทศ (IBA)
คณะบริหารธุรกิจ เล่าว่า เมือง ไทยเป็นเมืองที่สงบ
อากาศร้อนเหมือนที่เวียดนาม แต่ที่เวียดนามร้อนกว่า
การเคารพผู้อาวุโสเป็นสิ่งที่จะเอาไปใช้ยังประเทศเวียดนาม ไม่ รู้สึกเหงา
เพราะว่า เพื่อนคนไทยนิสัยน่ารัก มีน้ำใจ
โดยส่วนมากจะคุยกับทางบ้านโดยใช้ E-mail หรือว่า โทรศัพท์
แม่รู้สึกเป็นกังวลมากที่ต้องมาอยู่ที่เมืองไทย
ตนเองจะโทรไปเล่าความเป็นอยู่ที่เมืองไทย ซึ่งตอนนี้แม่ก็เลิกกังวล
"แม่เป็นผู้หญิงที่ให้ทุกอย่างกับเรา หนูรักแม่ค่ะ"

นั่น ก็คือ ความรู้สึกของนักศึกษาต่างชาติที่มีต่อแม่ของพวกเขา
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้บอกกับแม่ของเขาโดยตรง แต่สิ่งที่พวกเขาแสดงออก
เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากข้างใน พวงมาลัยเพียง 1 พวง แสดงถึงความรัก
มือของอาจารย์ที่ได้สัมผัสลงไปที่หัวของเขาเป็นความอบอุ่บความห่วงใยของ
อาจารย์ที่มีต่อลูกศิษย์
เปรียบเหมือนกับความรักของแม่ที่คอยห่วงใยลูกอยู่ตลอดเวลา

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000091405

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น