ลูกหนี้ยุ่บยั่บไปหมด ส่วนเจ้าหนี้ก็ใช่ว่า จะหน้าบาน เป็นจานกระเด้ง
เพราะอาชีพปล่อยเงิน
กู้เดี๋ยวนี้ เก็บเงินคืนลำบ๊าก... ลำบาก ถ้าเกิดลูกหนี้ ไม่มี
เงินใช้ซะอย่าง เจ้าหนี้มีหวังชวด ทั้งต้นทั้งดอกฯ แถมมีข่าวด้วยนะว่า
ทั้งเจ้าหนี้และ ลูกหนี้ต่างโหด
ด้วยกันทั้งคู่ มีการส่งมือสังหารไปทำร้ายกันและกัน
ให้เสียโฉมหรือบาดเจ็บสาหัส ฟังแล้วเสียวไส้ เห็นทีทั้งลูกหนี้และ
เจ้าหนี้ ควรรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็น
หางไว้บ้าง จะได้ไม่ ตกเป็นเหยื่อใครง่ายๆไงจ๊ะ
ถ้ามองหา สาเหตุของการ "เป็นหนี้" ล่ะก็ เห็นมีบ่อเกิดของการสร้างหนี้ เช่น...
ก.เงินเดือนน้อย แต่น้อยเท่าไหร่นี่ต้องพินิจพิเคราะห์กันอีกที
เพราะบางคนมีเท่าไหร่ก็ใช้ไม่พอ แบบนี้ไม่ใช่เงินเดือนน้อยแล้ว
แต่มือเติบมากกว่า ส่วนที่ราย
ได้น้อยจริงๆ คือมีรายได้น้อยกว่ามาตรฐาน การครองชีพในแต่ละวัน
นี่สิน่าเห็นใจที่ซู้ด ดังนั้น ถ้ากลุ่มนี้มีหนี้ก็มีไปเถอะ
แต่ใช้เค้าให้ได้ละกันนะ
ข.เป็นหนี้เพราะเข้าใจโลกหรือมองโลกด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม
อย่างกรณีที่พวกเราถูกโฆษณาสินค้าคะยั้นคะยอ
ให้อยากมีโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีฟังก์ชันมากมายก่ายกองงี้
คิดๆดู จำเป็นแค่ไหนถึงต้องมีโทร.
ไฮเทคปานนั้นล่ะ แต่ซื้อเพราะเท่ดี
หรือเชื่อว่าทำให้ตัวเองทันสมัยใช่หรือเปล่า
ความโก้หรือกิ๊บเก๋น่ะมีแต่ทำให้สิ้นเปลือง
ขืนเป็นหนี้แบบนี้ก็น่าเหยียบซ้ำ
ค.เป็นหนี้เพราะขาดการวางแผนทางการเงินที่เหมาะสม
หากได้รับเงินเดือนเพียงเดือนละครั้ง
ก็ควรแบ่งเก็บไว้ใช้จ่ายให้พอตลอดทั้งเดือน ไม่ใช่ใช้หมดตั้งแต่ต้นเดือน
แล้ววันอื่นจะเอาอะไรกิน ใครรู้ว่าเป็นคนแบบ
นี้จงแก้ไขซะ
จำไว้เหอะว่า การเป็นหนี้อย่างไม่สมเหตุ สมผล ย่อมทำให้เราดูงี่เง่าตามไปด้วย
เอ้า งั้นทายสิว่าคนเรามักปวดกะโหลกกับการเป็นหนี้อะไรมากที่สุด หนี้บ้าน
หนี้รถ หรือหนี้บัตรเครดิตล่ะจ๊ะ เอางี้ ขอเป็นตัวแทนของลูกหนี้ตอบ
แทนละกันว่า
เป็นหนี้บัตรเครดิตสิ เจ็บปวดสุด เพราะถ้าพิจารณาจากดอกเบี้ยของหนี้ทั้ง
3 อย่างที่ว่า หนี้บัตรเครดิตนี่แหละ ตัวโขกดอกเบี้ยเลย
เพราะงี้จึงควรทราบวิธีใช้
บัตรเครดิตให้คุ้มค่า แบบว่าฉลาดใช้จะได้ไม่ เสียค่าโง่ เช่น....
1. ตระหนักว่า การรูดเงินสดจากบัตรเครดิตควรเป็นวิธีการเลือกในอันดับท้ายๆ
อย่าเอะอะ อยากใช้ตังค์ก็ไปกดเงินสดมาใช้สุ่มสี่สุ่มห้า
เพราะด่านแรกจะโดน
เก็บค่าธรรมเนียมก่อนเลย แล้วถ้าจ่ายคืนไม่ตรงตามที่สถาบันการ เงินกำหนด
ยังโดนดอกเบี้ยสูงกว่าเงินกู้ทั่วๆไปอีก
2. ใช้ระยะเวลาของบัตรเครดิตให้เหมาะ
เช่นรูดซื้อสินค้าในช่วงแรกๆของรอบบัญชี
เพราะจะช่วยยืดระยะเวลาของการปลอดดอกเบี้ยได้นานขึ้น แถมยังเท่า
กับได้สินค้ามาใช้ก่อนจ่ายตังค์อีกตั้งหลายวัน
3. ใช้บัตรจับจ่ายใช้สอยก็ใช้ไป แต่ควรใช้ให้ พอดิบพอดีกับความจำเป็น
ไม่ใช่รูดเพลิน อยากได้ อะไรก็ใช้บัตรซื้อเอ๊า ซื้อเอา
ทำอย่างกะไม่ต้องใช้เงินคืน
งั้นแหละ บัตรเครดิตน่ะมีไว้เพื่อความสะดวก ไม่ใช่ให้ใช้ดะฟรีๆ อย่าเข้าใจผิดสิหนู.
"คนสมถะ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น