++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

คลำ "สองเต้า" เราทำได้เอง! มาป้องกันมะเร็งเต้านมกันเถอะ

คลำ "สองเต้า" เราทำได้เอง! มาป้องกันมะเร็งเต้านมกันเถอะ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


"สองเต้า"
ของสตรีเพศในโลกยุคกระแสสื่อสารสนเทศแทรกซึมวิถีชีวิตคนทั่วโลก
กลายเป็นสัญลักษณ์ของการกระตุ้นทางเพศ ทว่า
เจตจำนงที่ธรรมชาติมอบอวัยวะส่วนนี้ให้แก่มนุษยชาตินั้น
มีคุณค่าลึกลำล้ำกว่านั้นมากมายนักเพราะสองเต้าของผู้หญิงทุกคน คือ
แหล่งอาหารที่ไม่อาจหาสิ่งใดเสมอเหมือนสำหรับทารกทุกคนที่ถือกำเนิดขึ้นมาบน
ผืนพิภพสีน้ำใบนี้

นอกจากมีบทบาทหน้าที่ให้แก่โลก
สองเต้าบนร่างของสตรียังเป็นสิ่งที่ต้องการการบำรุงดูแลเพราะเป็นหนึ่งใน
อวัยวะที่รวมกลไกอันซับซ้อน และเป็นหนึ่งใน "จุดอ่อน"
ของร่างกายปัจจุบันมีแนวทางป้องกันโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นแก่เต้านมหลายวิธี
ที่สำคัญ ก็คือ การตรวจเต้านมเป็นประจำ
และการตรวจด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า "เมมโมแกรม" ที่น่าสนใจ คือ
ผู้หญิงในกรุงเทพฯ คือ ผู้ที่ "เข้าถึง"
การป้องกันทั้งสองวิธีดังกล่าวมากที่สุด

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
# คลำสองเต้า เราทำได้เอง!
ในช่วงที่ผ่านมา
กระทรวงสาธารณสุขได้จัดให้มีโครงการป้องกันและควบคุมโรคมเร็งเต้านม
โดยการรณรงค์ให้สตรีอายุ 35 ปี ขึ้น ไป ตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือน
อย่างไรก็ตาม อุบัติการณ์ของมะเร็งเต้านมก็ยังเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ โดยในปี
2542 อัตราอุบัติการณ์ของมะเร็งเต้านมในผู้หญิงไทยอยู่ที่ 19.9
ต่อประชากร 100,000 คน มากกว่าปี 2433 ซึ่งมีอัตราเท่ากับ 13.5
ต่อประชากรแสนคน

ข้อมูลที่น่าสนใจจากการสำรวจครั้งนี้ พบว่า ผู้หญิงไทยอายุ15-59
ปี ประมาณ ร้อยละ 50 เคยตรวจเต้านมด้วยตนเอง อีกประมาณ ร้อยละ 23
ได้รับการตรวจเต้านมจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
กลุ่มที่ได้รับการตรวจมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มอายุ 30 ปีขึ้น ไป
ส่วนกลุ่มที่อายุน้อย คือ 15-29 ปี มีการตรวจเต้านมด้วยตนเองเพียง ร้อยละ
35

ที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่ง ผู้หญิงในกรุงเทพฯ
เป็นกลุ่มที่ตรวจเต้านมด้วยตนเองมากที่สุด

# ตรวจด้วยเครื่อง เรื่องที่ยังไม่ครอบคลุม
ด้านการตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยเครื่องเมมโมแกรม
ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ละเอียดและแม่นยำกว่าการตรวจด้วยการคลำ
และมีโอกาสพบตั้งแต่ในระยะแรก โดยแพทย์แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีนีตั้งแต่อายุ
40 ปีขึ้นไปซึ่งพบว่า
ยังมีหญิงไทยน้อยมากที่มีโอกาสได้รับการตรวจเพื่อป้องกันมะเร็งเต้านมด้วย
วิธีนี้ โดยมีผู้หญิงเพียงร้อยละ 4 จากทั้งประเทศ
ที่มีโอกาสและผู้หญิงจากกรุงเทพฯ
ได้รับการตรวจเมมโมแกรมมากกว่าผู้หญิงจากทุกภาค

และเมื่อเหลียวมาดูข้อมูลการกระจายเครื่องเมมโมแกรมในประเทศไทย
ก็พบว่า ในปี 2549 ในกรุงเทพฯ มีเครื่องเมมโมแกรม 80 เครื่อง มากกว่าทัง้
ประเทศที่มีรวมกันนับได้เพียง 72 เครื่อง

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า
การตรวจเต้านมด้วยตนเองยังถือเป็นหนึ่งในปราการต้านมะเร็งก่อนสายได้อย่างมี
ประสิทธิภาพพอสมควร

บทความโดย:
การสำรวจสภาวะสุขภาพอนามัยของประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 3
พ.ศ.2546-2547

สืบค้นได้จาก http://www.hiso.or.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น