++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ตกงาน น่ะหรือไม่แย่อย่างที่คิด

ตราบใดที่มนุษย์ส่วนหนึ่งยังคง หางานทำตัวเป็นเกลียว ขณะบางราย
มีงานทำมือเป็นระวิง ตราบนั้นเชื่อดิ ว่าย่อมต้อง มีคนออกจากงาน
ด้วยเหตุผลนานัปการ เช่น ลาออกเองบ้าง, ถูกปลดออกบ้าง
หรือไม่ก็ขอใช้สิทธิ์เออร์ลี่รีไทร์ ได้ไปนอนเกาพุงอยู่กะบ้าน
ให้ฟุ้งซ่านปนเสียวสยองเล่นแหงซะ

มีนักจิตวิทยาเล่าให้ฟังว่า ในบรรดาสถานการณ์ดังต่อไปนี้เช่น กำลังหย่า,
กำลังจะเข้าคุกหรือกำลังจะตกงาน พบว่า
เหตุการณ์ที่ทำให้คนเราเครียดง่ายที่สุด
เห็นจะหนีไม่พ้นการออกจากงานนี่แหละ สามารถทำให้ประสาทแด๊กได้ง่ายที่สุด

เจ้าอาการประสาทผวาที่เกิดขึ้นนี่ก็เพราะวิตกกังวลกลัวว่า
ถ้าไม่มีงานทำเดี๋ยวจะประสบปัญหา ทางเศรษฐกิจน่ะเซ่ ก็แหม
หากใครออกจากงานแล้วพ่อแม่ร่ำรวยหรือยังมีเงิน
เก็บเป็นกอบเป็นกำก็คงไม่ค่อยสะดุ้งสะเทือนเท่าไหร่
แต่ถ้าไม่ได้ร่ำได้รวยอะไร ก็ต้องใจหายเป็นธรรมดา

ว่าแต่เมื่อจำใจต้องกลายเป็น "คนตกงาน" อย่างนี้แล้ว
คุณก็ควรยอมรับความจริงที่โหดร้าย โดยดุษฎีซะเหอะ
จะไปปฏิเสธความจริงก็คงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นใช่มะ

ใน วิธีอันชาญฉลาดในการใช้ชีวิตหลังตกงาน (Smart Strategies for
Surviving a Job Loss) บอกไปนู่นว่า มีระดับอารมณ์ของการตกงานอยู่ 6 ขั้น
ซึ่งก็คล้ายกับประสบการณ์ หลังจากรู้ว่าคนที่เรารักเสียชีวิตนั่นแหละ คือ
ตกใจ, กลัว และตื่นตระหนก, โกรธ, รู้สึกว่าตัวเองตกเป็นรอง,
กดดันและยอมรับความจริง (ที่ว่าต้องตกงานเนี่ยนะ)
ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
ซึ่งไอ้ที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องตกงานนี่ก็ไม่ต้องทำหน้าเหลอหลากันไป
เพราะเศรษฐกิจไม่เห็นดีขึ้นอย่างที่ใครมาเป่าหูให้ฟังเลย
แถมคำว่าเศรษฐกิจดีขึ้นเนี่ย...ก็ไม่รู้ว่าเศรษฐกิจของกระเป๋าใครเหรอที่ว่าดีหอฮ้อนั่นน่ะ
ในเมื่อยังมีชาวบ้านตาดำๆมากมายที่ยังหาเช้ากินค่ำอยู่เยอะแยะ
แถมในเมื่อมีนโยบายให้คนเกษียณเร็วขึ้นทั้งที่สมัครใจและบีบบังคับ
ขืนใครโดนสภาพนี้ ถ้าไม่กลุ้มก็คงแกร่งเกินไปแล้ว เหตุนี้
หนทางที่เลิศสุดในการจัดการกับความเครียดและ
ความหงุดหงิดอันเกิดจากการตกงาน จึงมีเคล็ดลับง่ายๆ
อยู่ตรงอยากให้ผู้ไร้งานดูแลฟูมฟักตัวเองดังต่อไปนี้บ้าง ได้แก่....

ด้านอาหารการกิน- ทบทวนว่า
ระยะนี้ดื่มเหล้ายาปลาปิ้งถี่ยิบเกินไปหรือเปล่า? จริงอยู่ หรอก
ถ้าหากความวิตกจริตหรือความเครียดจะทำให้คุณเศร้าสร้อย
ซะจนต้องหันหน้าไปพึ่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แต่ก็ควรเพลาๆมือบ้าง
อย่าดื่มเพลินซะจนเสียผู้เสียคน
ไม่งั้นคงยากที่จะฉวยวิกฤติไปสร้างโอกาสนะเอ้า

ออกกำลังกาย- ตอนไม่มีงานเป็นหลักเป็นแหล่งทำ
คุณก็ควรหากิจกรรมอะไรก็ได้ทำซะหน่อย อย่ามัวเป็นบังอรเอาแต่นอน
หรือสลดหดหู่ซะจนไม่นึกอยากทำมาหากินอะไรอีกก็แย่ดี้

จิตใจ- คุณเคยใช้เวลาในแต่ละวันพูดคุยกับใจของคุณบ้างไหม?
การคุยกับใจตัวเอง หมายถึงการแสวงหาความสงบทางใจนั่นแหละ
ไม่ใช่ให้ทะเลาะด้วยนะ
ถ้าสามารถทำใจให้ร่าเริงเบิกบานท่ามกลางความขมขื่นได้ละก็
โอกาสที่คุณจะหางานทำได้อีก ก็มีมากขึ้นเชื่อไหมล้า ยิ้มได้เมื่อภัยมา
แสดงว่าสุขภาพจิตยังโอเค บ๋ายบาย.

"คนสมถะ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น