++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

จริงหรือ! ความเชื่อขณะตั้งครรภ์ / รศ.พญ.สายฝน ชวาลไพบูลย์ สูตินรีแพทย์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 สิงหาคม 2552 08:10 น.
ปัจจุบัน นี้ถึงแม้ว่าความเจริญทางด้านการแพทย์จะก้าวหน้าไปมาก
จนทำให้การตั้งครรภ์ และการคลอดมีความปลอดภัยสูง
แต่คุณแม่ทุกคนก็ยังมีความวิตกกังวลถึงความปลอดภัยของลูกและตนเอง
ยิ่งในสมัยโบราณความหวาดกลัวต่อการคลอดลูกมีสูงมาก
เพราะการแพทย์ในสมัยนั้นยังไม่ทันสมัย
ทำให้อัตราตายทั้งแม่และลูกค่อนข้างสูงจนมีผู้เปรียบเทียบการคลอดลูกเหมือน
กับการออกไปรบกับข้าศึก จะมีชีวิตรอดกลับมาหรือเปล่าก็ไม่รู้

ด้วยเหตุนี้คนสมัยก่อนจึงต้องพยายามเรียนรู้จากประสบการณ์
สิ่งแวดล้อมและข้อปฏิบัติต่างๆ
ที่จะทำให้การตั้งครรภ์และการคลอดดำเนินไปอย่างปลอดภัย
จากนั้นก็พยายามถ่ายทอดความรู้เหล่านี้ต่อๆ กันมาเป็นทอดๆ
ด้วยความปรารถนาดีที่จะให้รุ่นลูกรุ่นหลานปฏิบัติตามจะได้คลอดอย่างปลอดภัย
จนในที่สุดก็เกิดเป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
ความเชื่อเหล่านี้บางอย่างก็มีประโยชน์ บางอย่างก็ดูไร้เหตุผล
และหลายๆอย่างก็ถูกดัดแปลงหรือเพิ่มเติมตามยุคสมัย
เราลองมาดูความเชื่อต่างๆ
ที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอดในบ้านเราว่ามีอะไรกันบ้าง

ระยะก่อนตั้งครรภ์
- เริ่มตั้งแต่พอเริ่มอยากจะมีลูกก็ต้องไปบนบานศาลกล่าวขอลูกกับหลวงพ่อหรือ
ศาลเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย พอกราบไหว้หลวงพ่อเสร็จก็คงสบายใจ
รังไข่เลยทำงานดี ก็เลยท้องสมใจ หลวงพ่อวัดนั้นก็เลยดังไม่รู้เรื่อง
มีผู้คนไปกราบไหว้ขอลูกกันเป็นแถว ทั้งๆ
ที่ตัวการที่ทำให้มีลูกสมใจก็คือสามีที่บ้านนั่นเอง
- บางรายเชื่อว่าถ้าได้ไปลอดท้องช้างแล้วจะมีลูกและอายุยืนยาวซะด้วย
บังเอิญวันนั้นช้างตกมัน อารมณ์หงุดหงิดก็เลยถูกช้างเหยียบตาย อายุสั้น
หมดโอกาสจะมีลูกไปเลย

ระยะตั้งครรภ์
- พอเริ่มตั้งครรภ์คนโบราณก็ห้ามทำบาป เช่นฆ่าสัตว์ ตกปลา
ห้ามไปงานศพ เพราะกลัวจะทำให้จิตใจ ไม่สบาย เดี๋ยวลูกจะไม่แข็งแรง
- ตามต่างจังหวัดบางแห่ง
พอเริ่มตั้งครรภ์ก็จะมีการทำพิธีผูกข้อมือด้วยด้าย หรือสายสิญจน์
โดยเชื่อว่าจะคุ้มครองลูกในท้องให้ปลอดภัย
แคล้วคลาดจากภูติผีปิศาจและอันตรายทั้งปวง ปัจจุบันนี้ก็ยังพบได้พอ
สมควรที่เวลามาคลอดมีสายสิญจน์ หรือด้ายผูกข้อมือแม่มาด้วย
- เรื่องอาหารการกินสำหรับคนท้องก็มีความเชื่อแตกต่างกันไป
บางแห่งห้ามกินเนื้อสัตว์และไข่
ถ้าคุณแม่เชื่อลูกก็คงคลอดออกมาตัวเล็กนิดเดียว
เพราะขาดโปรตีนซึ่งเป็นอาหารหลักที่ช่วยในการเจริญเติบโต
บางคนก็เชื่อว่าถ้าอยากให้ลูกมีผิวขาวก็ห้ามกินอาหารที่มีสีดำ เช่น
เฉาก๊วย โอเลี้ยง เป็นต้น จริงๆแล้วจะดำหรือขาวอยู่ที่พันธุกรรมมากกว่า
บางรายเชื่อว่าถ้าให้แม่ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนมากๆ
จะทำให้ลูกมีผิวสวยและช่วยล้างไขตามตัวออกด้วย
ความจริงไขตามตัวเด็กจะหลุดลอกออกไปเองเมื่อครบกำหนดคลอด
แต่ถ้าเด็กคลอดก่อน

-2-
กำหนดมากๆ จะมีไขขาวๆ ติดตามผิวหนังทั่วตัว
เพราะไขยังไม่ทันหลุดลอกจากผิวหนังก็คลอดเสียก่อนแล้ว
ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมะพร้าวเลย

- เรื่องเพศของลูกก็เป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนอยากรู้ทั้งนั้น
สมัยก่อนยังไม่มีเครื่องอัลตร้าซาวด์ก็มีการทำ
นายเพศกันล่วงหน้าโดยการดูลักษณะของสะดือ ถ้าสะดือหงายก็เป็นชาย
สะดือคว่ำก็เป็นหญิง ปัจจุบันก็ยังมีความเชื่อเรื่องนี้อยู่เยอะทีเดียว
ถ้าสะดือไม่คว่ำไม่หงายสงสัยลูกก็คงจะเป็นกระเทยหรืออวัยวะเพศกำกวมแน่

- เรื่องเพศสัมพันธ์
ก็เป็นอีกเรื่องที่สามีภรรยาจำนวนมากมีความเชื่อผิดๆ ว่า
ต้องงดเด็ดขาดหลังจากตั้งครรภ์แล้ว เพราะอาจทำให้ลูกแท้งหรือพิการได้
ผลก็คือสามีแอบไปผ่อนคลายนอกบ้าน
มีภรรยาน้อยหรือติดเอดส์มาก็ตอนภรรยาตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์ไม่ใช่ข้อห้ามสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ สามารถมีได้ตามปกติ
เพียงแต่ควรปฏิบัติด้วยความนุ่มนวลและหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณมดลูก
ท่าที่เหมาะสมคือสามีอยู่ด้านหลังภรรยา หรือภรรยาเป็นฝ่ายอยู่ด้านบน
และควรงดในเดือนสุดท้ายก่อนคลอดเพราะภรรยาคงจะอึดอัดแน่นท้องมากแล้ว
และเพื่อป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
สำหรับในช่วงแรกถ้าภรรยามีอาการแพ้ท้องมากก็ควรงดเช่นกัน
เพราะร่างกายกำลังอ่อนเพลียมากคงต้องการจะพักผ่อนมากกว่า

- คุณแม่หลายรายเชื่อว่ายาบำรุงที่หมอให้ไปกินขณะมาฝากครรภ์จะทำให้อ้วนมาก
นี่ก็เป็นความเชื่อที่ผิดอีกเช่นกัน
ยาบำรุงที่ได้รับตอนฝากครรภ์จะเป็นยาบำรุงจำพวกเหล็กและวิตามินที่จำเป็นต่อ
การตั้งครรภ์ ช่วยทำให้การสร้างเม็ดเลือดแดงดีขึ้น
เป็นผลดีต่อตัวคุณแม่และทารกในครรภ์โดยตรง ไม่ได้ทำให้อ้วนแม้แต่น้อย
แต่ที่เห็นอ้วนๆ
กันนั้นเป็นผลมาจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์
ทำให้เนื้อเยื่อของร่างกายอมน้ำได้มากขึ้น เนื้อหนังจึงดูเต่งตึงกว่าปกติ
นอกจากนี้ คนท้องจะเจริญอาหารทำให้กินเก่ง กินบ่อย และนอนหลับง่ายขึ้น
ก็เลยอ้วนได้ง่าย เพราะฉะนั้นเวลามาฝากท้อง
ยาบำรุงที่ได้รับมาต้องกินอย่างสม่ำเสมอ
ถ้าไม่อยากอ้วนมากก็ใช้วิธีควบคุมอาหารเอาแล้วกัน

- คุณแม่หลายรายมาฝากท้องเอาตอนใกล้คลอดแล้ว
บางรายไม่เคยฝากท้องเลย มาโรงพยาบาลเอาตอนเจ็บท้องใกล้จะคลอดอยู่แล้ว
คุณแม่กลุ่มนี้ส่วนใหญ่มักจะมีการศึกษาน้อย
และไม่ทราบความสำคัญของการฝากครรภ์
มีความเชื่อผิดๆว่าถ้าไม่มีอาการผิดปกติไม่ต้องฝากครรภ์ก็ได้
ทำให้ลูกขาดการดูแลด้านโภชนาการอย่างถูกวิธี
แม่ไม่ได้รับยาบำรุงเลือดอย่างพอเพียง ทำให้เลือดจางกว่าปกติมาก
นอกจากนี้ ถ้ามีโรคติดต่อบางชนิดในระหว่างตั้งครรภ์ก็อาจทำให้ลูกเกิดความพิการได้
เช่น โรคซิฟิลิส หัดเยอรมัน โรคเอดส์
รวมทั้งอาจไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักได้ทันอีกด้วย

- การฝากครรภ์ในปัจจุบัน
สูติแพทย์นิยมใช้เครื่องอัลตร้าซาวนด์ในการตรวจดูทารกในครรภ์เพื่อติดตามการ
เจริญเติบโตเป็นระยะๆ
คุณแม่หลายคนยังมีความกังวลต่อการตรวจด้วยเครื่องมือชนิดนี้
และมักจะถามอยู่เสมอว่าการตรวจด้วยอัลตราซาวนด์บ่อยๆ จะทำให้ลูกพิการ
หรือมีผลเสียอะไรหรือไม่ จากการศึกษาติดตามมาเป็นระยะเวลายาวนาน
สามารถยืนยันได้ว่าปลอดภัย ไม่มีอันตรายหรือผลเสียต่อทารกในครรภ์
คุณแม่บางรายเข้าใจผิดว่าเครื่องอัลตราซาวนด์อาจมีรังสีคล้ายเครื่อง
เอกซเรย์ ความจริงแล้วเป็นคลื่นเสียงความถี่สูงเช่นเดียว
กับคลื่นวิทยุแต่อ่อนกว่ามาก ไม่มีรังสีเอกซเรย์เลย

พบสารพันความเชื่อของคุณแม่ตั้งครรภ์ระยะคลอดและหลังคลอดพฤหัสบดีหน้าค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น