++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

คอเลสเตอรอล – ไตรกลีเซอไรด์ คืออะไร หากภาวะสูงเกินจะกำจัดได้อย่างไร?



คอเลสเตอรอล (cholesterol) เป็นไขมันที่เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ของทุกเนื้อเยื่อในร่างกายและถูกขนส่งในกระแสเลือด คอเลสเตอรอลส่วนใหญ่ไม่ได้มากับอาหาร แต่ถูกสังเคราะห์ขึ้นภายในร่างกาย สะสมอยู่มากในเนื้อเยื่อของอวัยวะที่สร้างมันขึ้นมา เช่น ตับ ไขสันหลัง (spinal cord) สมอง และผนังหลอดเลือดแดง (atheroma)

คอเลสเตอรอลมีบทบาทในกระบวนการทางชีวเคมีมากมาย แต่ที่รู้จักกันดีคือเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหัวใจและระบบหลอดเลือด (cardiovascular disease) รวมทั้งภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง (Hypercholesterolemia)

ร่างกายใช้คอเลสเตอรอลเป็นสารตั้งต้นในการสร้างฮอร์โมนเพศทุกชนิด สร้างน้ำดี สร้างสารสเตอรอล ที่อยู่ใต้ผิวหนังให้เป็นวิตามินดีเมื่อโดนแสงแดด คอเลสเตอรอลพบมากในไข่แดง เครื่องในสัตว์ และอาหารทะเล ร่างกายสามารถสังเคราะห์เองได้แต่ไม่เพียงพอกับความต้องการ

ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัวประมาณ 68 กิโลกรัม (150 ปอนด์) จะมีคอเลสเตอรอลประมาณ 35 กรัม โดยร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเองประมาณ 1 กรัมต่อวัน โดยทั่วไปร่างกายของคนไทยควรได้รับคอเลสเตอรอลจากอาหารที่รับประทานเข้าไปไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนที่ร่างกายรับเพิ่มเข้าไปจะถูกชดเชยโดยการลดปริมาณที่สังเคราะห์ขึ้นเอง (อ้างอิง : วิกิพีเดีย)

ปัญหาอยู่ที่ว่าคนส่วนใหญ่บริโภคไขมันที่เป็นคอเลสเตอรอลส่วนเกิน ในปริมาณที่มากเกินไป ถึงแม้ร่างกายจะชดเชยโดยลดปริมาณที่สังเคราะห์ขึ้นเองแล้วก็ตาม เนื่องจากคอเลสเตอรอลอยู่ในรูปไขมันจึงไม่ละลายน้ำ ดังนั้นจึงขนย้ายในกระแสเลือดได้ยาก เหมือนน้ำกับน้ำมันที่ไม่รวมตัวกัน

ร่างกายจึงออกแบบให้ไขมันถูกลำเลียงในกระแสเลือดในรูปแบบการรวมตัว โดยให้โปรตีนเป็นเสมือนพี่เลี้ยงหุ้มไขมันให้อยู่ด้านใน โปรตีนดูดซึมน้ำได้ดีกว่าจึงสามารถพาไขมันไปในกระแสเลือดได้ เราเรียกรูปแบบ ของการรวมตัวนี้ว่า ไลโปโปรตีน (lipoprotein) ไม่เพียงแต่คอเลสเตอรอล ไขมันพวกไตรกลีเซอไรด์ก็ถูกพาไปในกระแสเลือดด้วยไลโปโปรตีนเช่นเดียวกัน

รูปแบบของคอเลสเตอรอลในเลือดที่อยู่ในลักษณะของไลโปโปรตีน (lipoprotein) มีสองชนิดคือ LDL และ HDL ทั้งสองชนิดมีทั้งคุณและโทษหากมีในปริมาณที่ไม่เหมาะสมกับการทำงานในร่างกาย ถ้ามีในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้การทำงานต่างๆ ในร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

แอล ดี แอล (LDL, Low Density Lipoprotein) มีส่วนประกอบของ คอเลสเตอรอล 45% ทำหน้าที่ขนส่งคอเลสเตอรอลจากตับไปยังผนังเส้นเลือด เนื้อเยื่อไขมัน และกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ถ้ามีจำนวนมากจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น ถ้าสูงเป็นระยะเวลานาน จะเกิดการพอกเกาะติดตามหลอดเลือดที่มีการอักเสบ หากมีการอักเสบอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดการอุดตัน จัดเป็นไขมันชนิดร้าย

การอักเสบที่ทำให้คอเลสเตอรอลมาพอกติดผนังเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดอุดตันนั้น มีสาเหตุสำคัญมาจากการกินน้ำตาล ไขมันประเภทไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน หรือไขมันประเภทผ่านกรรมวิธี วิธีลด LDL คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีคือ กินผักและใยอาหาร ซึ่งจะช่วยดูดซึมคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีออกมา

สาเหตุของโรคหลอดเลือดอุดตัน เป็นที่มาของโรคอีกหลายโรคเช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนในปัจจุบันเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะโรคหัวใจ ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจนเป็นอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตของประชากรโลกในปัจจุบันอันมีสาเหตุเบื้องต้นมาจากโรคหลอดเลือดอุดตัน เป็นเพราะความเข้าใจผิดว่าสาเหตุหลักมาจากตัวคอเลสเตอรอลและไขมันอิ่มตัวที่อยู่ในกระแสเลือด การเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตัน แท้จริงมาจากการอักเสบของผนังเส้นเลือด และการอักเสบนี้มีสาเหตุจากการบริโภคน้ำตาลและไขมันผิดประเภท

เอช ดี แอล (HDL, High Density Lipoprotein) เป็นไขมันที่สร้างจากตับและลำไส้ ทำหน้าที่ขนส่ง คอเลสเตอรอลจากเซลล์ทั่วร่างกายมายังตับ เพื่อเผาผลาญเป็นน้ำดี หรือนำไปให้ตับสร้าง LDL ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดต่ำลง จัดเป็นไขมันชนิดดี การมีระดับ HDL คอเลสเตอรอลชนิดดีสูง จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตันได้ เอชดีแอลยิ่งสูงเท่าไหร่ยิ่งดีต่อร่างกาย

วิธีเพิ่ม HDL คือ ออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงภาวะเครียด

******* *******
ไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) คืออะไร
ไตรกลีเซอไรด์ เป็นไขมันในเลือดที่ร่างกายได้จากการสังเคราะห์ขึ้นในตับ จากอาหารส่วนหนึ่ง ไตรกลีเซอไรด์นับเป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย โดยได้มาจากอาหารจำพวกแป้งน้ำตาล ไขมันประเภทต่างๆ รวมทั้งโปรตีนที่เหลือใช้จะถูกเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์ และเก็บสะสมไว้ที่ไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อใช้เป็นพลังงานสำรอง

ไขมันชนิดนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเสื่อมของหลอดเลือดแดง ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจขาดเลือด อัมพาต อัมพฤกษ์ได้ เช่นเดียวกับการมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง การมีไตรกลีเซอไรด์ปริมาณสูงทำให้เลือดข้นเหนียว เกิดการจับตัวกันเป็นลิ่มเลือด และอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจและสมอง

ระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูงมากๆ อาจจะทำให้เกิดโรคตับอ่อนอักเสบได้ ผู้หญิงที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์สูง จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม เพราะไตรกลีเซอไรด์ที่สูงไปกระตุ้นให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ไหลเวียนอยู่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเป็นมะเร็งเต้านม

โดยปกติร่างกายขจัดไตรกลีเซอไรด์ออกจากเลือดได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีขนาดเบาบางและเล็กมาก เพียงแค่สองสามชั่วโมงหลังจากการกินอาหาร ไขมันไตรกลีเซอไรด์ส่วนใหญ่จะถูกขจัดออกจากเลือดเข้าสู่เซลล์ได้แล้ว คนทั่วไปมีไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดไม่สูง คือประมาณ 50-150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หากตรวจเลือดหลังอดอาหารมาแล้ว 8-12 ชั่วโมง พบว่าไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป แสดงว่าร่างกายมีปัญหาในการขจัดไตรกลีเซอไรด์

เรารู้จักไขมันทั้งสองชนิดคือ คอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ แล้วว่ามีประโยชน์และโทษอย่างไรบ้าง ถ้าสามารถควบคุมปริมาณไขมันทั้งสองชนิดนี้ได้ สุขภาพจะดีขึ้น

ปัญหาสำคัญของไขมันทั้งสองชนิดนี้ที่มีต่อสุขภาพคือ มีปริมาณที่เกินความจำเป็นในร่างกาย ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการกินอาหารที่มีไขมันทั้งสองประเภทนี้มากเกิน เกิดภาวะสะสมพอกอยู่ตามอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงอยู่ในกระแสเลือดด้วย และที่สำคัญไขมันที่มากเกินนี้ยังมีภาวะปนเปื้อนของสารพิษที่สามารถละลายอยู่ในไขมันนี้อีก อวัยวะบริเวณที่มีไขมันมีพิษไปพอก ก็จะเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายในบริเวณนั้น

การล้างพิษตับ มุ่งเน้นให้ร่างกายสามารถขจัดไขมันส่วนเกินและมีพิษสะสมออกจากร่างกายให้เร็วที่สุด ผ่านทางการผลิตน้ำดีของตับ โดยขจัดให้เร็วกว่าที่จะมีการดูดกลับของน้ำดี

เมื่อพิจารณาองค์ประกอบโดยรวมของน้ำดีแล้วจะเห็นว่า น้ำดีมีไขมันเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ซึ่งมีไขมันประเภทคอเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบมากที่สุดถึงกว่าร้อยละ 80 นอกนั้นมีรงควัตถุที่ได้จากการกำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุแล้วจากม้าม

มีไขมันอีกประเภทคือพวกฟอสโฟไลปิด (phospholipid) เป็นไขมันที่ช่วยในการละลายนิ่ว และทำให้ไขมันไม่เหนียวตัวจับกันแน่น เช่น เลซิติน และมีน้ำเป็นส่วนประกอบ หากเราทำให้น้ำดีที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร (โดยเฉพาะสารอาหารพวกไขมัน) สามารถถูกขจัดออกนอกร่างกายได้จำนวนมากและเร็วจนร่างกายไม่สามารถดูดน้ำดีกลับไปใช้ได้ใหม่ การย่อยอาหารในคราวต่อไปร่างกายจำเป็นต้องหาวัตถุดิบใหม่คือ ไขมันประเภทคอเลสเตอรอลจากส่วนต่างๆ ของร่างกายมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตับ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำดีก็ จะถูกตับดึงคอเลสเตอรอลที่สะสมไว้ออกมาใช้งาน โรคไขมันพอกตับก็จะลดน้อยลง

หากล้างพิษอย่างต่อเนื่องประมาณเดือนละครั้ง ภาวะไขมันพอกตับจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อลดปริมาณไขมันที่พอกในตับลง ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดพังผืดที่จะทำให้ตับอักเสบก็น้อยลง ตับสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ การกำจัดเซลล์เสียหรืออนุมูลอิสระ จะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรคมะเร็งจะมีโอกาสน้อยลง หรือไม่มีโอกาสก่อตัวขึ้นในตับ สำหรับสถิติของคนที่เป็นมะเร็งอยู่ก่อนการล้างพิษ หลังจากการล้างพิษแล้ว ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด มีภาวะดีขึ้น หลายคนหายจากมะเร็งหากเป็นในช่วงเริ่มต้น

ภาพ: ปริมาณของไขมันแต่ละชนิดที่ควรมีอยู่ในกระแสเลือดเป็นดังนี้
******* *******

สนใจเข้าคอร์สล้างพิษตับกับชีวอโรคยา กรุณาอย่าถามที่ช่องคอมเม้นท์!!! ถามอีก 4 ช่องทางดีกว่านะคะ
* หมายเหตุ: แอดมินอาจไม่เห็นคอมเม้นท์นะคะ สนใจสอบถาม หรือจะเข้าร่วมกิจกรรม โปรดอ่านที่คำบรรยาย คลิกตามไปอ่านข้อมูลที่ภาพแรกหน้าเฟซบุ๊ก ชีวอโรคยาได้เลยนะคะ

www.facebook.com/pages/ชีวอโรคยา/135957369811772

มีครบทุกอย่างที่ควรทราบและต้องทราบค่ะ อ่านรายละเอียดแล้วหากสนใจร่วมกิจกรรม สามารถสอบถามราคา-บัญชีโอนเงินเพื่อจองคอร์สร่วมกิจกรรมติดต่อเราได้ 4 ทาง คือ
- สอบถามได้ทางช่องข้อความ (Message)
- ฝากอีเมล์ของท่านเพื่อไว้ในข้อความ (Message)
- อีเมล์หาเราที่ Chivaarokhaya@hotmail.com
- อ่านรายละเอียดจบแล้ว โทรถามราคา-บัญชีโอนเงิน
ได้ที่ 09 0808 0316 รับสาย 09.00-19.00 น.

!!!อย่าฝากอีเมล์ให้ในช่องคอมเม้นท์!!! เนื่องจากจะมีผู้ขโมยอีเมล์ของคุณไปสร้างความรำคาญให้คุณค่ะ

โปรดอ่านศึกษาข้อมูลก่อนโทรมาสอบถามราคาจะดีมากเลยค่ะ เพื่อทราบว่าคุณมีคุณสมบัติเข้าคอร์สได้ไหม และทราบรายละเอียดต่างๆ เนื่องจากรายละเอียดมาก อาจไม่มีเวลาอธิบายได้ครบหมด

******* *******
หาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดโรคต่างๆ ในร่างกายและวิธีการป้องกัน ได้ในหนังสือ “ล้างพิษตับ ดีท็อกซ์ลำไส้” เขียนโดย “ชีวอโรคยา และ วันชัย สุนทรถาวร” สำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊กส์ ราคา 180 บาท
หาซื้อได้ที่ ร้านซีเอ็ด /ร้านนายอินทร์ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ

หากไม่มีเวลาไปหาตามแผงสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ต่างๆ ได้มากมายค่ะ อาทิ

แบบหนังสือเล่ม ลดเหลือ 171 บาท
www.se-ed.com/productล้างพิษตับ-ดีท็อกซ์ลำไส้.aspx?no=9786165155892

แบบ E-Book ลดเหลือ 153 บาท
www.mebmarket.com/index.php?action=Publisher&id=54840&name=Nation%20Books

******* *******
เครดิต: เรื่อง – ภาพโดย ชีวอโรคยา และ วันชัย สุนทรถาวร จากหนังสือ “ล้างพิษตับ ดีท็อกซ์ลำไส้” เขียนโดย “ชีวอโรคยา และ วันชัย สุนทรถาวร”

แบ่งปันความรู้ทั่วไป เพื่อความพอเพียง และสุขภาพที่ดี โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

ชีวอโรคยา อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีไม่พึ่งสารเคมี ไม่ต้องรอให้ป่วยไปเสียค่ารักษาพยาบาลแพงๆ

ติดตามข้อมูลข่าวสารการดูแลตัวเองวิถีธรรมชาติ ไม่พึ่งสารเคมีได้ที่ Facebook ชีวอโรคยา
www.facebook.com/pages/ชีวอโรคยา/135957369811772

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น