++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

วิธีให้กำลังใจตัวเอง (เวลารู้สึกว่าชีวิตย่ำแย่).....ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร



ในยามที่เรามีพร้อมทุกอย่าง มีการมีงานทำ มีอาหารกินครบ 3 มื้อ มีรถ มีบ้าน บางครั้งเราอาจเจอปัญหา อุปสรรคเข้ามาในชีวิตบางประการ ………. เรื่องงาน เจ้านายวีนใส่ เจองานหินๆ ลูกค้าโหดๆ เรื่องเงิน ก็มีติดขัดบ้าง เรื่องความรัก ทะเลาะกับแฟน เรามองว่าเป็นเรื่องหนักหนา ฟูมฟาย ใหญ่โต น่าท้อแท้

ลองออกไปนั่งรถเมล์เล่นๆ ดูบ้างสิ เลือกรถเมล์สายสีฟ้า หรือสีแดง เอาแบบไม่ติดแอร์นะ จะได้อารมณ์มาก ได้สัมผัสบรรยากาศท้องถนนจริงๆ เราจะเห็นสัจธรรมหลายๆอย่าง เห็นลุงขี่ซาเล้งเก็บขยะ คนกวาดถนน ผู้หญิงผู้ชายยืนชะเง้อรอรถเมล์ วิ่งตามรถเมล์เพราะไม่ยอมจอดป้าย เด็กหน้าตามอมแมมอ้อนวอนขายพวงมาลัย งัดไม้ตาย ถ้าหนูขายไม่ได้ หนูจะไม่ได้กลับบ้าน คนขายกล้วยแขกทอด (ซึ่งตอนนี้กำลังแพร่ระบาดอย่างมาก พบแทบทุกสี่แยก) คนขายปลาหมึกปิ้ง ป้าขายข้าวแกงริมถนน คนเร่ร่อนไม่มีบ้าน ที่นอนตามซอกตามมุมถนน ฯลฯ

หลายชีวิตที่เรากวาดตามองเห็น อาจไม่มีเงินเท่าเรา ไม่มีกินดีเท่าเรา ไม่สุขสบายเท่าเรา ร่างกายไม่ครบถ้วน สมบูรณ์เหมือนเรา เรายังดีกว่าเขามาก มีบ้านอยู่ มีรถขับ มีเงินใช้ ดังนั้นจงภูมิใจ พอใจกับสิ่งที่มีอยู่และเป็นอยู่ในปัจจุบัน ปัญหาของเราที่เกิดขึ้น เมื่อเทียบกับคนเหล่านั้นแล้ว กลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย จงสร้างกำลังใจให้ตัวเอง และกลับไปสู้กับปัญหาในวันต่อไป

บางคนแม้ไม่ได้มีร่างกายสมประกอบ ไม่มีโอกาสเท่าเรา เขาก็อยู่ได้ มีความสุขได้ แถมบางคนยังพัฒนาตัวเองให้เอาชนะตัวเอง ทำในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้อีกด้วย

บังเอิญได้ดูวีดีโอคลิปอันหนึ่งในเว็ป youtube.com สิ่งที่เห็นก็คือ เด็กผู้หญิงชาวเกาหลีคนหนึ่ง อายุประมาณ 10 กว่าขวบ กำลังเล่นเปียโนอย่างมีความสุข เป็นเพลงคลาสสิกที่บรรเลงได้อย่างไพเราะ ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ เด็กผู้หญิงคนนี้มีนิ้วแค่ 4 นิ้ว (ข้างละ 2 นิ้ว คล้ายก้ามปู) แต่เล่นเปียโนได้อย่างคล่องแคล่ว มืออาชีพ น่าทึ่งจริงๆ นั่นก็คือ เขาไม่ยอมแพ้กับสภาพร่างกายที่ได้มา กลับสู้จนสามารถเล่นเปียโนได้ไม่ต่างกับคนที่มีนิ้วครบ 10 นิ้วอย่างเราๆ เลย

ได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า “ไม่ครบห้า” เป็นหนังสือแปลมาจากภาษาญี่ปุ่น เป็นเรื่องของคุณครูหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า โอโตทาเกะ ฮิโรทาดะ เป็นคนพิการตั้งแต่กำเนิด พิการแบบที่เรียกว่าไม่น่าจะช่วยเหลือตัวเองได้เลย ไม่มีแขน ไม่มีขา มีแต่ลำตัวและศีรษะเท่านั้น แต่ที่น่ามหัศจรรย์ก็คือ คุณครูหนุ่มคนนี้สู้ไม่ถอย สามารถทำทุกอย่างได้เหมือนคนปกติ เขียนหนังสือได้ ไปไหนมาไหนด้วยตนเอง โดยใช้รถเข็นไฟฟ้าซึ่งบังคับด้วยตัวเอง เล่นกีฬาบางอย่างได้ และที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนมาก ก็คือ เป็นคนที่มีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา และเป็นรอยยิ้มของคนที่มีความสุขในชีวิตจริงๆ

ทั้งเด็กเกาหลีที่มี 4 นิ้ว และคุณครูหนุ่มที่มีแต่ตัวเป็นคนพิการ เขาพิการแค่เพียงร่างกายเท่านั้น แต่จิตใจของเขาไม่ได้พิการไปด้วยเลย แล้วทำไมคนที่มีอวัยวะครบ 32 อย่างเราๆ จึงท้อถอย ร้องไห้ หมดแรง เมื่อเจอกับอุปสรรคในชีวิตที่เทียบไม่ได้เลยกับความลำบากของบุคคลตัวอย่างทั่งคู่

สู้กับอุปสรรค ไม่ย่อท้อต่อปัญหาที่รุมเร้า สร้างกำลังใจให้ตนเอง เพื่อก้าวต่อไป สู้เขาไอ้มดแดง !

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น