++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย แพทย์วิถีธรรม (ยา ๙ เม็ด)

มะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย
แพทย์วิถีธรรม (ยา ๙ เม็ด)
แชร์ประสบการณ์ผู้ป่วย
อนุโมทนาบุญกับคุณคฑาวุฒิ เอกตาแสง ในการแชร์ประสบการณ์ และ
อนุโมทนาบุญการถอดเทป กับคุณสุพิมพ์
ทอดเทป 120919 คฑาวุฒิ มะเร็งลำไส้ระยะ 4
กราบคาราวะท่าน อาจารย์หมอเขียว และเจริญธรรมสำนึกดีท่านพี่น้องที่มาเข้าค่ายสุขภาพทุกท่าน
ผมนายคทาวุฒิ เอกตาแสง จาก อำเภอกุสินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่ ๔ ซึ่งเป็นระยะสุดท้าย ก่อนที่ผมจะเข้าผ่าตัดลำไส้ระยะที่ ๔ นี้ ผมคิดในใจเสมอว่า คนที่เป็นมะเร็งนี่ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งอะไรก็ตามคือรอวันตายสถานเดียว นี่คือความคิดของผมนะครับ พอผมเข้าผ่าตัดปุ๊บหมอวินิจฉัยผมตอนแรกว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ แต่ผ่าเข้าไปแล้วไส้ติ่งไม่เป็นอะไรเลย ปกติทุกอย่าง แต่บังเอิญคุณหมอไปพบลำไส้ผมตอนนั้นแตกกระจายเต็มท้องพูดตามภาษาบ้านเราคือไส้แตกขี้กระจายเต็มท้องครับ คุณหมอก็เลยทำการตัดทิ้งแล้วส่งชิ้นเนื้อไปวินิจฉัยที่จังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์มะเร็งนะครับ แล้วก้อนัดวันให้ผมไปฟังผล พอผมไปฟังผลวันนั้นคุณหมอก้อเลยบอกว่า โอเคครับคุณเจอแจ็คพ๊อตมะเร็งลำไส้ระยะที่ ๔ ตอนนี้กระจายเข้าต่อมน้ำเหลืองคุณหมดแล้ว แล้วที่นี้ก็มีพยาบาลท่านหนึ่งจาก อำเภอบัวชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ที่รู้จักกันกับผม นำหนังสือเล่มหนึ่งมาให้ผม บอกว่าหนังสือเล่มนี้เขาไปเข้าค่ายสุขภาพมา ค่ายสุขภาพนี้ของคุณหมอเขียว แต่ผมยังไม่รู้ครับตอนนั้นว่าหมอเขียวนี่เป็นใคร ทำอะไรและมีจุดประสงค์อะไร ผมก็เลยรับหนังสือเล่มนั้นมาศึกษาและปฏิบัติตามหนังสือเล่มนั้น หนังสือเล่มนั้นก็คือชื่อว่า (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) “มาเป็นหมอดูแลตัวเองกันเถอะ” หน้าปกหนังสือจะมีรูปหม้อต้มยาแล้วก็มีลูกปะคบอยู่ข้างๆนะครับ หนังสือเล่มนั้นเล่มละ ๑๕๐.๐๐ บาทถ้าจำไม่ผิด แต่ผมไม่ได้ซื้อสักบาทเดียวเพราะว่าเขาเอามาให้ ผมก็ทำตามในหนังสือหมดแทบจะทุกอย่างละครับ ถ้าอันไหนทำไม่ได้จริงๆเราพยายามทำเสียก่อนถึงบอกว่าทำไม่ได้ ถ้าไม่พยายามอย่าบอกว่าทำไม่ได้ต้องพยายามทำซะก่อน ถ้าทำไม่ได้จริงๆคุณถึงบอกว่าคุณทำไม่ได้ หลังจากผ่าตัดเสร็จฟังผลเสร็จคุณหมอก็ส่งผมไปเข้าคีโมทั้งหมด ๖ เดือนๆละ ๕ วัน รวมทั้งหมด ๓๐ วัน ๓๐ เข็ม แล้วก็มีคนที่แนะนำผมไปว่าทำดีท๊อกซ์ด้วยนะ กัวซาด้วยนะ อะไรด้วยนะ ผมก็พยายามทำทุกข้อ ยาทั้ง ๙ เม็ดของคุณหมอ แต่ตอนนั้นที่ผมยังไม่กล้าทำอยู่คือดีท๊อกซ์เพราะแผลผ่าตัดยังไม่หายดีแล้วผมไม่มั่นใจว่ามันจะติดเชื้อหรือไม่ จนกระทั่งผ่านไป ๖ เดือนผมยังไม่กล้าทำ ก้อเลยบอกว่าให้รออีกหน่อยให้มั่นใจอีกหน่อยให้แผลมันหายอีกหน่อย ถ้าเราทำไปด้วยเราทุกข์ไปด้วยเราเครียดไปด้วยมันจะยิ่งเป็นผลเสียต่อเรา ผมก้อเลยรอมาจนครบ ๑ ปี หมอก็เลยส่งผมไปเอ็กซเรย์แป้งที่ โรงพยาบาลฐิติเวช ร้อยเอ็ด ปรากฏหมอบอกว่าคุณโชคดีมาก เชื้อในลำไส้คุณไม่มีแล้ว นี่คือมะเร็งระยะสุดท้ายนะครับ ระยะที่ ๔ ไม่มีแล้ว ผมก็ไม่มั่นใจว่าโอเคในลำไส้มันไม่มีแต่ต่อมน้ำเหลืองผมล่ะที่มันไปหมดแล้วล่ะผมจะทำยังไง อันนี้ผมคิดในใจนะครับ ผมก็ปฏิบัติตัวมาตลอด ... กับข้าวแบบนี้บางคนบอกว่ามาวันแรกโอ้โฮกินไม่ลงเลย ผมบอกว่าสบายมากเพราะผมกินมาแล้ว ๑ ปีกับ ๔ เดือน กินตั้งแต่วันที่ผมออกจากโรงพยาบาลทันทีที่ผมกินข้าวได้ ผมจะกินอาหารถึงจะไม่ได้ ๑๐๐% แต่ขอให้ใกล้เคียงแบบนี้มากที่สุด ทำให้ดีที่สุด แล้วเราจะได้ผลที่ดีที่สุดเข้าสู่ชีวิตเรา ตอนที่ผมผ่าตัดออกจากห้องผ่าตัดมาสลึมสลือยังไม่ฟื้นอะไรมาก ผมมองหน้าไปเจอลูกชายผมคนเดียวนั่งอยู่ข้างเตียงคนอื่นยังมาไม่ถึง ก่อนผ่าเซ็นอะไรทุกอย่างผมจัดการเองหมด หมอถามหาญาติอยู่ไหนมาเซ็นใบรับรองการผ่าตัดหน่อย ผมบอกว่าเอาใบมาผมเซ็นเองจัดการเองหมด พอฟื้นขึ้นมาเจอหน้าลูกชายกับคุณหมอเดินมาตบบ่า บอกว่า เธอเป็นลูกชายของเขาใช่ไหม ลูกชายผมบอกใช่ครับ หมอก้อเลยบอกลูกชายผมว่า พ่อเธอไม่ได้เป็นไส้ติ่งอักเสบนะพ่อเธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ลูกชายผมร้องไห้ทันที แต่ผมนึกในใจว่า มึงจะร้องไห้ทำไมพ่อมึงยังไม่ตายก็แค่มะเร็งระยะสุดท้ายน่ะมึงจะไปกลัวทำไมกระจอก ผมว่างี้ โดยที่ผมคิดตลอดเวลาก่อนที่จะผ่าตัดว่ามะเร็งนี่ต้องตายอย่างเดียว แต่ตอนนั้นผมนึกขึ้นมาได้ยังไงว่ามันกระจอกมาก สุดท้ายที่ผมนึกได้ก็คือว่า ผมหายได้ด้วยประการใด ทำไมผมถึงว่าผมหาย ผลการตรวจเลือดออกมา ค่าสัมพันธ์มะเร็งในลำไส้ใหญ่และกระแสเลือดวันที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญมาตรวจให้เราครับ ผลปรากฏว่าไม่มีเชื้อมะเร็งแล้ว ค่าสัมพันธ์มะเร็งในเลือดอยู่ในขั้นปกติทุกอย่างไม่มีอะไรผิดปกติ ผมถึงอยากจะบอกว่าการที่เราปฏิบัติ การที่เราจะทำอะไรนี่ให้เราทำจริง พยายามทำเสียก่อนอย่าเพิ่งบอกว่า โอ๊ยอันนี้กูทำไม่ได้โอ๊ยอันนี้กูไม่กล้าทำ คุณลงมือทำหรือยังคุณถึงบอกว่าคุณทำไม่ได้ กับข้าวก็เหมือนกันครับ โอ๊ยอย่างนี้จะกินได้หรือ คุณลองกินหรือยังครับคุณถึงจะบอกว่าคุณกินไม่ได้ เพื่อนๆผม ญาติๆผมหรือว่าคนที่รู้จักผมไปเยี่ยมผมที่โรงพยาบาล ไปเยี่ยมผมตอนที่ผมผ่าตัดออกมาแล้ว ไปเยี่ยมผมที่บ้าน เขาบอกเลยว่าเตรียมตัวเผาได้เลยไม่รอด แล้วสภาพร่างกายผมตอนนั้นแย่มากๆ จากน้ำหนักเกือบ ๘๐ กิโลเพราะเป็นคนตัวใหญ่เหลือน้ำหนัก ๕๔ กิโล ลงมา ๒๐ กว่ากิโล แล้วเขาดูคนตัวใหญ่ผอมเหลือแค่ ๕๔ กิโลมันก็เหมือนกับซาก เขาก็เลยบอกว่าเตรียมตัวเผาได้เลยอย่าว่าแต่ ๒ ปีเลย ๒ เดือนให้มันผ่านเถอะ เขาบอกไม่มีทาง ผมก็เลยนึกในใจ เออ...เดี๋ยวกูจะทำให้ดู เขาก็เลยเอาหนังสือเล่มนั้นมาให้ผมอ่านเล่มที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นนะครับ แล้วผมก็ศึกษาไปด้วยทุกอย่างๆๆ เขาบอกมันดีนะ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่รู้มากว่า อาหารฤทธิ์เย็นฤทธิ์ร้อนมันเป็นอะไรก็ศึกษาตามหนังสือคุณหมอไป ไอ้น้ำคลอโรฟิล น้ำย่านาง น้ำอะไรนี่ ผมกินมาเป็นปีแล้วไม่ใช่เพิ่งมากินที่นี่ แต่ดีท๊อกซ์เพิ่งมาทำที่นี่เพราะให้มั่นใจเสียก่อนว่าแผลผ่าตัดของเรามันหายดีนะครับ ก็ประสบการณ์ชีวิตผมก็ไม่มีอะไรมาก ก็ขอฝากให้ทุกท่านนะครับ สิ่งสำคัญที่สุดคือรักษาสุขภาพของตัวเอง ตัวเราเองทำตัวเราเองได้รับ ตัวเราเองไม่ได้ทำตัวเราเองไม่ได้รับ โรคภัยไข้เจ็บทุกอย่างที่เกิดกับตัวเรา ตัวเราหาใส่ตัวเราทั้งนั้นไม่มีใครมายัดเยียดให้เราได้ อย่างโรคมะเร็งที่ผมเป็นนี่ไม่มีใครจามชิ้วแล้วโรคมะเร็งกระเด็นมาใส่ผม ไม่ใช่ครับ ผมยัดเข้าปากผมเองทั้งนั้น เพราะเราทำอะไรเราได้อย่างนั้นอย่างที่คุณหมอเขียวพูดนะครับ ขอฝากสั้นๆนะครับกับผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ ทำจริงได้จริงทำเล่นได้เล่น สวัสดีครับ เจริญธรรมสามัคคีครับ ....
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=536190299726173&set=a.498146633530540.118832.451999981478539&type=3&theater

1 ความคิดเห็น:

  1. หนูอยากได้สูตรยารักษามะเร็งลำไส้ ตอนนี้พ่อหนูเป็นระยะที่4แล้ว

    ตอบลบ