นายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ย และธุรกิจการเกษตรไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางของกรมการค้าภายใน ที่เสนอให้พิจารณาปรับขึ้น หรือ ลดราคาปุ๋ยตามราคาตลาดโลกเป็นประจำในทุกเดือน เพราะหากตรึงราคาเป็นเวลานานแล้ว ปรับขึ้นคราวละมากๆ จะกระทบต่อต้นทุนการผลิตของเกษตรกร และระบบการค้าที่มีผู้นำปุ๋ยเข้ามา 350 ราย และผู้ค้ารายย่อยกว่า 20,000 ราย สำหรับแนวคิดการฟื้นโครงการโรงงานปุ๋ยแห่งชาติ เพื่อควบคุมราคาไม่ให้สูงเกินไปนั้น เชื่อว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก และตลาดปุ๋ยเคมีปัจจุบันเป็นตลาดแข่งขันสมบูรณ์อยู่แล้ว ขณะที่ไทยไม่สามารถผลิตแม่ปุ๋ยเองได้ แม้ว่าจะมีแหล่งแร่คุณภาพสูงในบางพื้นที่ เช่น โพแทสเซียม ซึ่งมีคุณภาพดีกว่าประเทศผู้ส่งออกปัจจุบันอย่างแคนาดา
ส่วนการผลิตปุ๋ยยูเรียจากแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยนั้น ไม่คุ้มทุน เนื่องจากมีปริมาณก๊าซน้อย แม้ว่าปัจจุบันชุมนุม สหกรณ์หลายแห่งผสมปุ๋ยเคมีใช้เอง แต่รัฐบาลยังต้องให้เงินอุดหนุน เนื่องจากราคาตลาดผันผวน ขณะที่ นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดจัดตั้งโรงงานปุ๋ยแห่งชาติ เนื่องจากเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริต ที่จะจัดสรรโควต้าปุ๋ยให้กับกลุ่มบุคคลใด บุคคลหนึ่งมากเป็นพิเศษ หรือเปิดโอกาสให้นายทุนปล่อยเงินกู้ชาวนา เพื่อให้ซื้อปุ๋ยโดยคิดดอกเบี้ยในอัตราสูง โดยยอมรับว่า ปุ๋ยที่จำหน่ายในท้องตลาดขณะนี้ได้ปรับราคาขึ้นจริงตามต้นทุนที่สูงขึ้น ส่วนการที่ผู้ผลิตปุ๋ยแจ้งขอปรับราคากับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อทำให้ถูกต้องตามระเบียบเท่านั้น สำหรับปัญหาทางออกของปุ๋ยราคาแพงในช่วงนี้ เห็นด้วยที่จะทำปุ๋ยธงฟ้าออกมาจำหน่าย โดยจัดสรรปุ๋ยจากผู้ผลิตแต่ละราย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น