++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

"ธีระ" ห่วงทุนนิยมโจมตีสังคม ทำเข้าสู่ยุคเสื่อม

วงอภิปราย "คุณธรรมของ จนท.และนักการเมือง"
ระบุการเปิดช่องร้องเรียนทุจริตแก้ปัญหาปลายเหตุ จี้ปลุกจิตสำนึก
ขณะที่นักการเมืองต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี อย่ามุ่งแต่จัดหลักสูตร
ขณะที่ "ธีระ" ระบุทุนนิยมโจมตีสังคม กำลังเข้าสู่ยุคเสื่อม ใกล้ล่มสลาย
ยันโควตา รมต.ปชป.ปรับตามหลักการ อย่ามองเป็น ครม.เข้าเวร

ที่รัฐสภา วันนี้ 9 (ก.ค.) คณะกรรมาธิการการศึกษา ตรวจสอบทุจริต
และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ได้จัดสัมมนาเรื่อง
"ระดมความคิดเพื่อการจัดทำแผนพัฒนาความซื่อตรงแห่งชาติ" มีนายประโมทย์
โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายธีระ สลักเพชร อดีต รมว.วัฒนธรรม
ร่วมอภิปรายในหัวข้อ
"คุณธรรมความซื่อตรงของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมือง"

นายปราโมทย์กล่าวว่า
รู้สึกเศร้าใจต่อผลสำรวจการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลไทยที่มีสถิติสูงขึ้นทุกปีแซงหน้าประเทศเพื่อนบ้าน
และเห็นข่าวเกี่ยวกับการทุจริตในสถานที่ต่างๆ
ที่สื่อมวลชนรายงานจนกลายเป็นบรรทัดฐานปกติ
แต่ความซื่อสัตย์ถูกเบียดตกขอบจอทีวีไป
โดยเฉพาะโครงการไทยเข้มแข็งที่ถูกนำมาพูดล้อกันว่าเป็นโครงการใครเข้มแข็ง
รวมถึงค่านิยมของสังคมที่ยอมรับได้หากรัฐบาลทุจริตเพียงเล็กน้อยแต่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
และการยื่นเรื่องร้องเรียนก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ดังนั้น
จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันปลุกจิตสำนึกด้านความซื่อสัตย์สุจริต
โดยคณะรัฐมนตรีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการส่งเสริมและปลูกฝังด้านคุณธรรมและจริยธรรม
เพราะเพียงแค่จัดหลักสูตรในสถานศึกษา แต่ทุกคนยังปฏิบัติตนเหมือนเดิม
เด็กก็จะไม่เชื่อฟังและซึมซับพฤติกรรมที่ผิดๆ

นายปราโมทย์ยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎเหล็ก 9
ข้อของนายกรัฐมนตรีว่า
หากไม่สามารถปฏิบัติให้เกิดผลได้จริงก็ถือเป็นแค่กฎเฉยๆ
หากตนเป็นนายกรัฐมนตรีจะยึดมั่นกฎเหล็กของตนเองโดยไม่ยอมให้รัฐมนตรีที่ทุจริตอยู่ร่วมรัฐบาล
แม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลก็ตาม

ด้าน นายธีระกล่าวว่า ขณะนี้คุณภาพของสังคมไทยเสื่อมลงทุกเรื่อง
หลังจากตนเข้าสู่การเมืองมาหลายปีพบว่า การเปลี่ยนแปลงของข้าราชการ
นักการเมือง และสังคม ทำให้ประเทศไทยกำลังเดินทางมาถึงทางตัน
และเข้าสู่ภาวะล่มสลาย
เนื่องจากขาดภูมิคุ้มกันด้านทุนนิยมที่โหมทำร้ายสังคมไทยค่อนข้างรุนแรง
ทำให้ประชาชนมุ่งเน้นความร่ำรวยเป็นหลัก จนเกิดความเห็นแก่ตัว
และความซื่อสัตย์สุจริตเสื่อมทรามลง
แตกต่างจากสังคมไทยในอดีตที่มีจิตนิยมช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
จึงแนะนำให้ทุกฝ่ายน้อมนำกระแสพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต
เพื่อให้ความสุขของคนไทยกลับคืนมา

นายธีระกล่าวว่า การก้าวเข้าสู่ตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรมของตนนั้น
เพราะนายกรัฐมนตรีพิจารณาถึงคุณธรรมเป็นหลัก
และเห็นว่าตนมีคุณธรรมจึงต้องการให้ตนเข้ามาดูแลเรื่องจริยธรรมของเยาวชน
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการตั้งคณะรัฐมนตรีครั้งแรกในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มีความยากมาก
เนื่องจากบุคลากรของพรรคมีคนเก่งจำนวนมาก ทำให้นายกรัฐมนตรี
ต้องจัดแบ่งเป็น 2 บัญชี โดยบัญชีแรกจะได้เป็นรัฐมนตรีก่อน และเมื่อปรับ
ครม.จะนำบัญชีที่ 2 มาพิจารณา ทำให้คนที่ถูกจัดอยู่ในบัญชีที่ 2
กังวลว่าการปรับ ครม.จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่
ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง
หากมีการปรับเปลี่ยนก็พร้อมจะถอยให้คนอื่นเข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้น
อยากให้เข้าใจว่าการปรับคณะรัฐมนตรีในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์มีแนวคิดและหลักการ
อย่าไปคิดว่าเป็น ครม.เข้าเวร เพราะเรามีคนเก่งจำนวนมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น