เป็นประธานในการเปิดการอบรมบุคลากรโรงพยาบาลนครพนม 100 %
ในโครงการส่งเสริมการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุสมผล
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
และองค์กรอนามัยโลก ได้ทำการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมจากพื้นที่
ชุมชน และหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการ
พบว่าคนไทยใช้ยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็น ซึ่งได้ส่งผลเสียหลายด้าน เช่น
สูญเสียงบประมาณในใช้ยาโดยไม่จำเป็น ผู้ป่วยมีอาการดื้อยา
และมีโอกาสแพ้ยามากขึ้น ซึ่งจากข้อมูลในปี 2552 พบว่ามูลค่า
การใช้ยาของประเทศไทยมีมูลค่ารวมสูงถึง 76,000 ล้านบาท
คิดเป็นประมาณร้อยละ 30 - 40 ของค่ารักษาพยาบาล
สูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านยาเพียงร้อยละ 10 -
15 เท่านั้น ยาฆ่าเชื้อ มีมูลค่าการสูงเป็นอันดับ 1
ของประเทศติดต่อกันมาทุกปี คือ ประมาณ 16,000 ล้านบาทต่อปี หรือเกือบ 1
ใน 4 ของมูลค่ายาทั้งหมด
ซึ่งองค์การอนามัยโลกประมาณว่ากว่าครึ่งหนึ่งเป็นการใช้ยาโดยไม่จำเป็น
โดยจัดเป็นการสูญเปล่าทางเศรษฐกิจ
นายแพทยธีรพล โตพันธานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม
กล่าวว่า ปัญหาการใช้ยาของประชาชนคนไทย
ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจการใช้ยาปฏิชีวนะ และมักเรียกยาประเภทนี้ผิด
ทำให้เกิดการเข้าใจผิดในการใช้ยา เช่นผู้ป่วยที่เป็นหวัด เจ็บคอ
ซึ่งหลายคนคิดว่าจะต้องกินยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อ
ซึ่งจริงๆแล้วเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะหวัดเกิดจากเชื้อไวรัส
แต่ยาปฏิชีวนะ เอาไว้ฆ่าเชื้อแบคที่เรีย
การกินยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส
จึงไม่ถูกต้องแถมยังทำให้เปลืองเงิน
เสี่ยงต่อการแพ้ยาและก่อปัญหาดื้อยาตามมา นอกจากนี้มีโรคท้องเสีย
และการบาดเจ็บมีเลือดออกไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ
เพราะยาปฏิชีวนะไม่ช่วยป้องกันการติดเชื้อแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม กล่าวต่อว่า
การดำเนินโครงการโครงการส่งเสริมการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุสมผลนี้
จะจัดอบรมในระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน ถึง 2 กรกฎาคม 2553 ณ
ห้องประชุมตึกอำนวยการ เพื่อทำความเข้าใจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับแพทย์
ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาลและบุคลากรสาธารณสุข ในจังหวัดนครพนมครบ 100 %
เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญต่อเหตุผลในการตัดสินใจใช้ยา
และเป็นโครงการที่จะต้องทำต่อไปอย่างต่อเนื่อง
เพื่อปลูกฝังให้เกิดค่านิยมที่ถูกต้องในการใช้ยาให้กับสังคมต่อไป
[ Download ข้อมูลเพิ่มเติม - as2.JPG ]
http://www.moph.go.th/ops/iprg/news_pic/as2.JPG
แหล่งข่าวโดย.... สำนักสารนิเทศ
ผู้จัดทำ.... กลุ่มงานสุขศึกษา รพ.นครพนม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น