++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รมช.เกษตรฯ เปิดฐานปฏิบัติการฝนหลวงที่บุรีรัมย์ - เผยเครื่องบินไม่พอเตรียมขอทัพฟ้าอีก 5 ลำ

บุรีรัมย์ - รมช.เกษตรฯ เปิดฐานปฏิบัติการฝนหลวงที่บุรีรัมย์
เพิ่มปริมาณน้ำฝนช่วยเยียวยาต้นข้าวที่ขาดน้ำ
และเกษตรกรที่ยังไม่ได้ทำนาอีกกว่า 9 แสนไร่
พร้อมให้ทางจังหวัดเร่งสำรวจประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือ
ขณะ ผอ.สำนักฝนหลวงฯ ยอมรับเครื่องบินโปรยสารเคมีทำฝนหลวงที่มีอยู่ 28 ลำ
ไม่เพียงพอ เตรียมขอสนับสนุนเครื่องบินจากกองทัพอากาศเพิ่มเติมอีก 5 ลำ

วันนี้ (9 ก.ค.) นายศุภชัย โพธิ์สุ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาเปิด
ฐานเติมสารฝนหลวงและการปฏิบัติการฝนหลวงที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึก
จ.บุรีรัมย์ หลังได้รับการร้องขอจากทางจังหวัดบุรีรัมย์
เนื่องจากพื้นที่การเกษตรประสบปัญหาภัยแล้งฝนทิ้งช่วง
ส่งผลให้ต้นข้าวของเกษตรกรที่ไถหว่าน ปักดำไปแล้วในหลายพื้นที่
ประสบปัญหาขาดน้ำเริ่มแห้งตายเสียหาย อีกทั้งพื้นที่นาของเกษตรกรกว่า 9
แสนไร่ ยังขาดน้ำทำนา จากพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั้งจังหวัดกว่า 3.2 ล้านไร่

นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กล่าวว่า การตั้งฐานปฏิบัติฝนหลวงที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึก
ในครั้งนี้ จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการฝนหลวง
ในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร
ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วง ทั้งในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์
และจังหวัดข้างเคียง เช่น สุรินทร์ ศรีษะเกษ มหาสารคาม และ จ.นครราชสีมา
บางส่วนได้

ส่วนกรณีพื้นที่นาข้าวที่แห้งตายเสียหายจากภาวะภัยแล้ง
ได้กำชับให้ทางจังหวัดและเกษตรจังหวัด เร่งออกสำรวจสรุปความเสียหาย
ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ
เพื่อพิจารณาอนุมัติงบฉุกเฉินจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป

นายศุภชัย กล่าวอีกว่า จากข้อมูลรายงานพบว่า ตั้งแต่ปี 2553
จ.บุรีรัมย์ มีปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยลดลงเหลือประมาณ 803 มิลลิเมตร
จากเดิมมีปริมาณฝน 1,524 มิลลิเมตรต่อปี
ทำให้ราษฎรขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร
ทั้งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยพสกนิกร
จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ 5 ศูนย์ 9
ฐาน เพื่อออกปฏิบัติการบินโปรยสารเคมีทำฝนหลวง
เพิ่มปริมาณน้ำฝนช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

ด้าน นายวราวุธ ขันติยานันท์
ผู้อำนวยการสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาภัยแล้งได้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
ซึ่งทางสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร
มีเครื่องบินที่ประจำอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง 5 ศูนย์ และ
ฐานปฏิบัติการ อีก 9 ฐานทั้งประเทศ
ที่ได้ขึ้นบินปฏิบัติการโปรยสารเคมีทำฝนหลวง เพื่อเติมปริมาณน้ำในเขื่อน
และอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณกักเก็บต่ำ
พร้อมทั้งขึ้นบินทำฝนหลวงในการช่วยเหลือ พื้นที่การเกษตรของเกษตรกร
ที่ประสบปัญหาภัยแล้งฝนทิ้งช่วงเพียง 28 เครื่อง
ซึ่งไม่พียงพอต่อการปฏิบัติการ

ทางสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร
จะได้ยื่นเรื่องเสนอขอรับการสนับสนุนเครื่องบิน จากกองทัพอากาศ
มาเพิ่มเติมอีกจำนวน 5 ลำ เพื่อกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ
ที่ประสบปัญหาภัยแล้งในทุกภาคของประเทศอย่างเร่งด่วน

"สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้น่าเป็นห่วงกว่าทุกปีที่ผ่านมา
เนื่องจากมีปริมาณฝนตกน้อย
โดยเฉพาะภาคอีสานได้ประสบปัญหาภัยแล้งมาเป็นอันดับต้น ๆ
อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางสำนักฝนหลวง ก็ได้ออกปฏิบัติการทำฝนหลวงไปแล้วกว่า
80 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ที่ประสบปัญหาทั้งหมดทั่วประเทศ
และยอมรับว่าบางพื้นฝนไม่ตก เพราะประสบปัญหาสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย"
นายวราวุธ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น