ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “สนั่น-ธีระ” ตรวจสถานการณ์น้ำเขื่อนภาคอีสาน พบเขื่อนใหญ่ 7 แห่งปริมาณน้ำเก็บกักลดลงถึงขึ้นวิกฤติ เผยเขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่น มีน้ำแค่ 27% ของความจุอ่าง ขณะที่ปริมาณน้ำใช้งานมีแค่ 4% เท่านั้น ขณะที่ ก.เกษตรฯ ไม่มีแผนสำรองแก้วิกฤตน้ำ วอนชาวนาเลื่อนทำนาปีออกไปในช่วงสิงหาคม-กันยายน หวังพึ่งน้ำฝนบรรเทาความเดือดร้อน
วันนี้ (21 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะเดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากทางโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งดูแลเขื่อนในพื้นที่รวม 7 แห่ง 7 โรงไฟฟ้า ปรากฏว่ามีเขื่อนหลายแห่งที่ประสบปัญหาปริมาณน้ำเก็บกักลดลงกว่าปีที่ผ่านมา จนถึงขั้นวิกฤต รวมทั้งเขื่อนอุบลรัตน์ด้วย
สำหรับปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ณ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บ 656 ล้าน ลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 27% ของความจุอ่าง โดยมีปริมาณน้ำที่สามารถระบายออกไปใช้งานได้ 75 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 4% ของปริมาณน้ำใช้งานทั้งหมด และถือเป็นตัวเลขที่ต่ำมาก โดยต่ำกว่าปีที่ที่แล้ว ที่มีปริมาณน้ำสามารถใช้งานได้คิดเป็น 8% ของปริมาณน้ำใช้งานทั้งหมด
ระดับน้ำดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและชาวบ้านท้ายเขื่อนที่ต้อง อาศัยน้ำจากเขื่อนในการทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เน้นย้ำเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนา ให้เลื่อนการทำนาออกไปในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน เนื่องจากเป็นฤดูฝนพอดี จะได้ไม่ประสบปัญหาในการเพาะปลูก
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าทางกระทรวงมีแผนสำรองหรือไม่ หากเกิดกรณีฝนไม่ตกตามฤดูกาล นายธีระกล่าวว่า เมื่อเป็นฤดูฝน ฝนก็ต้องตก ทางกระทรวงไม่มีแผนสำรองแต่อย่างใด ส่วนกิจกรรมในช่วงบ่าย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะได้เดินทางต่อเพื่อไปตรวจสถานการณ์น้ำที่เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานีต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น