++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ความรัก...อินเตอร์เน็ต...หรือง่ายเกินไป

ปีที่ 25 ฉบับที่ 459 ประจำเดือน กุมภาพันธ์ ปักษ์แรก 2547

ดิฉันชื่อ ริน เรียนหนังสืออยู่ที่เพชรบุรี และชอบเล่นอินเตอร์เน็ตมาก

มาวันหนึ่งดิฉันเข้าไปเล่นใน puntip จนได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง
เราแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กับเพจกัน เขาชื่อ "ปุ๊ก"
เรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมีวิทยาเขตอยู่ที่นครนายก

แล้วหลังจากนั้นเราก็โทรคุยกันเรื่อย ๆ
จนเกิดความรู้สึกผูกพันจนบอกไม่ถูกเหมือนกับคนเป็นคู่รักกันทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลยว่าอีกคนจะเป็นอย่างไร

เราโทรคุยและเพจหากันทุกวันทุกเวลา ดิฉันมีความสุขมาก เราคุยกันทุกเรื่อง
แล้ววันนั้นก็มาถึง ปุ๊กมาหาดิฉันที่เพชรบุรี
ดิฉันก็ไปรับปุ๊กมาที่หอของดิฉัน

ปุ๊กเป็นผู้ชายตัวใหญ่ หน้าตาหล่อทีเดียว พอเขาลงมาจากรถทัวร์

และดิฉันดูในรูปว่าเป็นคนๆเดียวกัน ก็เดินไปหาเขา แล้วขับรถกลับมาที่หอ
แล้วเราก็เข้ามาที่ห้อง

ปุ๊กมองหน้าดิฉัน แล้วจับหน้าดิฉันเงยขึ้นมา พูดว่า "ริน
ไม่ต้องแต่งหน้านะ น่ารักกว่าเยอะเลย" แล้วเขาก็ยิ้ม

ดิฉันก็ให้เขาไปอาบน้ำ แล้วดิฉันก็ทำอาหารเย็น แต่ทำไข่เจียวไหม้

ปุ๊กหันมามองดิฉันแล้วอมยิ้ม

"ไม่เป็นไรหรอก ถึงไข่มันจะไหม้แต่มันก็อร่อยเพราะรินใส่ความตั้งใจในการทอด
แค่นี้ก็พอ"

ดิฉันได้ยินคำพูดคำนี้แล้วรู้สึกประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้
ดิฉันรักเขาเข้าแล้วสิ
แล้วคืนนั้นดิฉันก็เป็นของเขาโดยที่ดิฉันไม่นึกถึงอะไรเลย
ไม่นึกถึงว่าเรากำลังเรียนทั้งคู่
ไม่นึกถึงว่าเหตุการณ์อะไรมันจะเกิดขึ้นในอนาคต

ปุ๊กอยู่กับดิฉันหลายวัน ดิฉันมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้เขา
แล้วเขาก็กลับไปเรียน เราก็ยังติดต่อกันเหมือนเดิม

ดิฉันหลงรักเขาจนบ้าทีเดียว เวลาเรียนก็นึกถึงหน้าเขาตลอดเลย

เวลานอนก็ต้องโทรคุยกันก่อนนอนถึงจะนอนหลับ

แล้ววันที่ 5 ธันวาคม 2541 ปุ๊กก็มาหาดิฉันอีก
คราวนี้ปุ๊กเอาเสื้อสีขาวและเทปเพลงสากลมาให้ดิฉัน ดิฉันดีใจมากเลย
แล้วเราก็อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม

เราทะเลาะกัน ดิฉันจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไรแล้วดิฉันก็ส่งปุ๊กกลับบ้าน
ปุ๊กขึ้นรถไปแล้วไม่พูดกับดิฉันสักคำ เขาคงโกรธดิฉัน
ทำไมดิฉันปากหนักไม่ขอโทษเขา และดิฉันก็จำไม่ได้ว่า
ดิฉันทำอะไรให้เขาโกรธหรือเกลียด

พอดิฉันกลับมาถึงหอ ดิฉันก็นั่งร้องไห้กอดเสื้อที่เขาให้มา
และเขาก็ไม่โทรมาหาดิฉัน ดิฉันก็ไม่ติดต่อหาเขาเพราะเขากลับบ้าน
ดิฉํนไม่รู้ว่าโทรศัพท์ที่บ้านเขาเบอร์อะไร
เพราะที่เราคุยกันนั้นเป็นโทรศัพท์ของเพื่อนเขา

เขาไม่เคยติดต่อกลับมา ดิฉันนอนกอดเสื้อเขาร้องไห้ทุกคืน เป็นเวลา 3
เดือน ดิฉันก็ไปฝึกงาน

มันเป็นอะไรที่แย่มาก เมื่อมารู้ว่าตัวเองกำลังท้อง

ดิฉันสับสนเสียใจ ไม่รู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้นกับดิฉัน ดิฉันอยากฆ่าตัวตาย

แต่ก็ทำไม่ลง เพราะสงสารพ่อแม่และลูกของดิฉัน ดิฉันเคยคิดจะเอาเด็กออก
แต่ทำไม่ลง เพราะเขาเป็นสายเลือดของดิฉันกับคนที่ดิฉันรัก

เมื่อดิฉันฝึกงานจบ ดิฉันก็จบอนุปริญญา
ก่อนหน้านั้นดิฉันตั้งใจว่าจะเรียนต่อให้จบปริญญาตรี
แต่เกิดมีเรื่องท้องเข้ามาก่อนประจวบกับพ่อแม่เลิกกันพอดี

มันเป็นเวรหรือกรรมซ้ำ ดิฉันก็ไม่รู้

ดิฉันไปอยู่ที่บ้านเพื่อน...เพื่อนและพ่อแม่เขาดีกับดิฉันมาก
จนดิฉันคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชาย หน้าตาน่ารักมากทีเดียว
เขาหน้าตาเหมือนพ่อเขามาก แต่คนเป็นพ่อจะได้รู้ไหมว่าเขามีลูก
ดิฉันสงสารลูกและเจ็บปวดหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
มันเป็นความทรมานและความชอกช้ำสำหรับดิฉัน

เมื่อก่อนดิฉันพยายามเขียนจดหมายไปที่มหาวิทยาลัยของเขา
แต่เขาไม่เคยติดต่อกลับมา ดิฉันอยากบอกให้เขารู้ว่าเรากำลังมีลูก
แต่ดิฉันไม่ต้องการเรียกร้องอะไรจากเขาเพราะเขายังเรียนไม่จบ
แต่เขียนไปหาเขาเท่าไหร่ ก็มีแต่ความว่างเปล่ากลับมาทุกที

ทุกวันนี้ดิฉันพยายามลืมเขา แต่ก็ลืมไม่ลงเขาเป็นผู้ชายที่ใจร้ายมากที่สุด

เวลาผ่านมาหลายปี เขาคงมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบทุกอย่าง
แต่อยากให้เขารู้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งต้องทนทุกข์ทรมานใจมาเกือบ 5 ปีแล้ว
ต้องต่อสู้ชีวิตกับอดีตที่ขมขื่น

เมื่อปี 2545 น้องปริ๊นซ์ ลูกชายของดิฉันถามหาพ่อของเขา
เขาอยากรู้ว่าพ่อของเขาเป็นใคร

เขาเห็นเพื่อน ๆ เขาเรียกพ่อ เขาก็คงสงสัยว่าพ่อเขาอยู่ไหน
ทำไมเขาถึงไม่มีพ่อ และพ่อเขาไปไหน ดิฉันร้องไห้ พูดไม่ออก
มันเจ็บไปที่ขั้วหัวใจ

ดิฉันทำงานและก็จ้างคนอื่นเลี้ยงลูกด้วย คนที่เขาเลี้ยงลูก
เขาสงสารดิฉันกับลูก จึงคิดค่าเลี้ยงถูก ลูกดิฉันพูดเก่งและน่ารักมาก
ใครเห็นก็รัก

ดิฉันมองหน้าลูกก็คิดถึงปุ๊กเพราะเขาหน้าเหมือนพ่อเขามากทีเดียว ทุก ๆ
วันถึงดิฉันจะเหนื่อยแต่พอเห็นหน้าลูกก็หายเห นื่อย

แล้วเหตุการณ์ที่เจ็บปวดใจและทรมานที่สุดในชีวิตก็มาถึง
เมื่อลูกดิฉันโดนรถบรรทุกชนจนเสียชีวิต ในปี 2545

ก่อนสิ้นใจเขาถามหาพ่อเขา ดิฉันอยากตายตามเขาไปด้วย
ดิฉันไม่เหลืออะไรในชีวิตอีกแล้ว สภาพจิตใจดิฉันย่ำแย่มาก
หนึ่งปีแล้วกับความทุกข์ทรมานกับการจากไปของสิ่งสุดท้ายที่ดิฉันรัก

แต่สิ่งสุดท้ายที่ดิฉันทำ ดิฉันอยากบอกกับปุ๊กว่า
ดิฉันยังรักเขาอยู่เสมอแม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายปี

ดิฉันไม่รู้ว่าจิตใจปุ๊กยังจำผู้หญิงที่ชื่อรินได้หรือเปล่า แต่สำหรับปุ๊ก

ปุ๊กคือตราบาปของดิฉัน

ทุกวันนี้ดิฉันไม่เคยมองหรือยุ่งกับผู้ชายคนไหน
ดิฉันเชื่อมั่นในความรักของดิฉัน
ดิฉันเคยคิดว่าดิฉันอาจจะได้พบปุ๊กอีกครั้งตอนที่เรายังไม่เสียลูกไป

ดิฉันคงอ่านนิยายมากไป คิดว่าพระเอกคงจะได้มาพบนางเอก

ดิฉันมันบ้าเอง ตอนนี้ดิฉันไม่หวังและไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
ดิฉันอยากให้ปุ๊กไปหาลูกที่หลุมฝังศพ เพราะเขาคงอยากเห็นหน้าพ่อของเขา
แต่ถึงปุ๊กไม่มาหรือปุ๊กไม่รู้ดิฉันก็ไม่เคยเกลียดหรือโกรธเขา

ถ้าเขามีครอบครัวขอให้ครอบครัวเขาสมบูรณ์แบบทุกสิ่งทุกอย่าง
อย่าได้เป็นเหมือนกับดิฉันเลย ดิฉันคงจะตามไปอยู่กับลูกของดิฉัน

สิ่งสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้ให้กับดิฉัน มันไม่ใช่สิ่งมีค่าของเขา
แต่มันมีค่าที่สุดในชีวิตของดิฉัน

"สุดท้ายนี้ ฉันขอบใจเธอมาก "หญิง"
(เพื่อนของผู้ตายที่ส่งบันทึกฉบับนี้มาให้คู่สร้างคู่สม)
เธอเป็นเพื่อนที่ฉันรักมากที่สุดในชีวิต ถ้าเกิดเธอเจอปุ๊ก
เธอพาเขามาหาฉันกับลูกที่หลุมฝังศพนี้ด้วย
เธออย่าได้โกรธหรือเกลียดเขาแทนฉันเลย ขอให้เธอมีความสุขในชีวิตนะ
อย่าได้เป็นคนอาภัพอย่างฉันเลย"

หมายเหตุ นี่เป็นเรื่องของริน ก่อนที่รินจะจากโลกนี้ไป
สำหรับตัวดิฉันคอยช่วยเหลือรินมาตลอด ดิฉันเข้าใจเขา
และรู้ถึงความรู้สึกทุกอย่างของเขา
ดิฉันคอยให้กำลังใจและปลอบใจเขาทุกอย่าง
ดิฉันเห็นความขมขื่นสำหรับชีวิตของเขาว่ามันลำบากอย่างไร
แต่ดิฉันก็เห็นความรักและความอดทนที่เขาจะสู้ชีวิตเพื่อลูกของเขา

ตอนนี้เขาได้พ้นทุกข์ทรมานทั้งกายและใจ (รินตัดช่องน้อยแต่พอตัว

เพื่อหนีความตรอมใจที่สูญเสียลูกชาย โดยการกินยาฆ่าแมลง เพื่อฆ่าตัวตาย
และสุดท้ายก็ได้ตายสมใจ เนื่องจากหมอช่วยล้างท้องไม่ทัน)

ดิฉันขอให้รินไปสู่สุคติส่วนดิฉันเองเคยเห็นหน้าคุณวัชรพล
(นามสกุลขึ้นต้นด้วยตัว พ.)หรือปุ๊ก 2 ครั้ง
เห็นรินบอกว่าบ้านเขาอยู่ลพบุรี
แต่ยังไงถ้าคนที่รู้จักผู้ชายคนนี้กำลังอ่านหนังสือคู่สร้าง-คู่สมอยู่ช่วยถามเขาหน่อยว่า
ยังจำเรื่องนี้ได้หรือเปล่า ถ้ายังจำได้ ขอให้รู้ไว้ด้วยว่า
ศพของรินกับลูกฝังอยู่ที่ วัดอัมพวัน อ.อัมพวัน จ.สมุทรสงคราม

ทั้งสองคนแม่ลูกยังรอคุณปุ๊กอยู่ แม้จะไร้ลมหายใจแล้วก็ตาม


Story by : wee
Date : 10 September 2004

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น