เสนอยิงดาวเทียมดวงใหม่ทดแทน - กมธ.การเงินฯ เรียก พร้อมพงศ์-ประเกียรติ
ชี้แจงกล่าวหารัฐบาลปล่อยข่าวปั่นหุ้นไทยคม 30 มิ.ย.นี้
วันนี้(23 มิ.ย.) นายจุติ ไกรฤกษ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
กล่าวภายหลังหารือกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ถึงการซื้อคืนดาวเทียมไทยคมว่า นายกฯ
มอบหมายให้ดูข้อกฎหมายเรื่องนี้อย่างรอบคอบ ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
แต่มีหลายแนวทาง ทั้งซื้อ ยึดคืน รัฐบาลยิงดาวเทียมดวงใหม่เอง
หรือให้เอกชนยิง นายจุติ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า
การยิงดาวเทียมดวงใหม่เป็นทางเลือกที่น่าจะดีที่สุด
เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ส่วนเรื่องสัมปทานต้องมาพิจารณากันอีก
โดยหลังจากนี้ จะต้องรอผลสรุปความเห็นจากคณะกรรมการที่พิจารณาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำ
ผิดสัญญาสัมปทาน ซึ่งคาดว่า จะสามารถมีข้อสรุปได้ในวันที่ 7 ก.ค.นี้
สำหรับปัจจัยสำคัญที่จะใช้พิจารณาเรื่องดาวเทียมไทยคมนั้น
จะยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก โดยจะคำนึงถึงปริมาณเงิน,
อายุของดาวเทียม, รวมถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ พร้อมยืนยันว่า
เรื่องนี้จะไม่ทำให้เกิดปัญหาจนรัฐบาลไม่สามารถมีทางออก
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์
เลขานุการคณะกรรมาธิการ การเงิน การคลัง การธนาคาร และ สถาบันการเงิน
จะเชิญ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และ นายประเกียรติ นาสิมมา
ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย มาให้ข้อมูลในวันที่ 30 มิ.ย.
หลังจากที่บุคคลทั้งสองออกมาให้ข่าว ว่า
รัฐบาลปล่อยข่าวซื้อดาวเทียมไทยคม คืนจากกลุ่มเทมาเส็ก
ทำให้หุ้นไทยคมมีราคาสูงขึ้น และทำให้ได้กำไร 300 ล้านบาท นอกจากนั้น
นายพร้อมพงษ์ ยังระบุว่า มีผู้ได้รับประโยชน์จากการให้ข่าวซื้อไทยคม
อักษรย่อ ก.และ ศ.ซึ่งต่อมาวันที่ 22 มิ.ย.นายพร้อมพงศ์
ได้เปิดเผยชื่อภายหลังว่า คือ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และอักษรย่อ
ศ.คือ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และ นายพร้อมพงศ์
ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ประธาน กมธ.
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมาธิการในวันที่ 30
มิ.ย.จะมีการเชิญสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มาร่วมชี้แจงต่อ กมธ.ด้วย
"หาก นายพร้อมพงศ์ ไม่มาชี้แจง หรือชี้แจงข้อมูลต่อ
กมธ.ไม่ครบถ้วน พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการฟ้องร้องนายพร้อมพงศ์
และนายประเกียรติ เพื่อให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เพราะการกล่าวหาอันเป็นเท็จนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับทั้ง นายกรณ์
และ นายศิริโชค แล้ว
ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจประเทศได้รับความเสียหายไปด้วย"
นายอรรถวิชช์ กล่าว
ด้าน นายประเกียรติ กล่าวว่า
การชี้แจงของรมว.คลังต่อคณะอนุกรรมาธิการฯเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.)
ไม่ได้ปฏิเสธว่า เป็นผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายดาวเทียมไทยคม
ดังนั้น การที่หุ้นไทยคมมีการซื้อขายผิดปกติน่าจะมาจากการที่มีคนบางกลุ่มเข้าปั่น
หุ้น เรื่องนี้จึงน่าจะทำเป็นกระบวนการ
และขณะนี้คณะกรรมการเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยกำลังตรวสอบว่ามีกลุ่มที่ได้
ประโยชน์เป็นกลุ่มเดียวกับการซื้อขายธนาคารนครหลวงไทยหรือไม่
ถ้าเป็นกลุ่มเดียวกันก็อาจจะมีการใช้ข้อมูลภายในเพื่อหาประโยชน์
เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าการซื้อดาวเทียมไทยคมคืนต้องการสร้างกระแสรักชาติ
เรื่องนี้จึงฟันธงไปเลยว่ามีการปั่นหุ้นแน่นอน
เรื่องดังกล่าวยังถือว่าเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์
พ.ศ.2535 มาตรา 240 เพราะมีการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ
จนทำให้หุ้นสูงผิดปกติ
จึงอยากให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
เข้าไปตรวจสอบ และหากผิดจริงก็ก็มีโทษจำคุกถึง 2 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น