++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อาหารด่างสำหรับร่างกาย

ทุกวันนี้เราต้องกินอาหารเป็นประจำ วันละ 2-3 มื้อ
เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารและพลังงานที่เพียงพอ
แต่เชื่อหรือไม่ว่าอาหารที่เรากินกันอยู่นั้นสามารถทำให้เราอ่อนล้าและหมดแรงได้
ถ้าเราแบ่งอาหารตามผลทางปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นหลังจากขบวนการย่อย
เราจะแบ่งได้เป็นได้เป็นอาหารที่เป็นกรดต่อร่างกาย กับ
อาหารที่เป็นด่างต่อร่างกาย
ซึ่งค่าความเป็นกรด-ด่างนั้นไม่ได้วัดจากความเปรี้ยวหรือรสชาติของอาหารที่ลิ้นเราสัมผัสได้
แต่หมายถึงสิ่งที่หลงเหลืออยู่ขั้น สุดท้ายหลังจากขบวนการย่อย
ยกตัวอย่างเช่น ผลไม้ซึ่งมีรสเปรี้ยวเช่น ส้ม มะนาว สับปะรด
แต่เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้ว
หลังจากย่อยแล้วส่วนที่เหลือจะมีค่าเป็นด่าง
เราจึงจัดให้ผลไม้เหล่านี้อยู่ในกลุ่มอาหารที่ทำให้ร่างกายเป็นด่าง
ทั้งนี้เราจะจำแนกให้อาหารชนิดนั้นอยู่ในจำพวกไหนขึ้นอยู่กับผลสุดท้ายที่เกิดขึ้นหลังจากอาหารเหล่านั้นผ่านขบวนการย่อยเรียบร้อยแล้ว

ขบวนการต่างๆในร่างกาย ทั้งการหายใจ การย่อยอาหาร
การไหลเวียนโลหิต การผลิตฮอร์โมน
โดยทุกระบบจะทำงานประสานกันเพื่อควบคุมสมดุลกรด-ด่าง(pH) ภายในร่างกาย
เราสามารถทดสอบได้ง่ายๆว่าอาหารชนิดใดเป็นกรด หรือเป็นด่างได้ง่ายๆ
โดยนำอาหารนั้นไปเผา(เปรียบได้กับการเผาผลาญอาหารในร่างกาย)
แล้วจึงนำขี้เถ้าที่เหลือจากการเผามาเติมน้ำ จากนั้นนำไปวัดค่า pH
อาหารที่มีแคลเซียม โพทัสเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โซเดียม
แมงกานีสในปริมาณสูงจะให้ค่า pH เป็นด่าง
ในขณะทีอาหารที่ประกอบด้วยฟอสฟอรัส คลอรีน ซัลเฟอร์ ซิลิกอน ไอโอดีน
ฟลูออไรด์สูงจะให้ค่า pH เป็นกรด


อาหารที่ดีต่อสุขภาพคืออาหารที่ทำให้เกิดของเสียที่มีค่าเป็นกรดน้อยที่สุด
หรือประกอบด้วยสารที่สามารถลดความเป็นกรดได้ในปริมาณมาก
อาหารที่ปรุงขายทั่วไป
อาหารสำเร็จรูปที่ขายกันอยู่ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ทำให้ร่างกายเกิดสภาวะเป็นกรด
และถ้าประกอบกับการบริโภคผัก-ผลไม้ในปริมาณน้อยด้วยแล้วยิ่งทำให้ภาวะกรดในร่างกายมากขึ้น
ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของความเจ็บปวดตามส่วนต่างๆของร่างกาย
ตลอดจนโรคเรื้อรังต่างๆ


ภาวะที่ร่างกายเป็นกรดมากเกินไปจะส่งผลทำให้ปริมาณออกซิเจนที่เซลล์ควรได้รับน้อยลงไปด้วย
เมื่อเซลล์ขาดออกซิเจนนานๆจะก่อให้เกิดความผิดปกติในร่างกายส่วนต่างๆ
ทำให้ไม่สบาย ก่อให้เกิดความเสื่อม จนถึงการเกิดมะเร็ง
(เซลล์ในร่างกายที่แข็งแรงจะมีค่าเป็นด่างเล็กน้อย
ในขณะที่เซลล์มะเร็งจะทำงานได้ดีในสภาพที่มีค่าเป็นกรด)
ภาวะความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย

· เมื่อร่างกายมีภาวะเป็นด่าง
เซลล์ต่างๆจะแข็งแรงเนื่องจากเซลล์จะได้รับสารอาหารที่จำเป็นและออกซิเจนอย่างเพียงพอ

· เมื่อร่างกายมีภาวะเป็นกรด
เซลล์จะอ่อนแอเนื่องจากขาดออกซิเจนและสารอาหาร
ทำให้เกิดการการคั่งของของเหลวและสารพิษรอบๆเซลล์
ทำให้เกิดภาวะความเจ็บปวดและโรคต่างๆ
ซึ่งในภาวะดังกล่าวจะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า และต้องการการพักผ่อน
เพื่อสงวนพลังงานไว้ใช้สำหรับกำจัดสารพิษดังกล่าวออกจากร่างกาย
เมื่อร่างกายกำจัดของเสียซึ่งเป็นกรดออกจากร่างกายได้แล้ว
เซลล์จะมีค่าpHเป็นด่าง ทำให้การทำงานของเซลล์กลับสู่สภาพปกติ
สามารถดูดซึมสารอาหารและแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้น

ร่างกายเราเปรียบเสมือนธนาคาร สามารถสะสมสารอาหาร
ตลอดจนแร่ธาตุไว้ใช้
เมื่อเรากินอาหารที่มีส่วนประกอบของแร่ธาตุที่เป็นด่างในปริมาณมากกว่าความต้องการใช้ในขณะนั้น
ร่างกายจะเก็บแร่ธาตุเหล่านี้ไว้สำหรับใช้ต่อไป

อาหารที่ทำให้ร่างกายเกิดภาวะเป็นด่าง ได้แก่ ต้นงอก
ผัก(โดยเฉพาะหน่อไม้ฝรั่ง วอเตอร์เครส แตงกวา ถั่ว ผักกาด ผักชีฝรั่ง
เครื่องเทศ หัวหอม คึ่นฉ่าย แครอท) ผลไม้ (โดยเฉพาะ มะนาว ส้ม สับปะรด
กีวี เชอรี่ สตรอเบอร์รี แตง แอปเปิ้ล แอพริคอท อโวคาโด) คีเฟอร์
โยเกิร์ต ชาสมุนไพร นอกจากอาหารแล้วความคิดในแง่บวก เช่น ความสุข
สมหวังก็ทำให้ร่างกายมีค่าเป็นด่างด้วย

อาหารที่ทำให้ร่างกายเกิดภาวะเป็นกรด ได้แก่ พวกแป้งและโปรตีน
(พวกเนื้อสัตว์และแป้ง น้ำตาลขัดสี) ชา กาแฟ น้ำอัดลม สุรา เบียร์ เกลือ
น้ำตาล อาหารสำเร็จรูป ผงชูรส และความเครียด ตลอดจนความคิดในแง่ลบ( โกรธ
เกลียด ซึมเศร้า) ก็ส่งผลทำให้ร่างกายเกิดสภาวะเป็นกรด

หมายเหตุ : เมล็ดธัญพืชทุกชนิด รวมถึงถั่ว มีคุณสมบัติเป็นกรด
ยกเว้นเมื่อนำมาปลูกเป็นต้นงอก จะมีคุณสมบัติเป็นด่าง


ในร่างกายของมนุษย์เรามีกลไกควบคุมความเป็นกรด-ด่างในกระแสเลือดให้อยู่ที่ประมาณ
7.4 เมื่อร่างกายมีสภาวะเป็นกรดจะเกิดกลไกการละลายแคลเซียมออกจากระดูกเพื่อที่จะสะเทินความเป็นกรด
กลไกนี้เกิดขึ้นเพื่อที่จะพยายามรักษาความเป็นด่างไว้ให้ร่างกาย
แต่ถ้าร่างกายต้องอยู่ในสภาพเป็นกรดนานๆ กลไกการควบคุมสมดุลก็จะสูญเสียไป
ทำให้เกิดกรดสะสมในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของความเจ็บป่วย อาทิเช่น
อาการปวดหัว ข้ออักเสบ ความเหนื่อยล้า ภาวะกระดูกพรุน เป็นต้น


ดังนั้นเราสามารถช่วยกำจัดภาวะกรดดังกล่าวได้โดยรับประทานอาหารที่ทำให้ร่างกายเกิดสภาพเป็นด่าง(โดยเฉพาะพวกต้นงอก)
โดยสัดส่วนแล้วอาหารที่เรารับประทาน75-80%
ควรเป็นอาหารที่ทำให้ร่างกายเกิดสภาวะเป็นด่าง ดื่มน้ำเยอะๆ
หายใจลึกๆยาวๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

เรียบเรียง โดย บริษัท กู๊ดเฮลท์ ประเทศไทย จำกัด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น