++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

"ประจบ เชิญผึ้ง" เลขานุการนายก อบต.บางคูรัด "นักพัฒนาตามปรัชญา ศก.พอเพียง

ท่าม กลางภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกถดถอย
รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
มีนโยบายที่จะให้ความสำคัญสินค้าการเกษตรเป็นพิเศษ โดยมุ่งเน้นผลิตอาหาร
และพลังงานทดแทน
ซึ่งรัฐบาลจะบรรจุไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับใหม่

ขณะเดียวกันปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ
ยังคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับรัฐบาลมาหลายยุคสมัย
ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันมีนโยบายที่จะยกเลิกการรับจำนำสินค้าเกษตรเป็นการ
ประกันราคาแทน

ทั้งนี้ ที่ประชุมธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์)
ได้เสนอให้รัฐบาลประกันสินค้าเกษตรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในระยะยาวจะต้อง
จัดทำระบบลงทะเบียนเกษตรกรให้ชัดเจนว่า มีกลุ่มใด ปลูกข้าวพันธุ์อะไร
มีพื้นที่เท่าไหร่ เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์
และไม่ควรประกันราคาสูงกว่าท้องตลาด

"ประจบ เชิญผึ้ง" เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางคูรัด
อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ในฐานะชาวนาที่สั่งสมประสบการณ์เพาะปลูกข้าวมานานกว่า 10 ปี บอกกับเราว่า
รู้สึกดีใจที่รัฐบาลประชาธิปัตยให้ความสำคัญกับเกษตรกรชาวไร่ชาวนา
แต่ยังไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะดำเนินการช่วยเหลือให้เกษตรกรพ้นจากภาระหนี้สิน
ความยากจนได้หรือไม่

"ผม ดีใจที่รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญกับภาคเกษตร
แต่การแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ จากการรับจำนำมาเป็นการประกันราคานั้น
ก็อาจไม่ใช่หนทางที่แก้ไขปัญหาได้
ทางที่ดีรัฐบาลควรตั้งโรงสีรับจำนำสินค้าเกษตรโดยตรงจะดีกว่า
กระนั้นก็ตามผมเห็นว่าการป้องกันปัญหาทุจริตจะต้องอาศัยความร่วมมือจาก 3
ฝ่าย คือจากฝ่ายรัฐ เอกชน และชาวนา จะต้องกล้าปฏิเสธไม่เข้าสู่วงจรทุจริต
อย่างไรก็ตามสิ่งที่รัฐบาลควรมุ่งเน้น
ก็คือการพัฒนาภาคการเกษตรแบบยั่งยืน ให้ชาวไร่
ชาวนายืนหยัดด้วยลำแข้งของตนเองให้ได้ เน้นการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก
นำความรู้ภูมิปัญญาบรรพบุรุษมาพัฒนาเพิ่มผลผลิต"

ปัจจุบันชาวนาทำนาแข่งกับเวลา ใช้เทคโนโลยี
ใส่ปุ๋ยสารเคมีเข้ามาแทนทีภูมิปัญญาบรรพบุรุษเราที่สมัยก่อนใช้ควายใช้ปุ๋ย
ธรรมชาติ สมัยก่อนเราทำนาปีละครั้งไม่ต้องใส่ปุ๋ยบำรุงอะไรมากมาย
เพราะดินดีน้ำดี ปัจจุบันหลายพื้นที่ทำนาปีละ 3-4 ครั้ง
วิถีชีวิตเปลี่ยนไปต้องแข่งขันกับเวลา ต้องเผาตอซังข้าว
เพื่อให้รถไถเปิดหน้าดินได้ง่าย แต่ผลเสียของการเผาตอซังมากมาย
ทั้งภาวะโลกร้อน ระบบนิเวศน์ถูกทำลาย สัตว์ที่อาศัยอยู่ใต้ดิน รวมถึงแมลง
ซึ่งมีส่วนสำคัญในการรักษาคุณภาพของดิน ก็ถูกทำลายไปด้วย

เวลาเพาะปลูกต้องใช้ปุ๋ยในปริมาณที่มาก
ยิ่งถ้าใช้ปุ๋ยสูตรปุ๋ยเคมี ดินจะเสียหายภายใน 2 ปี พอปีที่ 3
นาที่ใช้ปุ๋ยเคมีดินจะแข็ง ต้นข้าวจะอ่อนแอไม่มีภูมิต้านทานศัตรูพืช
ทั้งเชื้อรา และแมลงต่างๆ เกษตรกรต้องเสียเงินซื้อเคมีกำจัดศัตรูพืช
และต้องเพิ่มปริมาณปุ๋ยขึ้นเรื่อยๆ
ปัจจุบันได้หันหลังให้กับปุ๋ยเคมีอย่างสิ้นเชิง

"ประจบ เชิญผึ้ง" ได้นำภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษ
และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ถ่ายทอดลงสู่พื้นนาของเขากว่า 70 ไร่
อาจพูดได้ว่าเป็นผืนนาที่แปลกแหวกแนวกว่าท้องนาทั่วๆ ไป
เขาเนรมิตคันนาและได้ขุดร่องน้ำรายล้อมรอบแปลงนา
ควบคู่ไปกับการปลูกไม้ยืนต้นบนบนคันนา อาทิ
มะพร้าวเตี้ยน้ำหอมที่ออกผลดกเต็มต้น

ขณะ เดียวกันในร่องน้ำยังกักเก็บน้ำใสใช้ทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปียังอุดมไปด้วย
พันธุ์ปลานานาชนิด
ซึ่งผลผลิตที่เกิดขึ้นจากนานผืนนี้รับรองว่าปลอดสารพิษปนเปื้อน

ปัจจุบันครอบครัว "เชิญผึ้ง"
ใช้ชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงอยู่กับครบอครัวที่อบอุ่น
ไม่มีภาระหนี้สิน ซึ่งเขายังแสดงความเชื่อมั่นกับเราว่า
อาชีพชาวนาสามารถยึดเป็นอาชีพที่หล่อเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบายๆ
หากนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาใช้
เพราะวิถีพอเพียงของพระองค์ไม่ได้จำกัดความร่ำรวย
หากแต่ละปีเขามีเงินหมุนเวียนจากการปลูกข้าว
และทำไร่นาแบบผสมผสานนับล้านบาททีเดียว

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000086421

อาชีพเกษตร ชาวนา มีความสำคัญต่อประเทศชาติมาก แต่ปัจจุบันรัฐ
มักจะไม่ค่อยให้การสนับสนุนอย่างตั้งใจเท่าที่ควร
นอกเสียจากการแสวงหาจากภาคเกษตรกร ชาวนา
และเกษตรกรจึงมักจะตกเป็นเหยื่อของภาครัฐอยู่เสมอ
ชาวนาตัวจริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น