++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สธ.เตือนอย่าซื้อยา "ทามิฟลู" ทางเน็ต ย้ำหมอจ่ายปลอดภัยสุด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 สิงหาคม 2552 16:44 น.
ภาพจากทางอินเทอร์เน็ต
สธ.เตือนประชาชน
อย่าหลงเชื่อซื้อยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ผ่านเว็บไซต์
ย้ำต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น ขณะที่
ปลัดสธ.ชี้มติครม.ขอความร่วมมือให้ลาได้ป่วยหวัด2009 หลังบริษัทเอกชน
ไม่ยอมให้เป็นวันหยุด

วันที่ 1 สิงหาคม นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีเว็บไซต์ประกาศขายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ว่า
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)เข้มงวดในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว
เพราะยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์
ถือเป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องมีการสั่งจ่ายโดยแพทย์
และขอเตือนประชาชนว่าขณะนี้ช่องทางในการได้รับยามีเพียงการสั่งจ่ายยาผ่าน
แพทย์ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ทุกแห่ง
ส่วนคลินิกจะเริ่มต้นได้ประมาณกลางสัปดาห์หน้า
และต้องเป็นคลินิกที่ผ่านการคัดเลือกจาก สธ.แล้ว
โดยจะมีการขึ้นทะเบียนและมีป้ายรับรองของสธ.

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า
จากการตรวจสอบเว็บไซต์ที่ขายยาโอเซลทามิเวียร์
พบว่าเกือบทั้งหมดเป็นเว็บไซต์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ
และมีการขายยาหลายชนิดรวมอยู่กับกลุ่มยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
เชื่อว่าประชาชนจะเข้าถึงยาเหล่านี้ได้ยากและมีแรงจูงใจในการซื้อมาใช้น้อย
เพราะประเทศไทยมีช่องทางในการเข้าถึงยาได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งโรงพยาบาลขนาดใหญ่และกำลังจะมีการกระจายยาลงไปในระดับคลินิก
ต่างจากยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศที่มีความต้องการทางเว็บไซต์มากกว่าเพราะเป็น
ยาที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่เกิดความอายจึงหันมาสั่งซื้อ
ผ่านอินเทอร์เน็ตแทน

"การ ขายยาผ่านเว็บไซต์หากพบจะเข้าข่ายความผิดฐานโฆษณาไม่ได้รับอนุญาติซึ่งมีโทษ
ทั้งจำและปรับ และหากพบว่าเป็นยาปลอมก็มีโทษอีกเช่นกัน
ซึ่งจากการที่สธ.มีนโยบายกระจายยาในระดับคลินิก
ทำให้จะมีการตรวจสอบการใช้ยาที่เข้มงวดมากกว่าเดิม
โดยคลินิกต่างๆต้องปฏิบัติตามที่สธ.วางเกณฑ์ไว้
และหากตรวจพบว่าคลินิกแห่งใดลักลอบขายยาโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตก็จะมีโทษหนัก
ทั้งการขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาติ
และต้องส่งเรื่องให้แพทยสภาเพราะเข้าข่ายผิดจริยธรรม"นพ.พิพัฒน์ กล่าว

ด้านนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ.
กล่าวถึงกรณีมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)
อนุญาตให้ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
สามารถหยุดงานพักอยู่กับบ้านได้ 5-7 วัน โดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์
ทั้งในส่วนของราชการและเอกชน ว่า
เป็นการขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคหากเริ่มป่วยให้
หยุดอยู่บ้าน และแยกของใช้ส่วนตัวจากคนในครอบครัว
เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
ซึ่งในส่วนงานราชการคงไม่มีปัญหาเรื่องการหยุดงาน
เพราะรัฐอนุญาตให้หยุดงานได้ แต่ในส่วนของภาคเอกชน อาจจะมีปัญหาบ้าง
ซึ่งหากบริษัท ห้างร้าน ใดไม่เข้าใจนโยบายเรื่องนี้
ไม่อนุญาตให้พนักงานหยุดงานได้ ให้แจ้งมาที่ สธ. ได้ทันที
ตนพร้อมจะประสานทำความเข้าใจให้

"ต้อง ยอมรับว่าเรื่องนี้ เป็นการใช้ความไว้วางใจกัน
หากผู้ที่มีประวัติการทำงานไม่ดี หยุดงานบ่อย
ก็อาจใช้เรื่องนี้มาอ้างหยุดงานพร่ำเพรื่อได้ ซึ่งมติครม.
อนุญาตให้หยุดงานได้เฉพาะเมื่อป่วยต้องสงสัยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 เท่านั้น ไม่รวมไข้หวัดทั่วไป ซึ่งแต่ละคนจะป่วยได้เพียง 1
ครั้งเท่านั้น หากมีการหยุดงานมากกว่า 1 ครั้ง
ให้ต้องสงสัยว่าอาจจะไม่ได้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ได้ทันที ยกเว้น กรณีที่มีบุตรหลายคน และมีการป่วยไม่พร้อมกัน
ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หยุดงานได้มากกว่า 1 ครั้งก็ได้ ดังนั้น
เพื่อความสบายใจทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนายจ้างและพนักงาน
ก็ควรมีใบรับรองแพทย์มายืนยัน" นพ.ปราชญ์กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น