เธอเป็นคนที่ชอบเพลงลูกทุ่งของต่าย อรทัย และศิริพร อำไพพงษ์อย่างมาก
แม้ว่า ช่วงนี้ จะหันมาชอบเพลงของ ลีเดีย เจ้าหญิง อาร์แอนบี
แต่ก็ไม่แปลกที่เธอจะชอบฟังเพลงหลากหลายแนว
แต่สิ่งหนึ่งที่เขาประทับใจ คือ เธอเปิดฟังเพลงของ พี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ แทบทุกวัน
ฟังแล้ว คิด ซึมซาบกับบทเพลงช้าๆ ที่ตรงกับความรู้สึกของเธอหลายบทเพลง
เขาเคยพาเธอไปดูคอนเสิร์ตของศิริพร อำไพพงษ์แสดง 2 ครั้ง
ที่โคราช และ กทม.
เธอประทับใจ ชื่นชอบ และสนุกสนาน
แต่เป็นการยืนดูศิริพร ที่หน้าเวทีเท่านั้น
ไม่มีโอกาสได้พูดคุย ใกล้ชิิดมากกว่านั้น
เขาตั้งใจว่า วันหนึ่ง จะให้เธอได้ใกล้ชิดกับพี่นางสักครั้ง
ได้ใกล้ชิดกับศิลปินในดวงใจ ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้ใกล้ชิด
เมื่อรู้ว่า เธอชอบลิเดีย
เขาไม่รู้ว่า จะพาเข้าไปดู ไปให้ถึงตัวลิเดียได้อย่างไร
เพราะลิเดีย เป็นนักร้องสตริงวัยรุ่น (อาร์แอนบี)
ต่างจากนักน้องลูกทุ่ง ที่มีความเป็นกันเองมากกว่า ใกล้ชิดได้มากกว่า
แม้หลายคนจะบอกว่า เพลงหมอลำเป็นอะไรที่ดูเชยๆ
แต่เธอก็ยอมรับ และเลือกที่จะฟัง
แน่นอนว่า เธอเป็นคนที่มีโอกาสได้เข้าถึงศิลปินนักร้องที่เธอชื่นชอบ
ในขณะที่หลายคน ชื่นชอบนักร้องคนอื่นๆ
ยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปดู ไปเจอตัวจริงเสียงจริง
และอาจจะไม่มีโอกาสได้พูดคุย เจอตัวจริงของนักร้องที่ชื่นชอบอย่างที่เธอมีโอกาสเลยสักครั้งในชีวิต
เขาตั้งใจที่จะเห็นภาพเธอ สวมกอดกับพี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ ศิลปินในดวงในของเธอสักครั้งหนึ่งในชีวิต
อยากเห็น เธอพูดคุยกับศิริพร อย่างใกล้ชิด
ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ว่า ตามใจเธอ ให้เธอได้พบกับคนที่เธอชื่นชมเท่านั้น
แต่ผลพลอยได้ เธอมักจะสังเกตเห็นหลายสิ่ง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
พี่นางนั้น เป็นผู้นำวงดนตรี เสียงอีสาน
ผู้หญิงที่เป็นผู้นำวงดนตรี รับผิดชอบคนหลายชีวิต และอยู่มานานหลายปี ย่อมมีหลายอย่างที่น่าสนใจ
เธอน่าจะเห็นหลายสิ่งหลายอย่างจากตัวของพี่นาง นอกจากเป็นแฟนเพลงที่เข้าไปชื่นชมเท่านั้น
ยิ่งการได้ไปสัมผัสตัวจริงถึงที่บ้าน
ได้เห็นอะไรมากกว่า เห็นบนเวทีคอนเสิร์ต
เห็นความเป็นผู้นำ ในตัวพี่นาง
เห็นความเป็นพี่ เป็นน้า เป็นป้าของหลาน ในตัวพี่นาง
เห็นความหนักแน่น เข้มแข็งในตัวพี่นาง
เห็นคนที่ผ่านชีวิต ผ่านความลำบากมามาก ในตัวพี่นาง
ฯลฯ
แค่นี้ ก็เกินจะคุ้มแล้ว
แม้ว่า ตั้งใจจะพาเธอไป
แต่บางที ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
เพราะเธออาจจะติดธุระด่วน ติดงานด่วน
จนไม่สามารถที่จะไปบ้านของพี่นางได้
ซึ่งก็น่าเสียดายเหมือนกัน
เพราะมีโอกาสนี้โอกาสเดียวเท่านั้น ที่จะได้สัมผัส พบเห็นหลายสิ่งที่มากกว่าบนเวทีคอนเสิร์ต
เหมือนการเติมสีสันใหม่ๆใส่ชีวิต
กับการได้พบเจอสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อน
แต่ก็ช่างเถอะ การที่จะได้ไปหรือไม่ คงอยู่ที่โชควาสนาของเธอเช่นกัน
หากไม่ติดธุระอะไร ย่อมทางสะดวก
น่าจะเป็นปีนี้เท่านั้น ที่เขาจะมีโอกาสพาเธอไป
ในปีหน้า หรือปีต่อๆไป ใช่ว่าจะมีเวลาว่างเหมือนในปีนี้
ช่วงก่อนหน้านี้ เธอไม่พอใจที่เขาจะไปอุดร
ไม่อยากให้เขาไป เพราะไม่พอใจบางสิ่งบางอย่าง
ไม่พอใจคนที่เขาไปพบ
ความไม่พอใจ กลับมาบดบังเป้าหมายที่สำคัญ คือ การที่เขาจะได้มีโอกาสพาเธอไปพบกับพี่นาง
เป้าหมายคือสิ่งสำคัญ แต่วิธีการที่จะไปถึงเป้าหมาย มีหลายวิธี
เมื่อเธอไม่พอใจคนที่เขาไปพบ เมื่อความตั้งใจแต่เดิม เขาจะพาเธอเดินทางไปกับคนที่ทำให้เธอไม่พอใจ
งั้นเขาก็ไปกับเธอแค่ 2 คน
ตัดสิ่งที่ทำให้เธอไม่พอใจออกไป เพื่อเดินไปสู่ความตั้งใจหวังไว้
ความจริงแล้ว ไปหลายๆคนจะสนุก คึกคัก อบอุ่นมากกว่า
เขานึกถึงน้องแจง น้องสาวคนเก่งของเขา ซึ่งชอบเพลงหมอลำ และชอบศิริพร เหมือนกัน
พาน้องแจงไปด้วยกับเธอคงจะดีไม่น้อย
หากน้องแจงและเพื่อนๆว่าง ก็ชวนไปด้วยกันเลย
ขึ้นรถมากับเธอ วันเสาร์ มาเจอเขาที่ขอนแก่น และกลับวันอาทิตย์
เขาไม่แน่ใจนักว่า น้องแจงกะเพื่อนๆจะว่างไหม
หากเคลียร์ได้ ก็น่าจะเคลียร์ให้ว่าง
เพราะเขาคงจะมีโอกาสพาน้องแจงและเพื่อนๆร่วมเดินทางไปกับเธอได้...
....เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น...
ปีหน้าหรือปีต่อไป ถึงอยากจะพาไปอย่างไรก็คงจะยาก และคงเป็นไปไม่ได้
เพราะน้องแจงและเพื่อนๆ เรียนจบกันแล้ว ต่างแยกย้ายไปทำงานกันแล้ว...
คงจะมีโอกาสเพียงในช่วงนี้เท่านั้น
และบางที อาจจะเป็นครั้งเดียวในชีวิต ที่จะได้ไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาววพิณแคนแดนอีสาน
วงดนตรีหมอลำชื่อดังวงหนึ่งของเมืองไทย
แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่
ทุกอย่างย่อมมีจังหวะและเวลาของมันเอง
ใช่ว่า ทุกคนจะได้รับโอกาสนั้นๆ
เพราะหลายคน มักจะพลาดโอกาสดีๆหลายอย่างของชีวิตไปหลายต่อหลายครั้ง..
ชีวิตก็แบบนี้แหละ..
มีทั้งสมหวัง และพลาดหวัง .....