++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

คนเราจะสุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจเป็นสำคัญ

คนเราจะสุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจเป็นสำคัญ ถึงแม้จะมีโชคเพราะถูกหวย แต่หากรู้ว่าเพื่อนได้เงินรางวัลมากกว่าเพราะแทงมากกว่า ที่เคยดีใจก็กลับเป็นซึมเศร้าไปทันที ทำนองเดียวกันถึงแม้จะดีใจเพราะซื้อโทรศัพท์มือถือได้ถูกกว่าท้องตลาด แต่เมื่อรู้ว่าเพื่อนบ้านซื้อได้ราคาถูกกว่าที่ตัวเองซื้อ ปากที่เคยแย้มยิ้มก็หุบทันที
ในทางตรงข้ามแม้จะล้มป่วยหรือสูญเสียทรัพย์หรือการค้าขาดทุน แต่หากมองว่านั่นเป็นธรรมดาของชีวิตที่มีขึ้นมีลง จิตใจก็ยังผ่องใสเบิกบานได้ แม้จะมีเงินน้อย แต่ก็พอใจในสิ่งที่มี ภูมิใจในสิ่งที่ทำ อีกทั้งยังรู้ว่ามีคนอื่นอีกมากมายที่ลำบากกว่าตัว ชีวิตก็เป็นสุขได้ไม่ยาก
คนเราไม่ได้เป็นสุขได้เพราะทรัพย์ ตำแหน่ง และสถานะเท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้นก็คือความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิต รวมถึงมุมมองและความคิดที่สามารถยกจิตออกจากความทุกข์ หรือนำพาจิตให้เข้าถึงความสุข ไม่ว่าจะมีอะไรมากระทบหรือมีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นกับชีวิตก็ตาม ขณะเดียวกันก็สามารถกำกับชีวิตให้เป็นไปในทางที่ดีงาม เกื้อกูล ก่อประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่นได้ ปัจจัยเหล่านี้เรียกรวมๆ ว่า ปัญญา ความสุขที่เกิดจากปัญญาจัดว่าเป็นความสุขที่แท้ เพราะไม่อิงอาศัยปัจจัยภายนอก จึงเป็นหลักประกันแห่งความสุขอันยั่งยืนที่ไม่มีใครแย่งชิงได้
พระไพศาล วิสาโล

@ คุณค่าผักมีสี....สารไฟโตนิวเทรียนท์

@ คุณค่าผักมีสี....สารไฟโตนิวเทรียนท์
ไฟโตนิวเทรียนท์ คือสารอาหารจากผักผลไม้ที่อุดมไปด้วย สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันการติดโรคต่าง ๆ ได้อย่างดี มีฤทธิ์ต่อต้านหรือป้องกันโรคสำคัญที่มักจะกล่าวถึงกันก็คือ โรคมะเร็ง จากการวิจัยของ USDA (United State Department of Agrculture) พบว่าการบริโภคผักผลไม้ที่มีสารไฟโตนิวเทรียนท์เป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ไขมันสะสมในหลอดเลือด

จากผลของการวิจัยและค้นคว้าของ สถาบันสุขภาพนิวทรีไลท์ (Nutrilite Health Institute) รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าในความเป็นจริงแล้วผักผลไม้แต่ละชนิดให้คุณประโยชน์จาก ไฟโตนิวเทรียนท์ที่ต่างกัน ดังนั้นการที่จะได้รับไฟโตนิวเทรียนท์อย่างเต็มที่ จึงต้องกินผักผลไม้ให้หลากสีด้วย โดยแบ่งสีของผักผลไม้ออกเป็น 5 กลุ่ม หรือ 5 สี คือ สี เขียว แดง เหลือง ม่วง ขาว เพราะแต่ละชนิดแต่ละสี ให้สารไฟโตนิวเทรียนท์ที่แตกต่างกันไป เช่น
ผักผลไม้สีเขียว เป็นผักผลไม้ที่มีมากที่สุดในโลก เช่น ผักบุ้ง ผักกาด ผักคะน้า บร็อคโคลี่ กะหล่ำปลี ผักโขม โหระพา กะเพรา สะระแหน่ วอเตอร์เครส บวบ ถั่วพู ถั่วฝักยาว คึ้นช่าย ฯลฯ ซึ่งผักสีเขียวส่วนมากเป็นผักกินใบเป็นอาหาร
มี สารโคลโรฟีล (Chlorophyll) ซึ่งสารทำให้ผักมีสีเขียว นอกจากนี้ยังมี สาร ลูทีน (Leutein) และ สาร ซีแซนทีน (Zeaxanthine) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก และโรคศูนย์จอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ ซึ่งมีมากใน ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักโขม ผักปวยเล้ง ผักกาดหอม แตงกวาทั้งเปลือก ถั่วแขก ถั่วลันเตา อะโวกาโด ฯลฯ
สาร อินโดล (Indole) ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับให้สร้างเอนไซม์ออกมาใช้ในการต้านทานป้องกันมะเร็งที่มดลูกและมะเร็งเต้านม ป้องกันไม่ให้ DNA ถูกทำลายจนกลายเป็นเนื้อร้าย มีมากในผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บร็อคโคลี คะน้า ฯลฯ
ผักผลไม้สีแดง ผักและผลไม้ที่มีสีแดงจะมีสารสำคัญที่เรียกว่า ไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งให้สีแดง เป็นสารสำคัญที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ป้องกันโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ ป้องกันภาวะความจำเสื่อม ชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะเซลล์ผิวหนัง และยังอุดมไปด้วยเกลือแร่และวิตามินต่าง ๆ นอกจากนี้ สาร เบต้าไซซิน (Betacycin) ในผลทับทิม หัวบี๊ทรูท และผลแคนเบอร์รี่ ยังเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดีอีกด้วย
ผักผลไม้สีแดง เช่น พริกแดง มะเขือเทศ แตงโม กระเจี๊ยบแดง มะละกอ สตรอเบอร์รี่ หัวบี๊ทรูท เชอร์รี่ ทับทิม ฯลฯ
ผักผลไม้ที่มี่สีเหลือง เป็นผักผลไม้อีกกลุ่มหนึ่งที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมด้วยสาร ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) แคโรทีนอยด์ (Carotenoid) สารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ได้แก่ เบต้า-แคโรทีน(Beta-carotene) แอลฟา-แคโรทีน (Alpha-carotene) ซึ่งเป็นสารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ความสำคัญของผลไม้ในกลุ่มนี้คือ ช่วยรักษาสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด บำรุงสายตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อกระจก ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
ผักผลไม้ที่มีสีเหลือง เหลืองอมส้ม เหลืองอ่อน เช่น แครอท มะละกอ ฟักทอง ข้าวโพด มะม่วง ขนุน แคนตาลูบ มันเทศ ลูกพลับ ทุเรียน เสาวรส มะเฟือง มะระ อโวกาโด กีวี มะนาว ขมิ้นชัน (ใช้รักษาโรคกระเพาะ) ซึ่งอุดมไปด้วยสาร เบต้า-แคโรทีน ที่จริงแล้วสารเบต้า-แคโรทีนมีอยู่ในผักผลไม้สีเข้มแทบทุกชนิด ซึ่งเราอาจจะกินทดแทนได้แต่อาจจะได้รับสารเบต้า-แคโรทีนไม่มากเท่ากับผักผลไม้สีเหลือง สีส้ม เท่านั้นเอง
ผักผลไม้สีม่วงหรือสีน้ำเงิน เป็นผักผลไม้ที่มีสารสำคัญชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบคือ แอนโธไซยานิน (Anthocyanin) สารกลุ่มนี้มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยลดอัตราความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันในสมอง ด้วยการยับยั้งไม่ให้เลือดจับกันเป็นก้อน และยังช่วยยับยั้งเชื้อ อีโคไล (E.coli) ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคท้องร่วงได้อีกด้วย
ผักผลไม้ที่มีสีม่วงหรือสีน้ำเงิน เช่น กะหล่ำปลีสีม่วง มันสีม่วง ชมพู่มะเหมี่ยว ชมพู่แดง ลูกหว้า ข้าวแดง ข้าวนิล ข้าวเหนียวดำ ถั่วแดง ถั่วดำ มันเทศสีม่วง หอมแดง ดอกอัญชัน น้ำว่านกาบหอย เผือก หอมหัวใหญ่สีม่วง มะเขือม่วง องุ่นแดง แอปเปิลแดง ลูกไหน ลูกพรุน ลูกเกด ลูกหม่อน (มัลเบอร์รี่) บลูเบอร์รี่ แบลคเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ ฯลฯ
ผักผลไม้ที่มีสีขาวหรือสีน้ำตาลอ่อน ผักและผลไม้ในกลุ่มนี้ เช่น เนื้อในสีขาวและเปลือกของมังคุด มีสาร แซนโทน (Xanthone) ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม ฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดอาการปวดข้อเข่า ต้านเซลล์มะเร็ง ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสม ลูกเดือย มีสารสำคัญคือ กรดไซแนปติก (Synaptic acid) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ขิง ข่า กระเทียม กุยช่าย ขึ้นช่าย เซเลอรี่ เห็ด ฯลฯ มีสารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย คือ สาร อัลลิซิน (Allicin) มีฤทธิ์ต้านการเกิดเนื้องอก แอปเปิล ผลฝรั่ง ชาเขียว ชาขาว มีสาร ฟลาโวนอยด์ ที่มีฤทฺธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สารสำคัญในขิงคือ 6-จิงเจอรอล (6-gingerol) มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดปริมาณไขมันในเลือด ลดการรวมตัวของเกล็ดเลือด การกินขิงจึงเหมาะสำหรับ การดูแลความดันเลือด ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ยังมียังมีผลไม้ในกลุ่มนี้ที่ใช้ในการควบคุมน้ำหนักได้ เช่น กล้วย สาลี่ พุทรา ลางสาด ลองกอง ลิ้นจี่ ละมุด แห้ว ผักผลไม้ที่มสีขาวและสีน้ำตาลอื่น ๆ
ในการกินผักผลไม้สีต่าง ๆ ดังกล่าวมานี้นอกจากเราจะได้รับสารไฟโตนิวเทรียนท์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว กากใยจากผักผลไม้ยังช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายอีกด้วย และเพื่อช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีในวันข้างหน้าอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://edtech.ipst.ac.th

แวกซ์เคลือบผลไม้....อันตรายไหม

แวกซ์เคลือบผลไม้....อันตรายไหม
แวกซ์จัดเป็นสารประเภทไข ที่ใช้สำหรับเคลือบผิว ผลไม้ต่าง ๆ แวกซ์หรือสารเคลือบผิวที่ใช้กันเป็นหลักนั้น มี 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. แวกซ์จากธรรมชาติ ได้มาจากพืช เช่น แวกซ์คาร์นาวบา (Carnuaba Wax หรือ Brazil Wax) เป็นแวกซ์ที่สกัดมาจากใบของต้น
ปาล์ม และแวกซ์ที่ได้มาจากสัตว์ เช่น สารไคโตซาน (Chitosan) ที่สกัดได้จากกระดองของปู กระดองของหมึก และเปลือกของกุ้ง บีแวกซ์ (Bee Wax) ได้มาจากขี้ผึ้ง มูลครั่ง หรือ เชลแลค (Shellac)
ในปัจจุบันส่วนใหญ่แวกซ์ที่นำมาใช้ในการเคลือบผิวผลไม้ ผัก ที่นิยมกันมากในประเทศต่าง ๆรวมทั้งประเทศไทย คือ เชลแลค เกรดอาหาร ซึ่งเป็นสารประเภทไข สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย
2. แวกซ์จากสารสังเคราะห์ เป็นแวกซ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม เป็นแวกซ์ที่รับประทานได้ เช่นกัน เช่น พอลิเอทิลีน แวกซ์ (Polyethylene Wax) พอลิเอทิลีน ไกลคอล (Polyethylene glycol)
แวกซ์ที่ได้จากธรรมชาติ และ จากสารสังเคราะห์ ดังกล่าวนี้ เป็นแวกซ์ที่รับประทานได้ ซึ่งได้การรับรองจาก องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา USFDA (US Food and Drug Administration) ให้เป็นวัตถุเจือปนในอาหารประเภท GRAS (Generally Recognized As Safe) ซึ่งมีหลักฐานการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ว่ามีความปลอดภัยต่อการบริโภค และสามารถเติมลงไปในอาหารได้ เช่นเดียวกับน้ำส้มสายชู เครื่องเทศและสมุนไพรต่าง ๆ
ในประเทศไทยที่มีการใช้แวกซ์เพื่อเคลือบ ผลไม้ ผัก นั้น ดำเนินการควบคุมการผลิตภายใต้ข้อกำหนดตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร GMP (Good Manufacturing Practice) และได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ผลไม้ ผัก ที่นำมาแวกซ์หรือเคลือบผิวนั้น จะต้องล้างจนมั่นใจได้ว่าสะอาดเป็นอย่างดี เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งสกปรกเจือปน ยาฆ่าแมลง หรือ จุลินทรีย์ต่าง ๆ ตกค้างอยู่บนผิว เพราะแวกซ์จะเคลือบกักสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นเอาไว้ด้วย การแวกซ์ทำได้โดยการพ่นฝอยหรือจุ่มลงในสารเคลือบผิวซึ่งสามารถเคลือบเป็นชั้นฟีล์มบาง ๆ ในทางปฏิบัตินั้นการแวกซ์เคลือบผลไม้ ผัก ใช้สารเคลือบผิวในปริมาณที่น้อยมาก ๆ ที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง โดยมีข้อมูลว่าใช้แวกซ์เพียงครึ่งกิโลกรัม สามารถเคลือบผิวของแอปเปิลได้นับหมื่น ๆ ผล
ผลไม้บางชนิดรับประทานทั้งเปลือก เช่น สตรอเบอรี่ องุ่น แอปเปิล ฯลฯ เพื่อให้ได้คุณค่าจากใยอาหาร สารพฤกษาเคมีต่าง ๆ สามารถทำความสะอาดได้โดยล้างน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง หรือล้างในน้ำอุ่น ๆ ดังนั้นการรับประทานผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิลแดง ที่มีความเป็นมันเงานั้น ไม่น่ากลัวอย่างที่เคยคิดกันว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม แต่ก็รับประทานได้อย่างปลอดภัย..
ข้อมูล โดย สุนทร ตรีนันทวัน
ผู้เชี่ยวชาญสาขาเทคโนโลยีการศึกษา สสวท.
สอบถามเพิ่มเติม E-mail : strin@ipst.ac.th

ฟังรายการวิทยุรักพ่อ ตอนที่ 203 - บนเส้นทางการทรงงานของในหลวง

ฟังรายการวิทยุรักพ่อ ตอนที่ 203 - บนเส้นทางการทรงงานของในหลวง

รายการรักพ่อ203 บนเส้นทางการทรงงานของในหลวง
http://youtu.be/onprPWnDyzA





ฟังรายการทั้งหมด
พบกับสารคดี บนเส้นทางการทรงงาน เพื่อประโยชน์สุขสู่ปวงประชา , เสียงการปฏิญาณตนของกลุ่มรักพ่อภาคปฏิบัติ, คำกลอนสอนธรรมะ - ได้ดีเพราะถูกด่า, กลเมล็ดเคล็ดลับ กับการพึ่งตนเอง, ช่วงรักพ่อ-มุสลิม "ตามรอยพ่อ บำรุงศาสนา" ฟัง
เพลงพรของพ่อ, พระภูมิพล, ผนึกแรงแสดงพลัง




มาแล้วครับรายการรักพ่อ ช่วยสายต่อ ให้ระบือ ส่งสื่อสาร
เหมือนคนที่มีจิตร่วมกัน ร่วมปกป้องสถาบัน ให้มั่นคง
ช่วงเวลาต่อจากนี้ไป ขอนำท่านผู้ฟังเข้าสู่รายการรักพ่อ

รายการวิทยุดีๆที่ตั้งใจทำในแนวจิตอาสา
ผู้ดำเนินรายการ : สุเวศน์ ภู่ระหงษ์
ทีมงาน ห้องบันทึกเสียง สิงหา ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี
- กลุ่มรักพ่อภาคปฏิบัติ

(๔๐) "ป่าเล็กในเมืองใหญ่" : สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร

(๔๐) "ป่าเล็กในเมืองใหญ่" : สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร
สารคดีเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร ตอนที่ ๔๐ "ป่าเล็กในเมืองใหญ่"
จากความเปลี่ยนแปลงของกรุงเทพมหานครที่เต็?มไปด้วยตึกสูง และจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้คนในเมืองหลวงแห่งนี้ ล้วนใฝ่หาสุนทรียภาพทางธรรมชาติ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทำให้พื้นที่กว่า ๒๐๐ ไร่ ที่ใจกลางกรุงเทพฯ ถูกเนรมิตให้เป็นเสมือนสวนป่าที่อุดมไปด้ว?ยพันธุ์ไม้นานาชนิด ในนามสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เพื่อเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา ด้วยแนวคิดในการจัดพื้นที่สวนอย่างสวยงาม มีหมู่มวลแมกไม้หลายสายพันธุ์ให้ศึกษา ตลอดจนอาคารนิทรรศการพันธุ์ไม้ให้ความรู้ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์จึงไม่ใช่เพี?ยงสวนสาธารณะทั่วไป หากยังเป็นเสมือนแหล่งแสวงหาสุนทรียรสจากธ?รรมชาติที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีน?าถทรงแบ่งปันให้ผู้คนในเมืองหลวงแห่งนี้ได?้ชื่นชม
https://www.youtube.com/watch?v=bMV4EVbarso



วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ปากศิลป์”กินเรียกโรค...7 วิธี

ปากศิลป์”กินเรียกโรค...7 วิธี
1) กินมื้อใหญ่ ฝักใฝ่ในบุฟเฟ่ต์อันนี้อันตรายครับ ชอบบุฟเฟ่ต์ได้ไม่เป็นไรแต่ลองกินให้อิ่มพอดีดูสิครับจะมีความสุขกว่ามาก ได้รู้รสหมูเป็นหมู,ปลาเป็นปลาอย่างไม่ผสมปนเปกันจนแยกไม่ออกแล้วเดินจากไปด้วยความผะอืดผะอมคลื่นไส้ นอกจากทรมานแล้วยังเสียสุขภาพมากด้วย
2) กินจุบจิบ อันนี้ต่างกับกินน้อยแต่กินบ่อยตรงที่กินไม่เลือกเวลาแล้วของกินนั้นก็ช่วยทำลายสุขภาพอีกส่วนหนึ่งได้แก่ ลูกอม,ขนม,ผลไม้ดอง และอีกมากที่เพื่อนรักมานำเสนอให้ถึงโต๊ะ ทั้งที่กินข้าวเที่ยงยังไม่ทันเรียงเม็ดดีแต่มีขนมมาจ่อรอคิวแล้ว ทำให้ตับอ่อนต้องฉีดธาตุลดน้ำตาลออกมาอยู่ตลอดซึ่งจะยิ่งกระตุ้นให้น้ำตาลต่ำและหิวบ่อยขึ้นได้
3) กินดึก ข้าวต้มกุ๊ยร้อนๆนอนหลับสบายหรือทำงานดึกกินดึก อย่างนี้จะทำให้ร่างกายโทรมเร็วครับเพราะแทนที่โกร๊ทฮอร์โมนจะได้หลั่งกลับต้องใช้ทรัพยากรที่ควรซ่อมแซมมาทำงานบีบไส้บีบพุงย่อยอาหารอีก นอนก็นอนไม่หลับแถมไม่นานก็อ้วนลงพุง
4) กินหวานจัด กินของคาวอิ่มแล้วต้องตบท้ายด้วยของหวานหรือว่าชอบทานแป้งกับน้ำตาลหนักแต่ละมื้อจะชวนให้มื้อต่อไปหิวเร็วขึ้น นี่คืออาการหนึ่งของ “โรคติดแป้ง(Carbohydrate addiction)” ซึ่งนอกจากทำให้ “อวบเลือกได้” แล้วยังทำให้หงุดหงิดง่ายอีกด้วย
5) กินแล้วนอน จะกลายไปเป็นงูหลามตามผู้ใหญ่ชอบล้อหรือไม่ไม่สำคัญ แต่เรื่องควรห่วงกว่านั้นคือ “กรดไหลย้อน(GERD)” จะถามหาครับแล้วจะทำให้กลายเป็นคนหลับไม่ลึก ตื่นขึ้นมาไม่สดชื่นเท่าที่ควร
6) กินไปดื่มไปหรือสูบไป ทำให้ได้แคลอรีเกินทั้งจากอัลกอฮอล์และทำให้เกิดเหงาปากอยากสูบบุหรี่พ่วงเข้ามาด้วย รวมความแล้วคือทำให้กินนานอ้วนขึ้นแล้วยังไปกระตุ้นให้ดื่มหนักบวกสูบจัดขึ้นด้วย
7) กินนั่งแช่ จะทำให้ปากว่างแล้วเผลอกินเข้าไปอีก โดยเฉพาะถ้ามีของกินอยู่ตรงหน้าด้วย กินไปแบบนั่งสัมนาไปอย่างนี้จะทำให้น้ำหนักตัวขึ้นได้มากอย่างนึกไม่ถึง
ที่มา www.bangkokbiznews.com

เรื่องอะไรบ้างของคนป่วยใกล้ตายที่ผู้ดูแลควรรู้

เรื่องอะไรบ้างของคนป่วยใกล้ตายที่ผู้ดูแลควรรู้

........เมื่อวันหนึ่งมาเป็นคนดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย
ทันทีที่รู้ว่าคนรักหรือคนใกล้ชิดป่วย เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ..แทบช็อค เหมือนมีอะไรจุกคอ บางคนทำอะไรไม่ถูก ห่วงกังวล
เมื่อเกิดภาวะแบบนี้ คงต้องช่วยญาติหรือคนใกล้ชิดให้มีจิตใจสงบนิ่งได้ก่อน เขาจึงจะช่วยดูแลคนป่วยได้ แต่การทำใจไม่ใช่เรื่องง่าย การช่วยหาความรู้ ข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องความเจ็บป่วยให้กับคนป่วย จะช่วยทำให้มีความเข้าใจมากขึ้น

อะไรบ้างของคนป่วยใกล้ตายที่ผู้ดูแลควรรู้
- อาการที่บ่งบอกว่าใกล้จะเสียชีวิต
- เรื่องให้น้ำเกลือในระยะนี้จะยิ่งทำให้ผู้ป่วยทรมานนานขึ้น โดยไม่ได้ทำให้อาการอื่นๆดีขึ้น ร่างกายผู้ป่วยระยะนี้ไม่ได้ต้องการอาหารและสารน้ำเหมือนคนปกติ
- รวมทั้งการให้ออกซิเจนก็ไม่ได้ช่วยให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นในระยะนี้
- ถึงแม้ผู้ป่วยจะดูเหมือนหลับอยู่ตลอดเวลา แต่ประสาทการได้ยินของผู้ป่วยยังคงทำงาน ลูกๆ คนรัก สามีภรรยาสามารถพูดคุยบอกสิ่งที่อยากบอกกับผู้ป่วยได้ทุกอย่าง รวมทั้งกอดและสัมผัสผู้ป่วย
- เสียงหายใจที่ดังครืดคราด เป็นภาวะที่พบได้ในระยะนี้ ไม่ต้องกังวลว่าผู้ป่วยจะขาดอากาศหายใจ
- ไม่มีใครสามารถบอกเวลาที่แน่นอนได้ว่าผู้ป่วยจะเสียชีวิตเมื่อใด หมอก็จะไม่พูดว่า ผู้ป่วยดูอาการแย่ลง แต่จะใช้คำว่า คนป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วในช่วงนี้ ผู้ป่วยอาจมีเวลาอยู่กับพวกเราได้อีกไม่นาน

ปรับปรุงจากบทความที่นำเสนอโดยคุณหมอดาริน จตุรภัทรพร รพ.รามาธิบดี ขอขอบคุณยิ่ง

3 สิ่งที่ปุถุชนพึงเกิดมาพบ

3 สิ่งที่ปุถุชนพึงเกิดมาพบ
1 เกิดดีต้องมีบุญ_เกิดในตระกูลดี มีคุณธรรม
2 อยู่ดีต้องมีคุณ_มีคุณค่าและคุณธรรมในช่วงมีชีวิตอยู่
3 ตายดีต้องมีทุน_ได้ฝึกสติ มีปัญญาเข้าถึงแก่นธรรมของศาสนา มีศรัทธาในหลักศาสนา มีกุศลกรรมและเดินสายกลางก่อนจากโลกนี้ไป
พล อ ต. บุญเลิศ จุลเกียรติ

5 หนี้ที่ทำให้กลับมาเกิด

5 หนี้ที่ทำให้กลับมาเกิด
1 มีหนี้สิน
2 มีหนี้เวรหนี้กรรม
3 หนี้พยาบาท
4 มีหนี้พระคุณที่ไม่ได้ทดแทน
5 มีหนี้หัวใจ
พล อ ต. บุญเลิศ จุลเกียรติ

::: บัญญัต 10 ประการ(สู่การตื่นรู้) ของ OSHO :::

::: บัญญัต 10 ประการ(สู่การตื่นรู้) ของ OSHO :::
1. อย่าหลงเชื่อตามใคร เว้นแต่ว่า มันจะมาจากข้างในของคุณ
2. ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกไปจาก "ชีวิต"
3. ความจริงอยู่ในตัวคุณแล้ว ไม่ต้องไปหาที่อื่น
4. ความรัก คือ คำอธิษฐานสูงสุด
5. การไม่เป็นอะไรเลย คือ ประตูสู่ความรู้แจ้ง
การไม่เป็นไม่มีอะไรนั่นแหล่ะ คือ วิถี เป้าหมาย และการเข้าถึง
6. ชีวิต คือ ที่นี่ เดี๋ยวนี้
7. จงใช้ชีวิต อย่างตื่นรู้
8. อย่าพยายามว่ายน้ำ...จงลอยไป
9. จงตาย (ปล่อยวาง) ในทุกขณะ
แล้วคุณจะสดใหม่เสมอ
10. ไม่ต้องแสวงหา คุณเป็นสิ่งนั้นอยู่แล้ว
แค่หยุด และเห็น...มัน

น่าคิด.....

น่าคิด.....
“ ธรรมชาติสร้างแขนมาให้มนุษย์สองข้าง พร้อมมือสวยๆ อีกหนึ่งคู่
คนส่วนมากถนัดขวา ใช้มือขวามากกว่ามือซ้าย
มือซ้ายคือมือแห่งโชคชะตา
มือขวาคือมือที่สร้างและทำ
แต่คนหลายคนกลับปล่อยให้โชคชะตามากำหนดชีวิต”

ฅนของแผ่นดิน : เคมีอนินทรีย์

ฅนของแผ่นดิน : เคมีอนินทรีย์
สารคดีแนวคิดสร้างสรรค์ จัดทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จ?พระเจ้าอยู่หัว
"การพบกันของ 84 เจ้าความรู้ กับ 84 เจ้าหนูช่างสงสัย"
จัดทำโดย ชมรมผู้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดล
https://www.youtube.com/watch?v=ldj_73Fu-qQ



(๓๙) "คำสัญญา" : สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร

(๓๙) "คำสัญญา" : สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร
สารคดีเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร ตอนที่ ๓๙ "คำสัญญา"
"ถ้าไม่มีโครงการพระราชดำริของสมเด็จ?พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ป่านนี้ป่ารอยต่อ ๕ จังหวัดภาคตะวันออกก็จะไม่เหลือแล้วนะครับ พระองค์ท่านทรงเริ่มโครงการอนุรักษ์ป่าเมื?่อปี พ.ศ ๒๕๓๗ ทำให้มีป่ากลับมาอุดมสมบูรณ์และชาวบ้านที่?นี้ก็จะช่วยกันดูแลเพื่อไม่ให้ป่าไม้โดนทำ?ลายอีก" ...นายธวัส เกียรติเสรี นักวิชาการกรมป่าไม้
"สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัสว่าพระองค์ท่านรักป่า รักสัตว์ป่า ไม่อยากให้ใครมาทำร้ายหรือทำลาย ชาวบ้านแถวนี้จึงไม่มีใครกล้าทำร้ายหรือยิ?งสัตว์ในป่านี้เลย"
...นายสมบัติ กาลบรรจง อาสาสมัตรดูแลป่าชุมชน จ.ฉะเชิงเทรา
"เด็กนักเรียนที่โรงเรียนบ้านร่มโพธิ?์ทองน่ารักมากครับ ช่วยกันปลูกต้นไม้ทั้งโรงเรียน ปลูกกันเอง นักเรียนก็ช่วยกันดูแลต้นไม้ เพื่อให้โรงเรียนร่มรื่น"
...นายนิรันดร์ เรือนอินทร์ ผอ.โรงเรียนบ้านร่มโพธิ์ทอง
"พวกผมและชาวบ้านที่นี้ต่างก็ตั้งใจก?ันว่าจะปลูกป่า รักป่า เหมือนสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พวกเราจะดูแลป่าให้พระองค์ท่าน ให้พระองค์ท่านภูมิใจในหมู่บ้านของผม"?;
...นายบุญเลิศ ชัยสอน ผู้ใหญ่บ้านร่มโพธิ์ทอง จ.ฉะเชิงเทรา
นี่คือคำสัญญาของราษฎรที่ถวายแด่สมเด็จพระ?นางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงริเริ่มการอนุรักษ์คืนป่ารอยต่อภาคต?ะวันออก เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์จากป่าพื้นนี้?อย่างยั่งยืน
https://www.youtube.com/watch?v=ZIGvvwE49gY



วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

"บรมธรรม 4"

# "บรมธรรม 4"
บรมลาภ ความไม่มีโรค เป็นลาภอย่างยิ่ง
บรมทรัพย์ ความสันโดษ เป็นทรัพย์อย่างยิ่ง
บรมญาติ ความคุ้นเคย เป็นญาติอย่างยิ่ง
บรมสุข นิพพาน เป็นสุขอย่างยิ่ง
               

ยิ่งรีบ..ยิ่งไม่ว่าง

ยิ่งรีบ..ยิ่งไม่ว่าง
“คนสมัยนี้มีเครื่องทุ่นแรงทุ่นเวลามากมาย
เพื่อทำอะไรให้เร็วๆ ให้เสร็จเร็วๆ
แต่สุดท้ายก็ไม่มีเวลาว่างเลย
ไม่มีเวลาแม้แต่จะพักผ่อน
หรือมีเวลาให้แก่พ่อแม่ลูกหลาน
ตรงกันข้ามกับชาวบ้าน
ชาวบ้านไม่ค่อยมีเครื่องทุ่นแรง
ทุ่นเวลา จะทำอะไรแต่ละอย่าง
ใช้เวลามาก ไม่ว่า การเดินทาง
การหุงหาอาหาร การตักน้ำ
แต่ทำไมเขามีเวลาว่างเยอะ
ลองสังเกตก็จะเห็นว่า เขามีเวลา
นอนเล่น กลับถึงบ้าน เขามีเวลา
อยู่กับลูกกับหลาน ส่วนคนเมือง
กลับไม่มีเวลาว่างทั้งๆ ที่รีบทุกอย่าง
แปลกไหม ยิ่งรีบ กลับไม่มีเวลาว่าง
ส่วนคนไม่รีบ กลับมีเวลาว่าง”
พระไพศาล วิสาโล

ทำอย่างไร ให้เด็กเรียนเก่งขึ้น

ทำอย่างไร ให้เด็กเรียนเก่งขึ้น
บทความเรื่อง How to Build a Better Learner ในนิตยสาร Scientific American และพิมพ์ซ้ำในหนังสือ The Science of Education เล่าเรื่องการวิจัยหาวิธีแก้ไขปัญหาความบกพร่องของสมองในการเรียนบางด้าน ที่พบในเด็กบางคน และหาวิธีให้เด็กทั่วๆ ไป เรียนเก่งขึ้น
บทความบอกว่า ตัวที่ชัดเจนว่า ทำให้เด็กเรียนเก่งคือ EF (Executive Function) ครับ โดยเขาบอกว่า คุณสมบัติที่สำคัญของ EF คือความสามารถในการพุ่งความสนใจ หรือเอาใจใส่ (หรือที่เราเรียกว่ามีสมาธิอยู่กับ เรื่องใดเรื่องหนึ่ง) ความสามารถจำสิ่งที่ได้ยิน หรือได้เห็น ไว้ในใจส่วนที่เรียกว่า ความจำใช้งาน (working memory) ความสามารถรอ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน เขาบอกว่า คุณสมบัติเหล่านี้ ไม่ใช่แค่ช่วยให้เรียนได้ดี ยังช่วยให้มีชีวิตที่ดีได้ด้วย
ความสามารถอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ที่ภาษาอังกฤษว่า delayed gratification นั้น มาจากการวิจัยที่ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในปี ค.ศ. 1972 ทดสอบเด็กเล็กด้วยขนม บอกว่ากินได้ถ้าอยากกิน แต่ถ้ารอจนผู้ใหญ่กลับมา จะได้ ๒ ชิ้น เด็กที่รอได้คือเด็กที่มี EF สูง ติดตามผลภายหลังเมื่อโตขึ้น จนเป็นผู้ใหญ่ พบว่ากลุ่มที่รอได้ มีชีวิตที่ดีกว่าอย่างชัดเจน
ข้อค้นพบเรื่อง EF ที่สำคัญมากคือ มันเป็นคุณสมบัติที่ฝึกได้ วิธีฝึก ๖ กลุ่มมีอยู่ในบันทึกที่ผม ลิ้งค์ ไว้ให้แล้ว ในบทความนี้บอกว่าการเล่นดนตรี ช่วยการฝึก EF ได้ ย้ำว่าเล่นหรือฝึกดนตรีนะครับ ไม่ใช่ฟังดนตรี แต่ก็มีผลการวิจัยที่บอกว่า ไม่พบหลักฐานยืนยันว่าการฝึกดนตรีช่วยพัฒนา EF
เรื่องฟังดนตรีแล้วทำให้สมองดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งดนตรีของโมสาร์ท นั้น บทความนี้ว่าไม่จริง เรื่องราวในบทความนี้ มาจากผลการวิจัยทั้งสิ้น
เขาบอกว่า ความเชื่อเดิมที่ว่าสมองเด็กเปรียบเสมือนกระดาษขาว ไม่เป็นความจริง เด็กเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการเรียนรู้ แต่ความสามารถนี้มีไม่เท่ากัน เด็กบางคนรับฟังเสียงบางความถี่ได้ไม่ดี หรือบกพร่องด้านการมองเห็นภาพบางรูปร่าง ก็จะเรียนรู้ได้ไม่ดี
สมองเด็กอายุไม่ถึงปีรับรู้เรื่องจำนวนอย่างหยาบๆ ได้ แม้จะยังนับไม่เป็น และรับรู้จำนวนแน่นอนก็ได้ แต่ได้ถึง ๓ หรือ ๔ เท่านั้น และมีเด็กบางคน สมองบกพร่องส่วนนี้ การเรียนเลขก็มีปัญหา นักวิจัย neuroscience ด้าน numerical cognition ที่สำคัญคนหนึ่งคือ Stanislas Dehaene แห่ง National Institute of Health and Medical Research ของฝรั่งเศส เขาค้นพบว่า การรับรู้เรื่องจำนวนแบบที่มีมาแต่กำเนิดนั้น หากบกพร่องในเด็กคนใด การเรียนคณิตศาสตร์ก็จะมีปัญหา เรียกว่า dyscalculia พบในร้อยละ ๓ - ๖ ของเด็กทั้งหมด นักการศึกษาไม่ได้เอาใจใส่ภาวะบกพร่องนี้ อย่างที่เอาใจใส่ dyslexia (ภาวะบกพร่องในการอ่าน) ทั้งๆ ที่มันก่อปัญหาในชีวิตพอๆ กัน และเชื่อว่าหากดำเนินการแก้ไขตั้งแต่เด็กยังเล็ก จะช่วยได้ วิธีหนึ่งคือฝึกด้วยเกมคอมพิวเตอร์ ชื่อ Number Race
เรื่องเครื่องมือฝึกสมอง ว่าชนิดไหนได้ผลแค่ไหน ยังเป็นเรื่องที่ต้องรับรู้แบบฟังหูไว้หู ดังตัวอย่าง มีการวิจัยประเมินเครื่องมือชื่อ Fast ForWord ไม่พบว่ามีผลช่วยเด็กที่มีความบกพร่องในการอ่าน
บทความนี้ตีพิมพ์ในปี 2011 คือ ๒ ปีมาแล้ว ลงท้ายว่า การศึกษาด้วยคลื่นสมอง ยังไม่พบวิธีการสำหรับยกระดับผลการเรียน จากผลการวิจัยด้าน neuroscience แต่การวิจัยอาจช่วยชี้ทางสำหรับจัดการศึกษาให้แก่คนรุ่น (generation) Z หรือรุ่นลูกของ Gen Z และมีผู้ทำนายว่า ในอนาคต การตรวจสมอง ร่วมกับการตรวจแบบดั้งเดิม ประวัติครอบครัว และการตรวจ ดีเอ็นเอ จะช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติในการอ่านก่อนอายุ ๖ ขวบ และสามารถเยียวยาแก้ไขได้ ช่วยลดปัญหาการเรียนในเด็กวัยเรียน
ผมอดเถียงบทความนี้ไม่ได้ ว่าวิธีทำให้เด็กเรียนเก่งขึ้นในแนวสังคมศาสตร์มีอยู่แล้ว คือการที่เด็ก ได้รับความรักความเอาใจใส่ที่บ้านและที่โรงเรียน และการที่รูปแบบการเรียนรู้ปรับเปลี่ยนไปเน้นที่การเรียน ไม่ใช่เน้นที่การสอนอย่างในปัจจุบัน
โปรดสังเกตนะครับ ว่าบทความเชิงวิทยาศาสตร์ เขาจะไม่ด่วนสรุป จะสรุปอะไรต้องมีหลักฐาน จากการวิจัยยืนยัน ที่เรียกว่า evidence-based
วิจารณ์ พานิช
๒๒ ก.ย. ๕๖
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย Prof. Vicharn Panich

การใช้ขวดพลาสติกจับแมลงวันทอง

พืช)การนำขวดพลาสติกขนาด500มล.มาเจาะรูข้างขวดทั้ง2ด้าน พ่นสีเหลือง ใส่เปลือกสับปะรดบด+น้ำเล็กน้อย นำไปแขวน ช่วยดักจับแมลงวันทองได้ง่ายดาย

จาก sms farmerInfo

ฅนของแผ่นดิน : เคมีไฟฟ้า

ฅนของแผ่นดิน : เคมีไฟฟ้า
สารคดีแนวคิดสร้างสรรค์ จัดทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จ?พระเจ้าอยู่หัว
"การพบกันของ 84 เจ้าความรู้ กับ 84 เจ้าหนูช่างสงสัย"
จัดทำโดย ชมรมผู้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดล
https://www.youtube.com/watch?v=N0Fj92YWwSk



(๓๘) "อาภรณ์แห่งความสุข" : สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร

(๓๘) "อาภรณ์แห่งความสุข" : สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร
สารคดีเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร ตอนที่ ๓๘ "อาภรณ์แห่งความสุข"
สมัยก่อนที่บ้านหัวฝายเดินทางมาลำบาก ชาวบ้านที่นี่เลี้ยงไหมแบบพื้นบ้าน ไม่มีหลักวิชาการ ชาวบ้านก็เลี้ยงกันไปไม่ได้มีรายได้สักเท่?าไร สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ส่งเสริมเข้ามาส่งเสริมอ?าชีพเสริมให้กับชาวบ้านที่นี้ ให้ชาวบ้านมีรายได้ที่ดีขึ้นจากการปลูกหม่?อนเลี้ยงไหม ทุกวันนี้ชาวบ้านที่นี้มีความเป็นอยู่ที่ด?ีขึ้น ลูกหลานก็มีอาชีพทำไม่ได้ต้องไปหางานในกรุ?งเทพฯ บ้านหัวฝายจึงมีความอบอุ่นขึ้นจากพระราชดำ?ริของพระองค์ท่าน ปัจจุบันกรมหม่อนไหมในพระราชดำริได้มีบทบา?ทอนุรักษ์ภูมิปัญญาและพัฒนาไหมไทย สร้างอาชีพให้ชาวบ้านนับแสนราย พร้อมทั้งสร้างรายได้หลายร้อยล้านบาทให้ปร?ะเทศอีกด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=KPKMMYkSEWg



วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

โรคหอบจากอารมณ์ (Hyperventilation Syndrome)

โรคหอบจากอารมณ์ (Hyperventilation Syndrome)
พญ. ธนิตา หิรัญเทพ
โรคหอบจากอารมณ์คืออะไร
คือการที่ผู้ป่วยมีอาการหายใจหอบเร็วและลึกอยู่นาน จนทำให้เกิดความผิดปกติของ
ค่าสารเคมีในเลือด ทำให้มีอาการต่างๆ ทางร่างกายติดตามมา อาการดังกล่าว มักสัมพันธ์กับภาวะวิตกกังวล หรือได้รับความกดดันทางจิตใจ ก่อนหน้าที่จะมีอาการ ซึ่งอาการดังกล่าว เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และไม่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต หากไม่ได้เกิดจากสาเหตุทางกายอื่นๆ
ลักษณะอาการและสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากอะไร
ลักษณะอาการที่เกิดขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจหอบเร็ว บ่นหายใจลำบาก หน้ามืด เวียนศีรษะ ใจ
สั่น อาจพบอาการเกร็ง มือจีบ และอาจมีอาการชาบริเวณรอบปากและนิ้วมือได้ ซึ่งอาการดังกล่าวเกิดจากปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดลดลง ทำให้เกิดการหดตัวของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะที่สมอง รวมทั้งมีการลดลงของค่าแคลเซียมที่เป็นตัวออกฤทธิ์ในเลือดลดลงด้วย
อาการดังกล่าว มักสัมพันธ์กับภาวะวิตกกังวล โดยก่อนเกิดอาการอาจพบว่า ผู้ป่วยมักมีปัญหา
กดดันจิตใจอย่างเห็นได้ชัด เช่น ทะเลาะกับคนใกล้ชิด หรือที่ทำงาน หรือมีปัญหาการเรียน ต้องสอบ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม อาการดังกล่าว อาจคล้ายคลึงกับอาการหอบจากสาเหตุทางกายได้หลายสาเหตุ เช่น โรคหอบหืด (asthma) ภาวะหัวใจขาดเลือด ภาวะเป็นกรดในเลือดจากเบาหวาน (diabetic ketoacidosis) และอื่นๆ ดังนั้น ผู้ป่วยจึงต้องได้รับการซักประวัติ การตรวจร่างกาย และส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็น เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและการดูแลที่ถูกต้องตามสาเหตุต่อไป
วิธีการรักษา
รักษาอาการหายใจหอบ โดยการพยายามหายใจให้ช้าลง หรือให้หายใจในถุงกระดาษที่ครอบทั้งปากและจมูก รวมทั้งการได้รับยาในกลุ่มยาคลายกังวล จะช่วยให้อาการหายใจหอบทุเลาลง แต่หากผู้ป่วยไม่สามารถกินยาได้ แพทย์อาจพิจารณาให้ยาฉีด ซึ่งจะออกฤทธิ์ได้รวดเร็ว
มักพบในกลุ่มบุคคลใด
อาการดังกล่าวพบบ่อยในผู้ป่วยหญิง วัยเรียน ถึงผู้ใหญ่ตอนต้น ก่อนเกิดอาการมักมีปัญหา
กดดันจิตใจ แต่ควรระมัดระวังในผู้ป่วยที่มีอายุมาก มีโรคประจำตัวอยู่เดิม หรือบุคลิกเดิมของผู้ป่วยไม่มีปัญหาในการปรับตัวกับภาวะกดดันมาก่อน หรือผู้ป่วยที่มีอาการโดยที่ไม่มีปัญหากดดันที่ชัดเจน ซึ่งอาการดังกล่าวอาจเกิดจากสาเหตุทางกายที่กล่าวไปข้างต้น
ถือว่าเป็นโรคที่อันตรายร้ายแรงหรือไม่
ผู้ป่วยควรได้รับการอธิบายเพื่อเข้าใจถึงกลไกการเกิดอาการ รวมทั้งได้รับความมั่นใจว่าอาการดังกล่าวไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต และควรให้มาติดต่อรักษากับแพทย์ตามนัด
ต้องมีการบำบัดหรือรักษาอาการทางจิตหรือไม่
ผู้ป่วยควรได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมเมื่อเกิดอาการ และ เนื่องจากอาการหอบทางอารมณ์ มักสัมพันธ์กับความตึงเครียดที่เกิดขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยควรได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับ การรับมือและการแก้ไขสาเหตุของความตึงเครียด รวมทั้งและได้รับการดูแลด้านจิตใจ เพื่อให้ปรับตัวในการรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น
สามารถนำไปสู่โรคอื่นได้หรือไม่
ในผู้ป่วยที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี อาการดังกล่าว จะไม่ได้นำไปสู่โรคอื่นๆที่อันตรายร้ายแรง
ผู้ป่วยโรคหอบจากอารมณ์จำเป็นต้องพกบัตรประจำคัวผู้ป่วยหรือไม่
การพกบัตรประจำตัวผู้ป่วย จะได้ประโยชน์ในแง่การได้รับความสะดวกเมื่อไปติดต่อกับทางโรงพยาบาล และในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการมาก ไม่สามารถให้ข้อมูลได้
ผู้ป่วยต้องนำอุปกรณ์ใดติดตัวบ้างเมื่อเกิดอาการกะทันหัน
ผู้ป่วยที่สามารถใช้วิธีการฝึกหายใจให้ช้าลง ในการลดอาการหอบหายใจเร็ว อาจไม่จำเป็นต้องพกอุปกรณ์ใดๆ แต่หากไม่สามารถใช้วิธีการดังกล่าวได้ อาจพกถุงกระดาษติดตัวเพื่อใช้เวลาเกิดอาการ

ยิ่งเคี้ยวนาน ยิ่งดีต่อสุขภาพ

ยิ่งเคี้ยวนาน ยิ่งดีต่อสุขภาพ

1. เคี้ยวอาหารประมาณ 30 ครั้งในแต่ละมื้อเป็นอย่างน้อย จะช่วยให้เหงือกแข็งแรงและช่วยรักษาอาการอารมณ์หงุดหงิด เครียด และโมโหง่าย
2. เคี้ยว 50 ครั้ง จะช่วยลดความวิตกกังวลของอารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลากินอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยลดความอ้วนได้ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำที่มากเกินความจำเป็นดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
3. เคี้ยว 60 ครั้ง เหมาะสำหรับการเคี้ยวอาหารที่มีกากใยมากเกินไป ช่วยลดอาการท้องผูก การทำงานของสมอง ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. เคี้ยว 80 ครั้ง ช่วยให้ประสาทสัมผัสไวขึ้น มีความจำดีขึ้น สามารถจดจำและจำแนกรสชาติของอาหารทั้งจากธรรมชาติและสารปรุงอาหารที่มีพิษ ต่อร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
5. เคี้ยว 100 ครั้ง ทำให้คุณจัดการแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว สงบ เยือกเย็น กินน้อยลง แต่ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้มาก อีกทั้งช่วยลดการอยากอาหารประเภทเนื้อ
6. เคี้ยว 150 ครั้ง ระบบการทำงานกระเพาะและลำไส้ดีขึ้น และช่วยควบคุมอารมณ์ให้เป็นปกติ
7. เคี้ยว 200 ครั้ง ต่ออาหาร 1 คำได้ทุกมื้อ จะหายจากโรคกระเพาะเรื้อรัง และโรคกระเพาะอาหารเป็นแผลอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน ยังช่วยให้สมองขบคิดกระบวนการคาดการณ์และวินิจฉัยปัญหาต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้น ฉะนั้น จึงไม่ควรมองข้ามสิ่งเล็กๆ อย่างการเคี้ยวอาหาร เพราะส่งผลดีต่อทั้งสมองและสุขภาพ
ขอบคุณข้อมูล : http://www.thaihealth.or.th

มะตูม ลดกำหนัด

 มะตูม ลดกำหนัด
ในช่วงนี้อากาศกำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ เพราะเริ่มเข้าสู่หน้าร้อนกันแล้ว ช่วงกลางวันที่แดดร้อนจัด "108 เคล็ดกิน" มักจะหาน้ำสมุนไพรเย็นๆ ดื่มดับกระหายและช่วยคลายร้อน อย่างเช่น "น้ำมะตูม" ที่เป็นน้ำสมุนไพรที่ช่วยแก้ร้อนในได้เป็นอย่างดี
"มะตูม" นั้น ถือเป็นผลไม้ไทยที่มีคุณค่าหลายอย่าง เรามักบริโภคมะตูมโดยการนำผลมาทำเป็นน้ำมะตูม หรือกินเป็นผลมะตูมแช่อิ่ม สรรพคุณของมะตูมนั้นก็คือช่วยบำรุงธาตุ ช่วยให้เจริญอาหาร แก้บิด แก้ร้อนใน ขับลม แก้โรคลำไส้ ทำให้ชุ่มคอ รักษาโรคหอบหืดได้ ส่วนใบมะตูมนั้นก็นำมากินได้เช่นกัน และมีสรรพคุณในการช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงร่างกาย รักษาอาการท้องเดิน
ใบมะตูมยังถือเป็นของมงคล ถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพระอิศวร เวลาบูชาพระอิศวรก็ต้องใช้ใบมะตูมนี้ด้วย ผลมะตูมยังมีสรรพคุณพิเศษอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือมีฤทธิ์ลดความกำหนัด คลายกังวล และช่วยให้สมาธิดีขึ้น จึงนิยมใช้เป็นน้ำปานะถวายพระสงฆ์นั่นเอง
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

ฅนของแผ่นดิน : ฟิสิกส์พื้นฐานฯ

ฅนของแผ่นดิน : ฟิสิกส์พื้นฐานฯ
สารคดีแนวคิดสร้างสรรค์ จัดทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จ?พระเจ้าอยู่หัว
"การพบกันของ 84 เจ้าความรู้ กับ 84 เจ้าหนูช่างสงสัย"
จัดทำโดย ชมรมผู้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดล
https://www.youtube.com/watch?v=Yo5hNBpxb0U



(๓๗) "แพรวา...ผ้าแห่งชาติพันธุ์" : สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร

(๓๗) "แพรวา...ผ้าแห่งชาติพันธุ์" : สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร
สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระนางเจ้าพระบรมราช?ินีนาถ ๘๐ พรรษา ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร ตอนที่ ๓๗ "แพรวา...ผ้าแห่งชาติพันธุ์"
ก่อนปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ผ้าไหมแพรวา ศิลปะการทอผ้าไหมชั้นสูงของชาวภูไทเกือบจะ?สูญหายไป ไม่มีใครทอผ้าแพรวาอีกแล้ว สาเหตุเพราะทอยากและใช้ระยะเวลานาน สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ ทรงอนุรักษ์ฟื้นฟูผ้าไหมแพรวาเอาไว้ โดยให้ชาวบ้าน บ้านโพน จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นแห่งเดียวที่ทอผ้าไหมผ้าแพรสืบทอด?ต่อไป พระองค์ทรงตรัสกับชาวบ้านที่นั้นว่าให้ช่ว?ยกันอนุรักษ์วัฒนธรรมของเราไว้ อย่าให้สูญหายไปจากโลกนี้ และเป็นอีกทางหนึ่งสำหรับรายได้ที่ช่วยจุน?เจือครอบครัวต่อไป
https://www.youtube.com/watch?v=r5PJ4ZtaYQ0



สุรนารีแอร์ รถทัวร์โคราชทางเลือกใหม่..

สุรนารีแอร์ รถทัวร์ทางเลือก สายกรุงเทพ- โคราช

เดี๋ยวนี้ เวลาใครจะเดินทาง ก็จะค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เนต จาก social media บ้าง ดูว่า รถคันไหน บริษัทไหน บริการดีบ้าง จะได้เลือกใช้บริการของบริษัทนั้น

ในการค้นหาข้อมูล เช่น เส้นทางรถทัวร์ ป.1 กรุงเทพ - โคราช ก็จะมีข้อมูลที่คนเขียนบ่น เรื่องที่ไม่น่าประทับใจกับการนั่งรถทัวร์สายนั้นๆ. เรียกว่า ไม่พอใจ ก็จะขอด่าให้หายอารมณ์เสีย..

ในความเป็นจริง แม้รถสายนั้น. จะทำให้ผู้โดยสารไม่ประทับใจ แต่ก็เป็นเฉพาะรถคันนั้น เฉพาะรถไม่กี่คัน.แต่คนอ่าน จะคิดเหมารวมทั้งบริษัท เช่น มีคนบ่นเรื่องการให้บริการของ ราชสีมาทัวร์ สุรนารีแอร์ เมื่อหลายเดือน หลายปีก่อน ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้... แต่ทว่า. ทุกอย่างมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น

รถที่เคยให้บริการไม่ดี.ก็มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่คนอ่านข้อมูลจากอินเตอร์เนต ก็คิดว่าคงจะเป็นอย่างข้อมูลที่เขียน

ยกตัวอย่าง รถของสุรนารีแอร์ เอารถคันใหม่ มาวิ่งให้บริการ ดูแล้ว บางคันก็เป็นรถวีไอพีของบางบริษัท.แต่สุรนารีแอร์ เอามาวิ่งเป็นรถ ป.1 ทำให้นั่งสบายขึ้น และการมีคูปองส่วนลด เพื่อดึงดูดลูกค้า ทำให้มีลูกค้าเป็นแฟนประจำของรถทัวร์สุรนารีแอร์ ส่วนหนึ่งครับ..

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

การเขียนแผนการตลาด ตามหัวข้อสำคัญ

การเขียนแผนหารตลาดในการสร้างกิจการของคุณ ควรเขียนตามหัวข้อ ดังต่อไปนี้

1.บทสรุปของผู้บริหาร
2.ภาพรวมของกิจการ
3.วิเคราะห์สถานภาพ
4.วัตถุประสงค์ เป้าหมาย ของธุรกิจ
5.แผนการตลาด
6.แผนการบริหารจัดการ + แผนการดำเนินงาน
7.แผนการผลิต / ปฏิบัติการ
8.แผนการเงิน
9.แผนฉุกเฉิน
10.ภาคผนวก

... หรือ จะเขียนตามหัวข้อนี้ก็ย่อมได้...

1.บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
2.ลักษณะธุรกิจ
3.สภาพตลาด
4.การผลิต
5.การตลาด
6.การบริหารจัดการ
7.การเงิน
8.แผนสำรอง

วิธีช่วยให้มะละกอต้นเตี้ยและลูกดก

พืช)เมื่อมะละกอสูง90ซม. ให้ตัดยอดทิ้ง แล้วใส่ปุ๋ย15-15-15หรือ 13-13-21 อัตรา100-150กรัม/ต้น ช่วงเริ่มติดผล วิธีนี้ช่วยให้ต้นเตี้ยและลูกดก

from sms farmerInfo

การเตรียมท่อนพันธุ์มันสำปะหลังเพื่อเพิ่มผลผลิต

พืช)การเตรียมท่อนพันธุ์มันสำปะหลังเพิ่มผลผลิต ต้นพันธุ์ต้องสมบูรณ์มีสีขาวนวล ปลอดโรค-แมลง ควรตัดแบบตรง(ยาว30ซม.)ใช้ระยะห่างระหว่างต้น 50 ซม.

จาก sms farmerInfo

การจัดการปาล์มน้ำมันเพื่อให้ได้ผลผลิตดี

พืช)ปาล์มน้ำมันต้องการน้ำมาก(แต่ต้องไม่ท่วมขัง)ดินควรร่วนซุย-มีแร่ธาตุครบ ระยะปลูกเหมาะสมและพันธุ์ต้องดี หากจัดการได้จะทำให้มีผลผลิตดีตลอดปี

from sms farmerInfo

19 ข้อแนะนำในการใช้ชีวิต

อ่านให้ได้นะ แล้วจะมีมุมมองชีวิตที่
ดีขึ้นโปรดอย่าเก็บคำ
สอนนี้ไว้คนเดียวมิ
เช่นนั้นมนตราที่ส่ง
มานี้จะจากคุณไปภาย
ใน 96 ชั่วโมง แล้วคุณจะได้พบกับ
สิ่งประหลาดมหัศจรรย์
ที่คุณจะยินดีมาก
ข้อแนะนำในการ
ดำเนินชีวิต

1. ระลึกเสมอว่าการ
จะได้พบความรักและ
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
ก็ต้องประสบกับความ
เสี่ยงอันมหาศาลดุจกัน

2. เมื่อคุณแพ้ อย่า
ลืมเก็บไว้เป็นบทเรียน

3.จงปฏิบัติตาม 3Rs
ก. เคารพตนเอง
(Respect for self)
หากเราไม่เคารพตัวเอง
แล้วใครจะเคารพเราจง
พึงสังวรณ์ไว้
ข. เคารพผู้อื่น
(Respect for others)
เมื่อเราเคารพตัวเอง
แล้วเราต้องเคารพคน
อื่นด้วย
ค. รับผิดชอบต่อการ
กระทำของตน
(Responsibility for
all your actions)
หากเราไม่รับผิดชอบต่อ
การกระทำของเราแล้ว
ใครจะมาเคารพเรารับ
ผิดแทนเรา

4. จงจำไว้ว่าการที่
ไม่ทำตามใจปรารถนา
ของตนบางครั้งก็ให้
โชคอย่างน่ามหัศจรรย์

5. จงเรียนรู้กฎ เพื่อจะทราบวิธีการฝ่า
ฝืนอย่างเหมาะสม

6. จงอย่าปล่อยให้
การทะเลาะเบาะแว้ง
ด้วยเรื่องเพียงเล็กน้อย
มาทำลายมิตรภาพอัน
ยิ่งใหญ่ของคุณ

7. เมื่อคุณรู้ว่าทำผิด จงอย่ารอช้าที่จะแก้ไข

8. จงใช้เวลาใน
การอยู่ลำพังผู้เดียวใน
แต่ละวัน

9. จงอ้าแขนรับการ
เปลี่ยนแปลง แต่อย่า
ปล่อยให้คุณค่าของคุณ
หลุดลอยจากไป

10. จงระลึกไว้ว่า
บางครั้งความเงียบ
ก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุด

11. จงดำเนินชีวิต
ด้วยความ ซื่อสัตย์สุจริต
เพื่อที่ว่า เมื่อ คุณสูงวัย
ขึ้นและคิด หวนกลับ
คุณจะสามารถมีความ
สุข กับสิ่งที่ได้ทำลงไป
ได้อีกครั้ง

12.บรรยากาศอัน
อบอุ่นในครอบครัวเป็น
พื้นฐานสำคัญของชีวิต

13.เมื่อเกิดขัดใจ
กับคนที่คุณรัก ให้หยุด
ไว้แค่เรื่อง ปัจจุบัน อย่า ขุดคุ้ยเรื่อง ในอดีต

14. จงแบ่งปันความ
รู้เพื่อเป็น หนทางก้าวสู่
ความเป็นอมตะ

15. จงสุภาพกับโลก
ใบนี้

16. จงหาโอกาส
ท่องเที่ยวไป ยังสถาน
ที่ต่าง ๆที่คุณไม่เคยไป
อย่างน้อยก็ปีละครั้ง
เพื่อทำการลบความคิด
แบบเก่า ๆ ออกบ้าง

17. จำไว้ว่า
ความสัมพันธ์ ที่ดีที่สุด
คือ ความรัก
ไม่ใช่ความใคร่

18. จงตัดสินความ
สำเร็จของ ตนด้วยสิ่งที่
ต้องเสียสละ

19.จงเข้าใกล้ความ
รักด้วยการ...ปล่อยวาง

โปรดส่งมนตรานี้ต่อ ๆ
ไป อย่างน้อย 5คนแล้ว ชีวิตของคุณจะดีขึ้น
ตามลำดับ

0 - 4 คน : ชีวิตของคุณจะดีขึ้น
เล็กน้อย

5 - 9 คน :
ชีวิตของคุณจะเป็นไป
ตามที่คุณต้องการให้
เป็น

10 - 14 คน :
คุณจะพบสิ่งที่ทำให้คุณ
ประหลาดใจอย่างน้อย
5 อย่างในอีก 3 สัปดาห์
ข้างหน้า

15 คนขึ้นไป :
ชีวิตคุณจะดีขึ้นอย่าง
หน้ามือเป็นหลังมือ
และทุกสิ่งที่คุณฝันไว้
จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง
ขึ้นมามากกว่านี้ชีวิต
คุณจะสมหวัง ทั้งใน
ด้านคนที่รัก เพื่อนฝูง มิตรสหาย

อ่านกันให้ดีๆ นะมี
ประโยชน์มาก

"แม้ความผูกพันจะเกิด
เพราะความใกล้ ...แต่เชื่อเถอะว่าความ
ไกลก็ไม่อาจทำลาย
ความผูกพัน ระหว่างใจ
ของกันและกันได้....

วิธีอาบน้ำให้สุนัข ป้องกันโรคเรื้อน

สัตว์)อาบน้ำสุดท้ายให้สุนัขด้วยการใช้น้ำส้มควันไม้ 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 5 ลิตร แล้วเช็ดให้แห้ง ช่วยไล่หมัด เห็บ บำรุงผิวหนังและป้องกันโรคเรื้อน

from sms farmerInfo

ส่งต่อคำอวยพรตรุษจีน

(apple)ส่งต่อคำอวยพร นี้ให้เพื่อนที่แสนดี ทุกๆ คน ค่ะ
(funny)ขอน้อมอวยพร เทศกาลวันตรุษจีน
(tulip)วันชิวอิด. รื่นเริงเถลิงศกรับปีใหม่
(lily)วันชิวหยี เงินทองไหลมา กองเต็มห้อง
(daffodil)วันชิวซา บุญวาสนามา ทวีคูณ
(maple leaf)วันชิวสี่. โชคดีมีลาภมหาศาล
(sunflower)วันชิวโหงว เงินเต็มถัง ตังค์เต็มตุ่ม ใส่เข้าบ้าน
(violet)วันชิวลัก หน้าตาอิ่ม แลผ่องใส
(corn)วันชิวฉิก สุขสรรค์ สนุกสนานทั้งวันคืน
(sprout)วันชิวโป้ย ชีวิตดี มีสุข พร้อมโชคลาภ
(pug)วันชิวเก้า สมประสงค์ ได้ดั่งใจตามปรารถนา
(palm tree)วันชิวจั๊บ. ปราศจากอุปสรรคใดๆในทุกเรื่อง
(mistletoe)วันจับอิก ได้ประสบพบ แต่ความราบรื่น
(palm tree)วันจับหยี ได้รับพลังจากดาว แห่งโชคลาภ
(ear of rice)วันจับซา ครอบครัวมีแต่สุขสรรค์
(baobab)วันจับสี่. สุขภาพดี แข็งแรงทั้งกาย-ใจ
(duckling)วันหง่วนเซียว. อบอวลด้วยรักที่หวานชื่นรื่นรมย์

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ท้าวแสนปม มิได้เป็นโรคท้าวแสนปม... @ โรคท้าวแสนปมเป็นโรคพันธุกรรม

ท้าวแสนปม มิได้เป็นโรคท้าวแสนปม...
@ โรคท้าวแสนปมเป็นโรคพันธุกรรม
โรคท้าวแสนปม หรือ Neurofibromatosis นี้ เป็นโรคที่รู้จักกันมานานนัก 150 ปีแล้ว แบ่งเป็น 2 ชนิด
ชนิดที่ 1 เป็นชนิดที่พบบ่อย พบประมาณ 1 ใน 2,500 ถึง 3,500 คน สามารถวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ โดยพบอาการอย่างน้อย 2 ใน 7 อาการต่อไปนี้คือ
1 ปานสีกาแฟใส่นมอย่างน้อย 6 ตำแหน่ง,
2 พบก้อนเนื้องอกตามผิวหนัง 2 ตุ่มขึ้นไป,
3 พบกระที่บริเวณรักแร้ หรือขาหนีบ,
4 พบเนื้องอกของเส้นประสาทตา,
5 พบเนื้องอกของม่านตา 2 แห่งขึ้นไป,
6 พบความผิดปกติของกระดูก
7 มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้
ที่สถาบันโรคผิวหนังมีผู้ป่วยใหม่ชนิดนี้เฉลี่ย 10-15 รายต่อปี ประมาณว่าทั้งประเทศมีผู้ป่วยราว 20,000คน
ชนิดที่ 2 พบได้น้อยคือ พบราว 1 ใน 50,000 ถึง 120,000 คน ชนิดนี้จะไม่มีอาการทางผิวหนัง วินิจฉัยโรคได้ โดยพบเนื้องอก ของหูชั้นใน และมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้
- โรคทั้ง 2 ชนิดนี้ เป็นโรคทางพันธุกรรม ถ่ายทอดโดยโครโมโซมคู่ 22 ถ่ายทอด แบบลักษณะเด่น ท้าวแสนปม ซึ่งน่าจะหมายถึงชนิดแรก อาจพบตุ่มเนื้องอกได้ถึง 9 พันตุ่ม ผู้ป่วยร้อยละ 5 อาจพบมะเร็งของตุ่มที่ผิวหนัง หรือมะเร็งเม็ดเลือด
@ ท้าวแสนปมเองไม่ได้เป็นโรคท้าวแสนปม
ตำนานของนครไตรตรึงษ์ อีกเรื่องหนึ่ง เล่าว่า เจ้านครองค์นี้มีพระธิดา นามว่า อุษา มีรูปโฉมงดงามร่ำลือไปถึงเมืองศิริไชยเชียงแสน เจ้าชายชินเสนจึงปลอมตนเป็นชายอัปลักษณ์ เนื้อตัวมีปุ่มปมขึ้นเต็มไปหมด แล้วเข้าไปขออาศัยอยู่กับตายายที่เฝ้าอุทยานท้ายวังนครไตรตรึงษ์ได้ชื่อเรียกว่า "แสนปม"
วันหนึ่งนางอุษาออกมาชมสวน แสนปมแอบมาดูนางแล้วเกิดความรักจึงนำผักที่ปลูกไว้ไปถวาย เมื่อนางอุษาเห็นแสนปมก็นึกรักเช่นเดียวกัน จึงให้พี่เลี้ยงนำหมากไปให้เป็นของตอบแทน แสนปมได้สลักมะเขือเป็นสารเกี้ยวพาราสีนางแล้วส่งไปถวายอีก นางอุษาก็ตอบสารในทีรับรักใส่ในห่อหมากแล้วฝากมาให้แก่แสนปม แสนปมจึงทราบว่านางก็รักตนเช่นเดียวกัน คืนหนึ่งแสนปมลอบเข้าไปหานางในวัง แล้วทั้งสองก็ได้อยู่ร่วมกันโดยไม่มีใครทราบเรืองจนกระทั่งนางอุษาตั้งครรภ์
ต่อมาแสนปมได้ทราบข่าวว่าพระเจ้าศิริชยเชียงแสนประชวรหนัก จึงเดินทางกลับบ้านเมืองโดยไม่ทราบว่านางอุษาตั้งครรภ์ เวลาผ่านไปนางอุษาให้กำเนิดกุมารหน้าตาน่ารัก ยังความทุกข์ใจมาให้แก่เจ้านครไตรตรึงษ์ยิ่งนัก เพราะนางอุษาไม่ยอมบอกความจริง เจ้านครไตรตรึงษ์จึงหาวิธีที่จะให้รู้แน่ว่าใครเป็นบิดาของกุมาร จึงป่าวประกาศให้เจ้าเมืองต่างๆ รวมทั้งทวยราษฎร์มาพร้อมกันที่หน้าพระลานพร้อมทั้งให้นำขนมนมเนยติดมือมาด้วย ถ้ากุมารรับขนมจากมือผู้ใดก็ให้ถือว่าผู้นั้นเป็นบิดาของกุมารและจะได้อภิเษกกับนางอุษา
พระชินเสนได้ข่าวก็เตรียมรี้พลมา ตั้งพระทัยจะอภิเษกกับนางอุษาให้ได้ แล้วปลอมตัวเป็นแสนปมพร้อมทั้งนำข้าวเย็นมาก้อนหนึ่งเพื่อให้กุมารเลือก ครั้นถึงเวลาที่กำหนดจึงให้กุมารเลือกขนมจากบรรดาผู้ที่นำมา ปรากฎว่ากุมารรับข้าวเย็นจากแสนปมไปเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย ท้าวไตรตรึงษ์รู้สึกอับอายอย่างมากด้วยความโกรธจึงขับไล่นางอุษาออกจากเมืองโดยทันที แสนปมจึงแสดงตนให้รู้ว่าตนเองคือ พระชินเสน แล้วพานางอุษาและกุมารเดินทางกลับอาณาจักรศิริไชยเชียงแสนและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ขอบคุณข้อมูลจาก พ.ญ.ปรียา กุลละวณิชย์ น.พ.ประวิตร พิศาลบุตร และ http://acttifact.blogspot.com

มะรุม กินรักษามะเร็งได้จริงหรือ....???? ดูให้ดีๆ

มะรุม กินรักษามะเร็งได้จริงหรือ....???? ดูให้ดีๆ
จากกระแสความเชื่อ กินมะรุมช่วยรักษาโรคมะเร็งในลำไส้ได้ ทำให้ผู้คนเฮโลสนใจกันมาก ถึงขั้นนำมะรุมมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สารพัดรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ครีมอาบน้ำ ครีมทาผิว แคปซูลยา ยิ่งในกลุ่มคนที่กลัวว่า ถ้ากินน้อยไปจะป้องกันมะเร็งได้ไม่ทัน โหมกินมะรุมสกัดแคปซูลเข้าไปวันละ 8-9 เม็ด
ผศ.ดร.ศิริพร ตันติโพธิ์พิพัฒน์ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เตือนว่า....
" ไม่เพียงจะรักษามะเร็งไม่ได้ ยังจะเป็นตัวเร่งให้มะเร็งเติบโตได้เร็วขึ้นอีกต่างหาก "
หนูในกลุ่มที่กินอาหารผสมผงมะรุมน้อย แค่ 10% ก้อนมะเร็งในลำไส้มีขนาดปรับตัวเล็กลง แต่หนูที่กินอาหารผสมมะรุม 40% กลับมีก้อนเนื้อมะเร็งในลำไส้ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
http://www.thairath.co.th/content/416532

5 วิธี รีบสลายโกรธ ต่อบุพการีชน

 5 วิธี รีบสลายโกรธ ต่อบุพการีชน
พุทธศาสนายกย่องพ่อแม่ว่าเป็นพระอรหันต์ของลูก เพราะท่านเป็นผู้ให้กำเนิด เป็นผู้เลี้ยงดู เป็นครูคนแรก ลูกๆบางคนอาจมองพ่อแม่เป็นธนาคารส่วนตัว และเป็นอะไรอีกสารพัดอย่างที่ลูกอยากให้เป็น พ่อแม่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ก็จริง แต่ถ้าลูกเข้าใจว่าพ่อแม่ก็คือคนธรรมดา ดังนั้นจึงอาจทำผิดพลาดได้ และคนเป็นลูกก็สามารถให้อภัยพ่อแม่ได้เช่นกัน ความเข้าใจดังกล่าวจะช่วยทำให้ความรู้สึกคับข้องใจลดน้อยลง
ท่านพระครูจินดารัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธบุตร จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ให้คำแนะนำลูกๆ ของพ่อแม่ในเรื่องการจัดการตนเองเพื่อขจัดอารมณ์/รู้สึกไม่พอใจพ่อแม่ตนเอง ให้หายไป 5ข้อดังนี้....
1 ตระหนักถึงพระคุณของพ่อแม่ ที่จริงแล้วลูกทุกคนรู้แก่ใจดีว่าพ่อแม่มีพระคุณต่อตนขนาดไหน เมื่อใดที่เกิดความไม่เข้าใจกัน ขอให้ย้อนคิดถึงพระคุณของท่าน เพราะหากไม่มีพ่อแม่ ก็ไม่มีเรา ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เสื้อผ้า การศึกษา ที่อยู่อาศัย ฯลฯ ทุกสิ่งที่ได้จากพ่อแม่อาจจะมากบ้าง น้อยบ้างหรือขาดแคลนในบางครั้ง แต่ก็ให้คิดว่า ท่านให้เรามากที่สุดเท่าที่จะสามารถให้ได้แล้ว ขอให้ดูตัวอย่างคนที่มีความกตัญญูกตเวที เพราะคนแม้จะยิ่งใหญ่ หากไม่มีความกตัญญูก็ไม่นับว่าประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง เมื่อมีโอกาสลูกควรที่จะปรนนิบัติดูแลพ่อแม่ด้วยปัจจัยสี่ ไม่ควรแล้งน้ำใจต่อท่าน
2 อย่ารอเวลาที่จะรัก วิธีหนึ่งที่พระอาจารย์ใช้ในการอบรมเด็กๆ ให้มีความกตัญญูคือ ให้พวกเขาออกมาแสดงความรู้สึก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะออกมาเล่าว่าพ่อแม่รักพี่หรือน้องมากกว่าตนเอง หรือน้อยใจที่พ่อแม่ผิดสัญญาไม่มีเวลาให้ เป็นต้น หลังจากนั้นพระอาจารย์ก็จะขอให้เด็กที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ หรือพ่อแม่เสียชีวิตแล้วออกมาข้างหน้า ซึ่งเด็กๆ กลุ่มหลังก็จะเล่าว่ารักและคิดถึงพ่อแม่ตลอดเวลา และถ้าพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาจะบอกหรือทำอะไรให้พ่อแม่บ้าง ฯลฯ
พระอาจารย์เล่าว่า เมื่อถึงตอนนี้เด็กๆ จะร้องไห้กันโดยทั่วหน้า และตระหนักว่า การที่พ่อแม่ยังอยู่กับพวกเขาเป็นสิ่งที่มีค่ามหาศาล แม้ว่าจะทะเลาะหรืองอนกันบ้าง ก็ยังดีกว่าไม่มีพ่อแม่เลย
แม้ไม่ได้เข้าร่วมอบรม แต่เราทุกคนรู้ดีว่าพ่อแม่ไม่มีทางอยู่กับเราไปตลอด เพราะฉะนั้นสิ่งใดที่ควรทำให้ท่าน เมื่อยังมีโอกาส ก็ควรรีบทำ รีบปรับความเข้าใจ และให้อภัยท่าน
3 ใช้น้ำคำย้ำน้ำใจ เด็กเล็กๆ แม้จะโกรธพ่อแม่แต่ก็หายโกรธได้ไม่ยาก เพราะพ่อแม่คือคนที่สำคัญที่สุดของเขา ต่างจากคนที่โตแล้ว ซึ่งแม้จะรู้จักผิดชอบชั่วดีมากขึ้น แต่กลับไม่รู้จักสลายความโกรธ และมักพลั้งเผลอทำร้ายจิตใจของพ่อแม่ได้ง่ายๆ โดยเฉพาะด้วยคำพูด และที่น่าเสียใจคือ ส่วนใหญ่จะพูดหวานๆ กับคนนอกบ้าน แต่กับคนในบ้านกลับใช้คำพูดตามใจฉันและขาดความระมัดระวังเพียงพอ
พระอาจารย์กล่าวเสริมว่าคำพูดเป็นสิ่งที่เราต้องระมัดระวังมาก เหมือนคำกล่าวที่ว่า "พูดคำด่าคำ คนเข็ด พูดเท็จเป็นบาป พูดหยาบแตกร้าว พูดยาวฟังยาก พูดมากเลอะเทอะ พูดเยอะผิดบ่อย พูดถ่อยผิดใจ พูดไวผิดอักขระ" และเพื่อยับยั้งไม่ให้ความโกรธหรือความไม่พอใจทวีความรุนแรงจนเผลอใช้คำพูดทิ่มแทงหัวใจพ่อแม่ เราก็ควรมีสติ คิดให้ดีก่อนจะพูด หมั่นใส่น้ำใจในน้ำคำ ซึ่งจะช่วยให้เราควบคุมจิตใจตัวเองได้ดีขึ้น แม้ว่าความไม่พอใจไม่ได้หายไปไหน แต่อย่างน้อยก็ยังพอจะสงบระงับไปได้
4 ปลดปล่อยความยึดติด ลูกหลายคนรู้สึกไม่ชอบใจที่พ่อแม่คิดไม่เหมือนตนเอง เช่น พ่อแม่ไม่สนใจธรรมะ แต่ลูกเป็นคนชอบเข้าวัด พ่อชอบสูบบุหรี่ แต่ลูกเกลียดคนสูบบุหรี่ พ่อพูดจาโผงผาง แต่ลูกรู้สึกว่าการพูดเสียงดังเป็นเรื่องน่าละอาย ฯลฯ เรามักอยากให้พ่อแม่เป็นอย่างที่พ่อแม่ไม่ได้เป็น ซึ่งในทางกลับกัน พ่อแม่ก็อาจจะคาดหวังในสิ่งที่เราเป็นไม่ได้เช่นกัน
การจะให้คนอื่นคิดหรือเป็นเหมือนใจเราทุกอย่าง เป็นเรื่องที่ไม่มีวันเป็นจริงได้ และถ้ามัวแต่เถียงกันในเรื่องเหล่านี้ ก็คงยากจะคุยกันรู้เรื่อง หากเป็นเรื่องที่เราห่วงใยท่าน และเมื่อเราเตือนแล้ว แต่ท่านปฏิเสธ ก็ไม่ควรจะจ้ำจี้จำไชไม่หยุด เพราะรังแต่จะเกิดความขัดแย้งกันมากขึ้น ขอให้หันไปใช้วิธีอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการถกเถียงกัน เช่นแทนที่จะคะยั้นคะยอให้ท่านเข้าวัด จะง่ายกว่าถ้าเราเปลี่ยนตัวเองให้ท่านเห็น เช่นเปลี่ยนจากคนใจร้อน ขี้โมโห เป็นคนใจเย็น และอดทนมากขึ้น เมื่อท่านเห็นเราเปลี่ยน ท่านก็จะเกิดความศรัทธาและสนใจในธรรมะขึ้นมาเอง
5 ให้อภัยได้ทุกเรื่อง เมื่อพ่อแม่เป็นผู้ให้กำเนิด ก็มีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนให้ลูกเป็นคนดีและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทว่าในความเป็นจริง มีคนจำนวนมากที่เป็นพ่อแม่โดยที่ยังไม่พร้อมและไม่สามารถเลี้ยงลูกได้มิหนำซ้ำยังทำตัวอย่างที่ไม่ดีให้ลูกเห็น ไม่ว่าจะเป็นเล่นไพ่ แทงหวย ถั่ว โป อบายมุขทุกอย่างเล่นหมด เป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา คบคนชั่วเป็นมิตร ฯลฯ เมื่อลูกเห็นพ่อแม่ทำสิ่งเหล่านี้ก็ย่อมรู้สึกผิดหวัง ไม่อยากให้ความเคารพหรือศรัทธาในตัวพ่อแม่อีกต่อไป มีแต่จะตำหนิ ติเตียน และต่อว่า นอกจากนั้นยังมีพ่อแม่จำนวนไม่น้อยที่เป็นฝ่ายกระทำสิ่งเลวร้ายกับลูกเสียเอง เช่นพ่อแม่ที่บังคับให้ลูกประกอบมิจฉาชีพ ให้ลูกค้ายาเสพติด มีพ่อที่ข่มขืนลูก มีแม่ที่รู้เรื่องแต่ไม่ช่วยอะไร...เหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในสังคมไทย แต่ที่ไหนๆ ก็มี
เนื้อหาโดย : นิตยสาร Secret

ศาลยกฟ้อง สนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัยไม่หมิ่นทักษิณ

ศาลยกฟ้อง"สนธิ"
ปราศรัยไม่หมิ่น"ทักษิณ" ชี้ปกป้องสถาบันเบื้องสูง
.
ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง "สนธิ ลิ้มทองกุล"และเอเอสทีวี ไม่หมิ่น "ทักษิณ"พาดพิงใช้เงินซื้อข้าราชการบางคนและทำให้สถาบันกษัตริย์อ่อนแอ ชี้ปราศรัยเพื่อปกป้องสถาบันฯ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ 19 (ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.1252/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด โดยนายพชร สมุทวณิช และนายขุนทอง ลอเสรีวานิช กรรมการผู้มีอำนาจ , บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายปัญจภัทร อังคสุวรรณ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กรรมการผู้มีอำนาจ และ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร ฯ เป็นจำเลย ที่ 1- 3 ในความผิดฐาน ร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร การกระจายเสียงหรือภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กรณีปราศรัยหมิ่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2551 เวลากลางคืน นายสนธิ แกนนำพันธมิตรฯ จำเลยที่ 3 ได้ขึ้นปราศรัย บนเวทีพันธมิตรฯ บริเวณทำเนียบรัฐบาล ผ่านเครื่องขยายเสียง ให้ผู้ชุมนุมจำนวนมากฟังทำนองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีจาบจ้วงสถาบัน และพยายามซื้อรากหญ้า ยึดตำรวจ และเอาเงินไปจ่ายให้ทหารบางคนเพื่อให้สถาบันกษัตริย์อ่อนแอ ทำลายรากฐานของกษัตริย์ โดยมีจำเลยที่ 1-2 เป็นผู้ถ่ายทอดสัญญาณภาพและเสียงผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี และเว็บไซต์ผู้จัดการ ซึ่งข้อความที่นายสนธิ กล่าวทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้เสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงเหตุเกิดที่ แขวงและเขตดุสิต กทม.และทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรไทย

โดยวันนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และจำเลยทั้งหมดมาศาลพร้อมนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า คดีนี้ฝ่ายโจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นอย่างชัดเจนว่า บริษัทไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัดจำเลยที่ 1 และ บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด จำเลย 2 ได้ร่วมกับ นายสนธิ จำเลยที่ 3 กระทำการหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างไร จึงพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 และ 2

ส่วนการปราศรัยของนายสนธิ จำเลยที่ 3 นั้น เห็นว่าแม้จะมีบางประเด็นมีการปราศัยลักษณะหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ก็เป็นการปราศรัยที่มีเจตนาเพื่อปกป้องสถาบันกษัตริย์ จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ประกอบกับเมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ของบุคคลต่างที่แวดล้อม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำให้เชื่อได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ทั้งจากพฤติการณ์ของ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือดาร์ตอปิโด และนายจักรภพ เพ็ญแข จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง

ภายหลังนายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ กล่าวว่า คดีนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ขณะนี้เป็นนักโทษหนีคดีในต่างแดน แต่กลับส่งตัวแทนมาฟ้องในคดีหมิ่นประมาทได้ ที่ผ่านมาศาลไม่สามารถจะสืบจำเลยได้ ซึ่งเราเคารพในกระบวนการยุติธรรม แต่อีกฝ่ายกลับเอาแต่กระบวนการยุติธรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง และในปีที่แล้วนายสนธิ ลิ้มทองกุล เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด มีการพิจารณาคดีถึงที่สุดถึง 3 คดี โดยไม่ได้หลบหนี ฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ควรเคารพในกระบวนการยุติธรรมด้วย โดยเฉพาะในคดีทุจริตคอร์รัปชั่น สามารถต่อสู้ในชั้นศาลได้

ด้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า ตนเองเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ทุกครั้งที่อัยการมีหมายเรียกก็จะต้องมารับทราบข้อกล่าวหาตลอด แต่ในวันนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อัยการส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อัยการกลับบอกว่าตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ ทั้งๆที่กระบวนการควรจะเหมือนกัน

ส่วนเรื่องการจัดเวทีเสวนาเรื่องการแสดงความคิดเห็นการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่จะมีขึ้นนั้น นายสนธิ กล่าวว่า เป็นเสวนาปาหี่ ไม่มีผลอะไร เป็นพิธีกรรมที่ทำขึ้นเพื่ออ้างความชอบธรรมในการเปิดให้ประมูลสัมปทานพลังงานเท่านั้น
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000020339
 —  กับ Sompron Punsa และ Sompron Pad
(from ONE Browser)

12 เหตุผลที่ทำให้ชาวพุทธหลายคน ไม่สามารถเข้าถึงผลแห่งการปฏิบัติภาวนา!!!!!

12 เหตุผลที่ทำให้ชาวพุทธหลายคน ไม่สามารถเข้าถึงผลแห่งการปฏิบัติภาวนา!!!!!

1. ถ้าไม่หายสงสัยจะไม่ทำ หมายความว่า เป็นคนที่ต้องเห็นถึงจะยอมทำ ต้องรู้ให้ได้ว่านรกมีจริง สวรรค์มีจริง ชาตินี้ชาติหน้ามีจริง ถ้าไม่เห็นด้วยตาตนเองจะไม่ยอมทำอะไรเลย ซึ่งถ้าคิดเช่นนี้ก็คงไม่ได้ทำอะไรจริงๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พิสูจน์ไม่ได้ พิสูจน์ได้แน่นอนแต่ต้องใช้เวลา ต้องพัฒนาจิตไปได้ระดับหนึ่งจึงสามารถรู้เห็นสิ่งเหล่านี้ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะขอเห็นก่อนโดยไม่ลงมือปฏิบัติ คนพวกนี้จึงได้แต่โต้แย้งในสิ่งที่ตนเองสงสัย ทำให้สูญเสียเวลาชีวิตไปเปล่าๆ

2. เห็นประโยชน์และมีความศรัทธา แต่มีข้ออ้างมากมายเพราะความเกียจคร้าน คนเหล่านี้จะชอบทำบุญมากกว่าการภาวนา เพราะทำได้ง่ายกว่า ซึ่งก็ไม่ผิด แต่การทำบุญ ทำทาน ก็ไม่ใช่ตัวที่จะทำให้เกิดปัญญาเห็นแจ้งได้ ถือว่าเป็นกลุ่มที่เข้ากระแสความดีแล้ว แต่ยังไปไม่ถึงตัวแก่นของพระพุทธศาสนา

3. พูดมากเกินไป หมายความว่า เมื่อหาความรู้ได้แล้ว แทนที่จะลงมือปฏิบัติ กลับนำความรู้มาโต้เถียง วิเคราะห์ เที่ยวจับผิดสำนักนั้น สำนักนี้ โดยที่ไม่ได้ลงมือพัฒนาจิตใจของตน ผลที่ตามมาก็คือ จิตใจจะยิ่งตกต่ำลงเรื่อยๆ เพราะอัตตาตัวตนพอกพูน คิดว่าตนเองดีกว่าผู้อื่นเพราะรู้หลักธรรมมาก

4. ติดความดีมากเกินไป หมายความว่า มุ่งมั่นในการทำสาธารณะประโยชน์มากเกินไป ช่วยเหลือผู้อื่นจนไม่มีเวลาช่วยเหลือตนเอง เมื่อช่วยเหลือผู้อื่นไปนานๆ มักจะมีความทุกข์ตามมาในภายหลัง เพราะเก็บเรื่องความทุกข์ของผู้อื่นมาคิดจนวุ่นวายปวดหัวไปหมด สุดท้ายก็เกิดความท้อแท้ เพราะไม่เข้าใจว่า โลกคือสิ่งที่เราไปควบคุมไม่ได้

5. มุ่งอยู่กับความผิดของผู้อื่น หมายความว่า ใช้เวลาจับผิดคนทั้งโลก จนไม่มีเวลาจับผิดตนเอง วิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นมากเกินไป คิดจะเปลี่ยนโลก เปลี่ยนสังคม แต่ไม่เคยเปลี่ยนตนเอง เพ่งโทษความผิดพลาดของผู้อื่น จนจิตใจตนเองขุ่นมัว ไม่มีความเบิกบานพอที่จะปฏิบัติธรรมได้เลย

6. ยึดติดกับรูปแบบ อัตลักษณ์ หมายความว่า มีความเข้าใจผิด ชอบคิดว่าการปฏิบัติธรรมจะต้องทำในวัด นุ่งขาวห่มขาว ต้องมีกฏระเบียบที่แตกต่างไปจากการใช้ชีวิตธรรมดา คนกลุ่มนี้จะติดวัดเป็นพิเศษ ชอบหาเวลาเข้าวัดไปปฏิบัติธรรม ถ้าไม่ได้ไปวัด จะรู้สึกว่า ปฏิบัติธรรมไม่ได้ สุดท้ายจึงกลายเป็นว่า ไปติดสังคมในวัด ไปหาเพื่อนคุยในวัด ซึ่งกลายเป็นกับดักอีกรูปแบบหนึ่ง

7. ทำๆเลิกๆ หมายความว่า เมื่อฟังธรรมก็เกิดความเข้าใจ เห็นคุณค่า และลงมือปฏิบัติ หากแต่เป็นพวกขี้เบื่อ มีความเพียรน้อย ทำหนึ่งเดือน หยุดสองเดือน ในการปฏิบัตินั้น ถ้าปฏิบัติไปเรื่อยๆ ไม่หยุด ผู้ปฏิบัติก็จะได้รับผลแห่งการปฏิบัติเองอย่างไม่ต้องสงสัย หลายคนปฏิบัติไปไม่ถึงจุดแห่งมรรคผล แต่กลับล้มเลิกกลางคัน ทำให้ขาดประสบการณ์ทางจิต เมื่อเลิกไป แล้วกลับมาทำใหม่ ก็เท่ากับเริ่มต้นกันใหม่ไม่จบสิ้น ที่สุดแล้วก็เกิดความท้อแท้ คิดว่าตนเองเป็นผู้ไร้วาสนาไม่อาจบรรลุธรรมได้ คนพวกนี้ก็มีไม่น้อยเลย

8. ปฏิบัติผิดวิธี หมายความว่า เป็นกลุ่มที่โชคร้าย เพราะคิดดี และต้องการทำดี แต่ไปเจออาจารย์ไม่ดี เจออรหันต์ปลอม เจอสิบแปดมงกุฏ จึงทำให้การปฏิบัติผิดทิศผิดทางไปหมด คล้ายๆกับองคุลีมาลที่ถูกอาจารย์หลอก ในข้อนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการคบหากัลยาณมิตร หาความรู้ที่ถูกต้อง ต้องหัดใช้หลักกาลามสูตร เช่นนี้ก็จะแก้ไขได้

9. ให้เวลากับทางโลกมากเกินไป หมายความว่า ไม่รู้จักการแบ่งเวลา ไม่รู้จักสร้างสมดุลย์ให้ชีวิต คนพวกนี้จะใช้ชีวิตอย่างวุ่นวายไปเรื่อยๆ ต้องสุข ต้องทุกข์ไปเรื่อยๆ อาจอยู่ห่างไกลการพัฒนาจิตใจไปเรื่อยๆ จนมีจุดเปลี่ยนของชีวิต เกิดความทุกข์ครั้งใหญ่จนทำให้เขาต้องกลับมาสร้างสมดุลย์ชีวิตอีกครั้ง เป็นผลให้เสียเวลาปฏิบัติทางจิตไปมาก บางคนมาปฏิบัติในช่วงสุดท้ายของชีวิตก็ไม่สามารถปฏิบัติได้ดี เนื่องจากสังขารไม่อำนวย นั่งไปปวดไป ทำได้ไม่เท่าไหร่ ก็ลมจับ ล้มพับไปก็มี เป็นการเสียโอกาสเพราะความชราภาพโดยแท้

10. คนจมทุกข์ หมายความว่า เป็นคนที่ไม่เห็นคุณค่าของตนเอง วันๆ เอาแต่ทุกข์ซ้ำไปซ้ำมา เหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่าง จนเป็นคนเสพติดความเศร้า ความเหงาโดยไม่รู้ตัว นานวันเข้าก็เริ่มเป็นความเคยชินของชีวิต คนเหล่านี้จะชอบฟังธรรมะที่ปลอบประโลม ชอบให้คนอื่นปลอบ แต่ไม่ชอบช่วยตนเอง นิยมการใช้ธรรมะชั้นต้นเพื่อบำบัดทุกข์ แต่ในขั้นตอนของการปฏิบัติภาวนาจะไม่ชอบ ไม่มีกำลังใจพอที่จะเปลี่ยนตนเองได้เลย

11. คนที่มีความสุข โลกสวยงาม คิดบวกตลอดเวลา หมายความว่า เป็นพวกที่ทำอะไรก็สำเร็จไปเสียหมด มีวิธีมองโลกให้สดใสไปทุกอย่าง ถ้าความจริงไม่ดี ก็มองให้มันดีเสีย จึงไม่ค่อยได้เจอความทุกข์ เมื่อไม่ค่อยได้พบความทุกข์ จึงไม่รู้จะปฏิบัติธรรมไปทำไม เชื่อว่าตนเองจัดการทุกอย่างได้ บุคคลพวกนี้ จัดเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยง เพราะเป็นไปได้ว่า ชั่วชีวิตเขาอาจไม่ได้ลงมือปฏิบัติธรรมเพื่อลดทอนภพชาติได้เลย เป็นกลุ่มที่น่าสงสาร เพราะต้องเวียนว่ายตายเกิดไปอีกนาน

12. ฉลาดเกินไป หมายความว่า เป็นคนที่ตกเป็นทาสของความคิด ยึดติดอยู่กับการค้นหมายชีวิตเชิงปรัชญา คิดเอาเองว่า ความคิดจะทำให้เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างในโลกได้ คนพวกนี้จะถือความคิดเป็นใหญ่ ยึดติดอยู่กับการวิเคราะห์โดยไม่รู้ว่า มีภาวะบางอย่างที่เกินขีดความสามารถของสมองไปแล้ว คนกลุ่มนี้จะฉลาดทางโลก แต่กลายเป็นคนโง่ในทางธรรม

การเวียนว่ายตายเกิดไม่ใช่ของสนุก พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่คือทุกข์แห่งการเวี่ยนว่ายตายเกิด เพราะการเวี่ยนว่ายตายเกิดนั้นเป็นที่มาแห่งทุกข์ทั้งมวล เป็นการยากมากที่ใครสักคนจะเกิดมาเป็นมนุษย์ ยิ่งยากเข้าไปอีกที่จะได้พบกับศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อเรามีคุณสมบัติครบบริบูรณ์เช่นนี้ ขอจงทำลายความโง่เขลาทั้ง 12 ประการนี้เสีย และเร่งความเพียรของตนเอง พัฒนาจิตตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อนำสันติสุขมาสู่เรา เข้าสู่นิพพานตลอดอนันตกาล

บทความของ คุณ พศิน อินทรวงค์ สาธุครับ

มอบไออุ่นให้ผ้าห่ม เพื่อให้ผ้าห่มรักษาไออุ่นนั้นไว้ : เรื่องดีที่น่าอ่าน

ณ วัดโทรมๆแห่งหนึ่ง
เณรน้อยเล่าให้ภิกษุชราฟังด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
“วัดเล็กๆแห่งนี้ มีแต่ท่านกับข้าเพียง 2 รูป ตอนที่ข้าลงเขาไปบิณฑบาต ชาวบ้านเอาแต่พูดจาดูถูกถากถางข้า ว่าข้าเป็นเณรป่าบ้างละ ว่าข้าเป็นเณรบ้าบ้างละ ไม่ค่อยมีใครใส่ใจทำบุญค่าธูปค่าน้ำมันตะเกียงเลย”
“เช้านี้ตอนออกไปบิณฑบาต อากาศข้างนอกหนาวเย็นมาก แต่ก็ไม่มีใครเปิดประตูให้ข้าเลย อาหารที่บิณฑบาตมาก็น้อยนิดน่าเวทนา ท่านอาจารย์ขอรับ ที่ท่านเคยกล่าวว่า วัดของเราจะเจริญรุ่งเรือง เสียงระฆังที่อุบาสกอุบาสิกามาเคาะตีจะดังไม่ขาดสาย น่ากลัวว่าจะเป็นเพียงความฝันเสียแล้วขอรับ”
ภิกษุชราขยับกายและปรับจีวร จากนั้นก็นั่งหลับตาฟัง ไม่พูดอะไร
เณรน้อยเห็นว่าภิกษุชราไม่กล่าวอะไร ก็บ่นต่อไปเรื่อยๆ ครู่หนึ่งผ่านไป ภิกษุชราจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ลมเหนือพัดมาไม่ขาดสาย เจ้าอยู่ข้างนอก หนาวไหม?”
“หนาวสิขอรับ! กระผมหนาวจนขาจะเป็นน้ำแข็งอยู่แล้ว” เณรน้อยกล่าว
“ถ้าอย่างนั้น คืนนี้เรานอนให้เช้าสักหน่อยจะดีกว่านะ!”
ภิกษุชราเรียกให้เณรน้อยดับตะเกียง จากนั้นก็เข้าห้องเพื่อที่จะพักผ่อน
เมื่อผ่านไปประมาณหนึ่ง ภิกษุชราได้เอ่ยทำลายความเงียบว่า
“ตอนนี้เจ้ารู้สึกอุ่นหรือยัง?”
“อุ่นแล้วขอรับ ตอนนี้อุ่นเหมือนนอนอยู่ท่ามกลางแสงแดดอุ่นขอรับ” เณรน้อยตอบ
“ผ้าห่ม ตอนที่วางอยู่ที่เตียง มันเย็นเฉียบ แต่เมื่อเรานำมันมาห่ม มันกลับอุ่นขึ้นทันที เจ้าคิดว่าผ้าห่มทำให้คนอุ่นหรือคนทำให้ผ้าห่มอุ่นล่ะ?” ภิกษุชราเอ่ยถาม
เณรน้อยหัวเราะและตอบกลับไปว่า
“ท่านอาจารย์ ท่านนี่แสร้งถามผมแน่ๆ ผ้าห่มจะทำให้คนอุ่นได้อย่างไรกัน คนต่างหากที่ทำให้ผ้าห่มอุ่นนะขอรับ”
“ในเมื่อผ้าห่มให้ความอบอุ่นแก่เราไม่ได้ แถมเรายังต้องให้ความอบอุ่นแก่มัน แล้วเราจะห่มผ้าห่มไปทำไมกัน?”
เณรน้อยได้แล้วก็ครุ่นคิด
“แม้ผ้าห่มจะให้ความอบอุ่นแก่เราไม่ได้ แต่เพราะความหนาของผ้าห่มช่วยรักษาไออุ่นของตัวเราเอาไว้ได้ ทำให้เรารู้สึกอุ่นสบายภายใต้ผ้าห่มนั้นขอรับ”
เมื่อภิกษุชราได้ฟังก็ถึงกับหัวเราะออกมา
“ภิกษุอย่างพวกเราก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มหนาๆผืนนั้น และเวไนยใต้หล้านี้ก็ไม่ต่างอะไรกับผ้าห่มผืนหนาผืนนั้น ขอเพียงผู้บำเพ็ญอย่างเรามีจิตใจใฝ่ในความดี ผ้าห่มที่หนาวเย็นก็จะได้รับไออุ่นจากพวกเรา จากนั้นผ้าห่มก็จะเป็นผู้รักษาไออุ่นไว้ เรานอนอยู่ใต้ผ้าห่มจึงทำให้เรารู้สึกอบอุ่น แล้วที่ว่าวัดของเราจะเจริญรุ่งเรือง เสียงระฆังที่อุบาสกอุบาสิกามาเคาะตีจะดังไม่ขาดสาย ยังจะเป็นเพียงแค่ความฝันอยู่อีกหรือเปล่า? ”
เมื่อเณรน้อยได้ฟัง ก็แจ้งใจในทันที
พอถึงวันรุ่งขึ้น เณรน้อยก็ตื่นแต่เช้า และรีบลงเขาไปบิณฑบาต แม้จะพบกับคำเสียดสีและสีหน้าดูแคลนจากผู้คน แต่เณรน้อยก็ยังสำรวมกิริยาต่อผู้คนเหล่านั้น
ยี่สิบปีให้หลัง วัดแห่งนี้ก็ได้สร้างพระอารามใหญ่ขึ้นมาบนเนื้อที่ใหม่ไกลจากวัดเดิมสิบกว่าลี้ มีพระภิกษุก่อเกิดขึ้นอีกมากมาย และมีอุบาสกอุกบาสิกาเข้ามาถวายธูปอย่างไม่ขาดสาย เณรน้อยรูปนี้ก็กลายเป็นเจ้าอาวาสแทนภิกษุชราที่มรณภาพไป
................................................
เราทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ ต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ผ้าห่มกันทั้งนั้น ผู้คนรอบข้างคือผ้าห่มผืนหนา และเมื่อใดที่เรามอบไออุ่นให้กับผ้าห่ม ผ้าห่มก็จะรักษาไออุ่นนั้นคืนให้กับเราเสมอ

7คติธรรม ประจำวันที่ 19กพ2558

1.อย่าดูถูกคนอื่นว่า "โง่" เพราะเราก็เคยโง่ใน "สายตา" คนอื่นเหมือนกัน
2.คนที่มีความยับยั้งชั่งใจ จะห่างไกลกับคำว่า เสียใจไปชั่วชีวิต

3.ความจริงหลายอย่างมาจากจินตนาการ แต่จินตนาการอีกหลายอย่างก็เป็นได้เพียงฝัน

4.ขัดใจกันทุกครั้งได้ แต่ก็ควรหาทางลงให้กันทุกครั้งได้ จึงจะอยู่ด้วยกันยืด

5.การจะลืมเรื่องอดีตได้ ไม่ใช่พยายามจะลืมมัน จะลืมหรือไม่ลืมก็ช่างมัน แค่ไม่ช่วยคิดต่อก็พอ

6.ทำดีด้วยกันมาร้อยครั้ง อย่าให้พังลงเพราะเห็นแก่ตัวครั้งเดียว

7.เดินทางผิด ยังมีเข็มทิศพอหาทางได้ แต่หลงผิดกลับหาทางออกยาก เพราะเค้าคิดว่า สิ่งที่ทำนั้นถูกเสมอ

ที่มา tamdee.net

วิธีคงความกรอบของข้าวโพดหวานให้นาน

พืช)คงความหวานกรอบของข้าวโพดหวานไว้ได้นานนับสัปดาห์ เพียงเก็บฝักสดทั้งเปลือกไว้ในถุงพลาสติก ปิดปากถุงให้แน่น แล้วแช่ตู้เย็นในช่องธรรมดา

from sms farmerInfo

เมื่อความลำเอียง ทำให้ห่วงคนบ้านอื่นมากกว่าคนบ้านตัวเอง

เมื่อคนเป็นแม่ ลำเอียง ห่วงบ้านอื่นมากกว่าบ้านตัวเอง

แบบนี้ก็มีจริงๆนะ

"สังเกตรึเปล่า เมื่อวานซื้อไก่ทอด kfc มาชุดนึง แม่แบ่งไก่ เลือกชิ้นใหญ่ 3 ชิ้น แยกใส่จานไว้ แล้ว เอาชิ้นเล็กๆ ให้เด็กๆในบ้านกินกัน"
"ดูท่าทาง.คงตั้งใจเอาไก่ไปฝากบ้านโน้น บ้านของยายคนนึง ไปนั่งคุยกัน สมาคมกัน แม่คงอยากให้พวกเค้ารักแม่"

"แต่ก็เกินไปนะ ทีคนบ้านนั้น ตั้งวงนั่งกินอะไรกัน ไม่เห็นนึกถึงแม่ของเราเลย แต่แม่เรา มีอะไรก็รีบหิ้วไปฝากที่บ้าน ผักที่ปลูกไว้งามๆ ก็รีบเก็บไปฝากพวกเค้า เกินไปรึเปล่าแม่"

...ส่วนใหญ่ มักจะเห็นผู้เป็นแม่ จะต้องเอาใจใส่ เก็บของดีๆ ให้คนในบ้านได้กิน แต่นี่ เก็บของดีๆ เอาไปให้บ้านอื่นกิน ... แล้วคนในบ้านตัวเอง ผัก ผลไม้ที่ควรจะได้กิน ก๋ไม่ได้กิน


ถ้าทำไม่ดี ไม่สนใจ ใส่ใจ เอาของไปให้ ก็จะโดน สมาคมผู้ชราบ้านนั้น นินทา พูดว่าร้ายให้อีก...

ชีวิตไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบจริงๆ

สูตรแก้ไขกลากเกลื้อน + คันเรื้อรัง

พืช)เมื่อคุณเป็นกลาก เกลื้อนหรือคันเรื้อรัง ลองแก้ปัญหาด้วยสูตรกระชาย1เหง้า+หอมแดง1หัว+กระเทียม2-3กลีบ ตำจนแหลก แล้วทา เห็นผลภายใน10-14วัน

from.sms farmerInfo

จุดมุ่งหมายของการทำงาน และรับมือกับความเปลี่ยนแปลง

จุดมุ่งหมาย

1.พยายามสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ไม่ใช่เพียงแค่พยายามทำ ความเข้าใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ และปกป้องไม่ให้ความล้มเหลวเกิดขึ้นในชีวิต และหน้าที่การงานของเราเท่านั้นครับ

2.วางแผนเพื่อก้าวรุกไปข้างหน้า และปฎิบัติตามอย่างแข็งขัน
3.สร้างทีมงานที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และเอื้ออำนาจ ภายใต้ 'วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน'
4.การจัดลำดับและเน้นความสำคัญ จะช่วยให้คนสามารถตัดสินใจ ตัดและจ่ายงบประมาณก่อน - หลังได้อย่างแม่นยำ ในช่วงเวลาที่ยุ่งยากทั้งเรื่องการว่าจ้าง หน้าที่ความรับผิดชอบ ธุรกิจและสภาวะเศรษฐกิจ
5. การเลือกเป้าหมายอย่างรอบคอบ และการกำหนดเป้าหมาย เป็นปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งของความสำเร็จในทุกๆเรื่อง
Goal setting and careful goal selection are the number one criteria for success in all the literature.

6.ถ้าไม่มีการระบุเป้าหมายอย่างชัดเจน อาจทำให้เราเหมือนถูกบังคับให้ทุ่มเทไปที่กิจกรรม และความพยายามในเรื่องอันหลากหลาย และสุดท้าย เราก็อาจจะกลายเป็นทาสของมัน
- การเปลี่ยนแปลงใดๆ อาจจะต้องใช้เวลา.3-5 ปี แม้จะมีการปฏิบัติอย่างมุ่งมั่น
- การกำหนดแผนที่เหมาะสม จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดผลการดำเนินงานที่ย่ำแย่
- การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมใดๆ มักจะต้องการความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงอยู่เสมอ
- คุณสามารถจะกำหนดอนาคตของคุณด้วยตัวคุณเอง หาไม่แล้ว คนอื่นก็จะมาจัดการให้คุณอย่างแน่นอน

การผสมอาหารให้ไก่กิน ให้ได้เปลือกไข่ไม่แตกง่าย

สัตว์)เพียงนำเปลือกไข่มาบดละเอียด แล้วผสมกับอาหารไก่ให้ไก่กิน เมื่อไก่ออกไข่จะได้ไข่ที่มีเปลือกแข็ง ไม่แตกง่าย

from sms farmerinfo

"แด่พ่อ-แม่" จากดวงใจ

"แด่พ่อ-แม่" จากดวงใจ
เบื้องหลังความสำเร็จของเด็ก ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง จะเป็นใครไม่ได้ นอกจากพ่อกับแม่ แต่จะกล่าวถึง แม่ก่อน
ตั้งแต่เล็ก ฉันเป็นเด็กขี้อาย ไม่ค่อยพูด ทำอะไรก็เชื่องช้า จนแม่ต้องเอ็ดอยู่เสมอ เวลาคุณครูสั่งงาน ให้ไปหานั่นหานี่มา แม่ก็ต้องเป็นธุระจัดให้อยู่เสมอ บางทีต้องขี่รถไปตั้งไกลกว่าจะถึง ไปขอกับคนนั้น คนนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่กล้าทำ แม่ทำโน่นทำนี่ให้ งานบ้าน ทำกับข้าว เวลาว่างแม่ก็ชอบ ทำความสะอาดบ้าน เก็บของ ปลูกต้นไม้ แม่ทำงานหนักมาก เมื่อก่อนก็ยังไม่ค่อยเท่าไร แต่ตอนนี้ แม่กลายเป็นหลักในบ้าน เพราะพ่อไม่ได้ทำงานแล้ว
แม่ทำงานหนักมาตลอด ปัจจุบันก็ยังต้องทำอยู่ แต่ก็ไม่เคยบ่นสักคำ แม่คือหญิงเหล็กในใจฉัน ถ้าหากฉันมีลูก ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะเลี้ยงลูกได้ดีเท่าแม่รึเปล่า
สำหรับพ่อ...
พ่อเรียนจบประมาณ ป.๔ เห็นจะได้ ชอบสอนเรื่องการใช้ชีวิต เรื่องคุณธรรม เรื่องคนและทุกๆ เรื่อง แต่ฉันก็มักจะไม่เห็นด้วย และโต้เถียงกับท่านเสมอ จนวันนี้ก็ยังนึกเสียใจอยู่ เป็นเพราะหัวแข็ง มากไปรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ฉันยังจำคำสอนของพ่อได้เสมอว่า คนขยันไม่มีวันอดตาย และท่านจะชอบเตือน เวลาที่ฉันเถียงว่า มีคนสอนน่ะดีแล้ว ดีกว่าไม่มีใครสอน
ฉันรักพ่อกับแม่ (แต่ไม่เคยบอกรัก)
เพราะพ่อกับแม่รักฉัน รักจากใจ เป็นคนที่คอยช่วยเหลือฉันเสมอเวลาลำบากและรักฉันเสมอ ไม่ว่าฉันจะเป็นอย่างไรก็ตาม
* น.ส.โศรดา อัศวบริรักษ์กูล
@"พ่อของผม"
ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่สามารถสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้ และทางมหาวิทยาลัย ก็ให้ทุน ในการศึกษาด้วย ซึ่งกว่าที่ผมจะสามารถยืนอยู่ ณ จุดนี้ได้ ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านการศึกษา ค่าเล่าเรียน หรือแม้แต่อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ล้วนต้องใช้เงิน ที่พ่อแม่ผม เก็บหอม รอมริบ เพื่อที่จะให้ผมได้เรียนหนังสือ
ครอบครัวของผมค่อนข้างยากจน พ่อแม่ทำนาเป็นอาชีพหลัก แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนอาชีพ เพราะกลัวว่า จะหาเงินส่งเสียให้ผมและพี่สาวไม่ทัน จึงไปเป็นกรรมกรก่อสร้างในต่างจังหวัด ผมรู้ว่าพ่อและแม่ ทำงานหนัก เพื่อให้ผมและพี่สาวได้เรียนหนังสือสูงๆ เมื่อโรงเรียนปิดเทอม ผมจะไปทำงานกับพ่อ เป็นกรรมกรเหมือนกัน ซึ่งมันทำให้ผมรู้ว่ากว่าได้เงินมาแต่ละบาทต้องเสียเหงื่อ ตากแดดตากลม ผมเหนื่อยมากจนแทบจะทนไม่ไหว แต่พ่อก็บอกผมว่า "ถ้าไม่รู้จักทำงาน มีหรือจะได้เงิน เมื่อไม่มีเงิน แล้วจะเอาที่ไหนไปจ่ายเป็นค่าเล่าเรียน" ทำให้ผมคิดได้ว่า นี่ขนาดมาทำงานเพียงไม่กี่วัน ก็บ่นว่า ทนไม่ไหว แล้วพ่อล่ะ ทำงานมาไม่รู้กี่ปีแล้ว พ่อยังไม่เคยบ่นสักคำ เพราะอยากให้ผมได้เรียนหนังสือ ผมจึงไม่รู้สึกท้ออีกต่อไป ทางด้านการเรียนของผม ถึงผมจะไม่ได้ที่หนึ่งของโรงเรียนก็ตาม แต่ผมก็อยู่ ในลำดับต้นๆ ของโรงเรียน ยิ่งผมสอบเข้าเรียนต่อในระดับ มหาวิทยาลัยได้ พ่อก็ดีใจแล้ว
* นายอภิชาติ เขียวสวาท
@ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของข้าพเจ้า...
นับแต่ข้าพเจ้าจำความได้ พ่อคือผู้ที่คอยปลอบโยนในทุกเรื่องที่เสียใจ และแม่คือผู้ที่อบรมสั่งสอน ให้ข้าพเจ้าเป็นคนดี มีระเบียบวินัย ภาพของพ่อที่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูเราทั้งครอบครัว เปรียบเสมือน กำลังใจและแรงผลักดันให้ข้าพเจ้าอดทนต่อสิ่งต่างๆ มากมาย พ่อไม่เคยบ่นแม้จะเหนื่อยแค่ไหน พ่อไม่เคยดุแม้เราจะดื้อแค่ไหน พ่อไม่เคยทิ้งพวกเราแม้จะท้อแค่ไหน พ่อเป็นวีรบุรุษในใจของพวกเรา
เมื่อข้าพเจ้ายังเด็ก พ่อต้องทำงานที่ต่างจังหวัด กางเต็นท์นอนกับดิน ตากแดดแผดเผา พ่ออดทน ทุกอย่าง รอจนกว่าเราจะปิดเทอมและไปอยู่กับพ่อที่เต็นท์กลางป่า พ่อรักแม่และพวกเรามาก ข้าพเจ้า มีพี่ชายอยู่ ๒ คน เราทั้งสามล้วนเป็นที่ยอมรับของสังคม เป็นคนดี แม้จะยากจนครอบครัวเราก็อบอุ่น
ในวัยเด็ก พ่อและแม่คอยอบรมสั่งสอน ถ่ายทอดสิ่งดีๆ ให้พวกเรา โดยเฉพาะข้าพเจ้า ซึ่งเป็น ลูกผู้หญิง คนเดียวในจำนวน พี่น้อง ๓ คน แม่จะสอนให้มีความรับผิดชอบ ขยัน อดทน ด้วยการ ให้ข้าพเจ้ารับผิดชอบงานต่างๆ อย่างมากมาย พ่อบอกอยู่เสมอว่า ลูกชื่อ "แก้วหทัย" หมายถึง แก้วตาดวงใจอันเป็นความสดใส ที่รักของบุคคลอื่น ทุกครั้งที่ได้รับเงินจากพ่อและแม่ ข้าพเจ้าจะเข้าใจ และเก็บถนอมเหรียญนั้นไว้อย่างดี ไม่นำไปใช้ เพราะข้าพเจ้ารู้ว่า พ่อลำบากมาก แค่ไหน กว่าจะได้เงิน มาสักบาทหนึ่ง พ่อบอกเสมอว่า ให้นำเงินที่มีอยู่ไปใช้ ในทางที่เป็นประโยชน์ ห้ามนำไปเล่นการพนัน เป็นอันขาด พ่อจะคอยย้ำเรื่องนี้เสมอ รวมทั้งอบายมุขทุกอย่าง โดยบอกเราว่า อย่าได้ลอง และอย่าเข้าใกล้ พ่อมิเพียงแต่บอกเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีอีกด้วย ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าทำผิด พ่อจะเงียบ และปล่อยให้รู้สึกสำนึกด้วยตนเอง หรือจากการอบรมของแม่ พ่อเงียบ และเศร้าคล้ายกับ รู้สึกผิดที่สอนให้ลูกเป็นคนดีไม่ได้ สิ่งนี้เองที่ทำให้เราสำนึกและไม่อยากจะทำผิดหรือดื้ออีก ความลำบาก ที่พ่อและแม่ต้องทำเพื่อพวกเรา อบรมสั่งสอนให้ข้าพเจ้าเดินไปในทางที่ถูกต้อง และ รอวันที่ลูกประสบความสำเร็จ สิ่งนี้เองทำให้ข้าพเจ้ามีกำลังใจ มีความตั้งใจที่จะเป็นคนดี ประสบ ความสำเร็จ เพื่อจะได้เลี้ยงดูท่านต่อไป
* น.ส.แก้วหทัย ใสดี
@พ่อ คือทุกสิ่งทุกอย่าง
สำหรับข้าพเจ้า ตอนนี้ "พ่อ" คือทุกสิ่งทุกอย่าง ท่านต้องทำงานหนักมากเพื่อส่งข้าพเจ้าเรียน พ่อเป็น ชาวนา ส่วนแม่เสียไปนานแล้ว นับแต่วันที่แม่จากไป ข้าพเจ้าไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองขาดอะไร เพราะพ่อ สามารถเป็นทั้งพ่อและแม่ พ่อคอยให้คำแนะนำ คำปรึกษาเวลาข้าพเจ้ามีปัญหา ข้าพเจ้าไม่เคยได้ยิน พ่อพูดเลยว่าพ่อเหนื่อย ทั้งที่จริงๆ แล้วท่านต้องทำงานหนักมาก พ่อบอกเสมอว่า พ่อไม่ได้เรียนจบ ปริญญา ไม่ได้มีการศึกษาสูงๆ เพราะฉะนั้น พ่อจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกมีอนาคตที่ดี สามารถใช้ชีวิต อยู่ในสังคมได้ (ในวันที่ไม่มีพ่อแล้ว)
วันนี้ข้าพเจ้าก้าวเข้ามาถึงตรงนี้ได้เพราะมีพ่อเป็นกำลังใจ คอยเป็นทุกๆ อย่างให้ แม้จะเหนื่อยยาก เพียงใด ข้าพเจ้าสัญญากับตัวเองว่า จะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด ให้สมกับความเหนื่อยยากของพ่อ จะไม่ทำ ให้พ่อผิดหวัง และจะตอบแทนบุญคุณของพ่อ ไม่ต้องให้ท่านทำงานหนัก เหมือนอย่าง ที่แล้วมา
* น.ส.วิภาวดี เอี่ยมสะอาด
ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๖ พฤศจิกายน- ธันวาคม ๒๕๔๗

คุณประโยชน์ของการปลูกต้นสาบแร้งสาบกาที่เล้าไก่

สัตว์)การปลูกต้นสาบแร้งสาบกาบริเวณเล้าไก่ ราว 5-10 จุดหรือตามความเหมาะสม กลิ่นเหม็นจากใบสาบแร้งสาบกาจะช่วยป้องกันไรไก่ได้อย่างดีเยี่ยม

from sms farmerInfo

ความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน

ความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
ทุกคนจะไม่พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล ความหมายเป็นนัย และคำว่า สี่ ซึ่งออกเสียงคล้ายความตายก็จะต้องไม่พูดออกมา ต้องไม่มีการพูดถึงความตายหรือการใกล้ตาย และเรื่องผีสางเป็นเรื่องที่ต้องห้าม เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในปีเก่าๆ ก็จะไม่เอามาพูดถึง ซึ่งการพูดควรมีแต่เรื่องอนาคต และทุกอย่างที่ดีกับปีใหม่และการเริ่มต้นใหม่

หากคุณร้องไห้ในวันปีใหม่ คุณจะมีเรื่องเสียใจไปตลอดปี ดังนั้นแม้แต่เด็กดื้อที่ปฎิบัติตัวไม่ดีผู้ใหญ่ก็จะทน และไม่ตีสั่งสอน

การแต่งกายและความสะอาด ในวันตรุษจีนเราไม่ควรสระผมเพราะนั้นจะหมายถึงเราชะล้างความโชคดีของเราออกไป เสื้อผ้าสีแดงเป็นสีที่นิยมสวมใส่ในช่วงเทศกาลนี้ สีแดงถือเป็นสีสว่าง สีแห่งความสุข ซึ่งจะนำความสว่างและเจิดจ้ามาให้แก่ผู้สวมใส่ เชื่อกันว่าอารมณ์และการปฏิบัติตนในวันปีใหม่ จะส่งให้มีผลดีหรือผลร้ายได้ตลอดทั้งปี เด็ก ๆ และคนโสด เพื่อรวมไปถึงญาติใกล้ชิดจะได้ อังเปา ซึ่งเป็นซองสีแดงใส่ด้วย ธนบัตรใหม่เพื่อโชคดี

วันตรุษจีนกับความเชื่ออื่น ๆ สำหรับคนที่เชื่อโชคลางมากๆ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหรือญาติ อาจมีการเชิญซินแส เพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมในการออกจากบ้านและทางที่จะไปเพื่อ เป็นความเป็นสิริมงคล

บุคคลแรกที่พบและคำพูดที่ได้ยินคำแรกของปีมีความหมายสำคัญมาก ถือว่าจะส่งให้มีผลได้ตลอดทั้งปี การได้ยินนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่น ถือเป็นโชคดี

การเข้าไปหาใครในห้องนอนในวันตรุษ ถือเป็นโชคร้ายดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนป่วยก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก

ไม่ควรใช้มีดหรือกรรไกรในวันตรุษเพราะเชื่อว่าจะเป็นการตัดโชคดี ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าชาวจีนทุกคนจะคงยังเชื่อตามความเชื่อที่มีมาแต่ทุกคนก็ยังคงยึดถือ และปฎิบัติตาม เพราะสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนธรรมเนียม และวัฒนธรรม โดยที่ชาวจีน ตระหนักดีว่าการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมมาแต่เก่าก่อนเป็นการแสดงถึงความเป็น ครอบครัวและเอกลักษณ์ ของตน

ข้อควรจำในการควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์

สัตว์)อุณหภูมิกลางวันกลางคืนแตกต่างกันมาก ควรควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงเร็ว ป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทันและเป็นโรค

from sms farmerInfo

เคล็ดลับในการเลือกซื้อหมึกแห้ง

สัตว์)เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับเลือกซื้อหมึกแห้ง ไม่ควรเลือกหมึกแห้งหรือบางเกินไป เพราะเป็นหมึกเก่า กลิ่นต้องไม่ฉุนหรือเหม็นสาบ เพราะหมึกจะเค็ม

จาก sms farmerInfo

บทกวีจีน น่าคิด

蒿里行
曹操
关东有义士,兴兵讨群凶。
นอกด่านบูรพาทหารกล้า ยกโยธาปราบเหล่าทมิฬ
初期会盟津,乃心在咸阳。
ชุมพลเริ่ม ‘เมิ่งจิน’ ใจถวิลบุก ‘เสียนหยาง’
军合力不齐,踌躇而雁行。
รวมพลังไม่พร้อมมวล เคลื่อนขบวนรวนเรพลาง
势利使人争,嗣还自相戕。
โลภยั่วคนมัวหมาง ซ้ำยังต่างชิงราญรอน
淮南弟称号,刻玺於北方。
น้องใช้สมญาราช พี่ตรามาศอยู่อุดร
(อ้วนสุดตั้งตัวเป็นฮ่องเต้ที่หวยหนาน อ้วนเสี้ยวสลักราชลัญจกรยู่ภาคเหนือ)
铠甲生虮虱,万姓以死亡。
เกราะกรายเรือดหมัดซอน ราษฎรตายแสนพัน
白骨露於野,千里无鸡鸣。
กระดูกขาวทั่วถิ่น พันโยชน์สิ้นเสียงไก่ขัน
生民百遗一,念之断人肠。
ราษฎร์ร้อยรอดหนึ่งเท่านั้น ให้นึกพรั่นหวั่นวิญญาณ์

กวีโจโฉ สำนวนแปล โชติช่วง นาดอน

สูตรอาหารปลา ทำเอง

สัตว์)สูตรอาหารปลา ใช้ข้าวสวยตากแห้ง3กก. แช่น้ำ10นาที+หอยเชอร์รี่ทุบละเอียด3กก.+รำอ่อน3กก.+กากมะพร้าวตากแห้ง2กก.+น้ำ10ลิตร ผสมแล้วให้ปลากิน

from sms farmerInfo

อาชีพในฝันของเด็กไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม

อาชีพในฝันของเด็กไทย คือ 1. แพทย์ 2. วิศวกร 3. ตำรวจ 4. นักธุรกิจ 5. ครู
5 อาชีพในฝันของเด็กสิงคโปร์ คือ 1. เจ้านาย 2. ครู 3. ซุปเปอร์ฮีโร่ 4. แพทย์ 5. สัตวแพทย์ / ประธานบริษัท / ตำรวจ
5 อาชีพในฝันของเด็กมาเลเซีย คือ 1. แพทย์ 2. ครู 3. นักธุรกิจ 4. ตำรวจ 5. ศิลปิน
5 อาชีพในฝันของเด็กเวียดนาม คือ 1. แพทย์ 2. ครู 3. นักธุรกิจ 4. ศิลปิน 5. ตำรวจ และ นักวิทยาศาสตร์
- See more at: http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=2956&read=true&count=true#sthash.ebmYJfNR.dpuf

ฟังรายการวิทยุรักพ่อ ตอนที่ 202 - ปลูกป่า ปลูกคน บนดอยตุง

ฟังรายการวิทยุรักพ่อ ตอนที่ 202 - ปลูกป่า ปลูกคน บนดอยตุง

http://youtu.be/RS0n3ayB8oQ

รายการรักพ่อ202  ปลูกป่า ปลูกคน บนดอยตุง





ฟังรายการทั้งหมด http://www.youtube.com/playlist?list=PL381074716754C1A0




พบกับสารคดีเทิดพระเกียรติ  "ปลูกป่า ปลูกคน บนดอยตุง"
,
 ช่วงในหลวงในดวงใจ47,   ทำไมเรารักพระเจ้าอยู่หัว,
ฟังเพลงม.ม้า ม.มิตร, รักพ่อ, พระภูมิพล, คนมีน้ำยา, ฟิพทีนมูฟ , ออกอากาศทาง FM87.75 MHz คลื่นแห่งมิตรภาพ จ.นนทบุรี เมื่อ 28 พ.ค.2556





มาแล้วครับรายการรักพ่อ ช่วยสายต่อ ให้ระบือ ส่งสื่อสาร
เหมือนคนที่มีจิตร่วมกัน ร่วมปกป้องสถาบัน ให้มั่นคง
ช่วงเวลาต่อจากนี้ไป ขอนำท่านผู้ฟังเข้าสู่รายการรักพ่อ

รายการวิทยุดีๆที่ตั้งใจทำในแนวจิตอาสา
ผู้ดำเนินรายการ : สุเวศน์ ภู่ระหงษ์
ทีมงาน ห้องบันทึกเสียง สิงหา ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี
- กลุ่มรักพ่อภาคปฏิบัติ

(๓๖) "บ้านเต่า" : สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร

(๓๖) "บ้านเต่า" : สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร
สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระ?บรมราชินีนาถ ๘๐ พรรษา ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร ตอนที่ี ๓๖ "บ้านเต่า"
แม้จะฟักออกมาเป็นตัวแล้ว แต่ลูกเต่าตัวน้อยๆ เหล่านี้ก็ยังมีโอกาสรอดชีวิตได้ไม่มากนัก?และแม้จะรอดชีวิต เต่าก็ยังเติบโตได้ช้ากว่าสัตว์ทะเลอื่นๆ นอกจากนั้น การทำประมง การบุกรุกพื้นที่ชายฝั่งก็ทำให้เต่าทะเลเห?ล่านี้ลดจำนวนไปอีกหลายเท่า ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงมองเห็?นปัญหาเหล่านี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๒ และมีพระราชดำริให้ทุกฝ่ายช่วยเหลือเต่าทะ?เลเอาไว้ จึงเกิดโครงการอนุรักษ์เต่าทะเลขึ้น เช่นที่เกาะมันใน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเลี้ยงเต่าวัยอ่อน ฟักเต่า แล้วก็ปล่อยกลับคือสู่ท้องทะเล ไม่เพียงแต่เป็นการอนุรักษ์เต่าทะเล แต่สิ่งที่ได้มาคือความสมบูรณ์ของท้องทะเล?และความกินดีอยู่ดีของประชาชนอีกด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=U1p_2c07o-k



วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

วิธีสุดเจ๋ง ดับกลิ่นความปลา

สัตว์)วิธีสุดเจ๋งดับกลิ่นคาวปลา ล้างปลา2ครั้ง พักไว้ ล้างตะไคร้3-4ต้น แล้วทุบให้แตก คลุกเคล้ากับปลา ทิ้งไว้10-20นาที ล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง

from sms farmerInfo

ปริศนา ค่าโฆษณาในแฟนเพจ facebook

ทำไมเราถูกบังคับให้เห็นโฆษณาในหน้าฟีดข่าวในโพสต์บนๆ ทุกครั้งที่เปิดเฟซบุ๊ก

เฟซบุ๊กนำขึ้นมาโชว์ให้ เพราะโพสต์นั้นๆ จ่ายค่าโฆษณา
โดยเฟซบุ๊กคิดค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นตามยอดแฟนเพจ เช่นปัจจุบันแฟนเพจเราสองแสนกว่า ค่าโฆษณาก็จะสูงกว่าแฟนเพจที่มียอดไลค์พันหรือหมื่น วันนี้อัตราค่าโฆษณาของแฟนเพจเรา แค่โพสต์เดียว ถ้าจะซื้อโฆษณา มี 3 แบบ
- ให้มีคนไลค์เพจเพิ่ม จะมีเพิ่มขึ้น 510,000 – 1,300,000
- ให้มีคนชวนเพื่อนมาไลค์เพจเพิ่มด้วยเป็น 520,000 – 1,400,000
- สามารถเลือกให้ผู้เป็นกลุ่มเป้าหมายเห็นมากขึ้น โดยคัดกรองกลุ่มเป้าหมายเองได้

อัตราค่าโฆษณา ณ วันที่ 18 กพ.2558 เท่ากันคือ ราคา 13,200 บาท ในการโชว์โพสต์นั้นๆ ในหน้าฟีดข่าวได้ 1-7 วัน /ถ้าแฟนเพจมากขึ้นค่าโฆษณาก็จะสูงขึ้นกว่านี้
ทั้งนี้ต้องเลือกด้วยว่า จะให้โชว์ในฟีดข่าวทางคอมพิวเตอร์ หรือทางโทรศัพท์มือถือ ราคาเดียวกันเลือกให้โชว์ได้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
(สังเกตได้ว่าฟีดข่าวในคอมพิวเตอร์ กับ โทรศัพท์มือถือของเราไม่เหมือนกัน)

Cr: Hall พิสูจน์เอง

10นิสัยวัยเด็ก ที่ควรมีไว้ตลอดชีวิต

10 “นิสัยวัยเด็ก” ที่ควรมีไว้ตลอดชีวิต!!!
คุณยังจำช่วงชีวิตวัยเด็กของคุณได้หรือเปล่า ว่าคุณเป็นยังไง มี “นิสัยวัยเด็ก” เป็นอย่างไร คุณทั้งน่ารัก สดใส ไร้เดียงสา ขี้เล่น และมีความสุข ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

เรื่องมันมีอยู่ว่า มีคนที่ประสบความสำเร็จมากมายในช่วงหลายสิบปีมานี้ มองย้อนกลับไปว่า นักปรัชญาชื่อก้องโลกอย่าง Nietzsche หรือนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังอย่าง Einstein นั้น มีอะไรที่เหมือนกัน ซึ่งสุดท้ายแล้ว สิ่งนั้นก็คือ บางทีการคิดอะไรเป็นเด็ก หรือมีนิสัยบางอย่างเหมือนเด็ก ก็จำเป็น และทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตได้นะ

แน่นอนว่า เราคงกลับไปสดใสร่าเริง เต็มร้อยเหมือนตอนเด็กไม่ได้ เพราะความรับผิดชอบทุกอย่างที่ต่างกัน เด็กๆ คงไม่ต้องกังวลที่จะต้องหาเงินมาดูแลครอบครัว และทำงานหนัก เพื่อชีวิตที่สบาย แต่กระนั้น มันก็มี “นิสัยวัยเด็ก” บางอย่าง ที่เรายังไม่สายเกินไปที่จะนำมันกลับมาในชีวิตอีกครั้ง และใช้มันให้เกิดประโยชน์ในชีวิตมากที่สุด ซึ่งนิสัยเหล่านั้น มีดังนี้

1. ความอยากรู้ อยากเห็น
จำไว้เลยว่า “ความอยากรู้ อยากเห็น” มันมักนำมาซึ่งคำตอบ คำตอบในบางครั้งอาจจะดี หรือไม่ดี แต่นั่นคือเรื่องที่ดีเสมอถ้าคุณสงสัย หรืออยากรู้เรื่องรอบตัวตลอดเวลา

2. ชอบผจญภัย
ตอนเราเป็นเด็ก เรามักจะชอบเรื่องราวผจญภัยของสัตว์ป่าในทีวี และกินขนมอร่อยๆ นั่งหน้าจอทีวีอยู่เสมอ หากมองย้อนกลับไป แล้วมองมาในปัจจุบัน ทำไมเราถึงไม่ทำแบบนั้นบ้างล่ะ
บางที เราใช้ชีวิตที่จำเจมากเกินไป กับกิจวัตรประจำวัน ลองหาอะไรใหม่ๆ ทำบ้าง หรือลองผจญภัยไปในโลกกว้าง รับรอง ชีวิตคุณจะมีสีสันขึ้นเยอะเลย

3. อารมณ์ขัน
ไม่มีใครชอบอยู่ใกล้คนน่าเบื่อหรอกนะ ทุกคนชอบคนที่มีอารมณ์ขัน เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากให้ทุกคนส่ายหน้าลับหลังเวลาจะเจอคุณ ก็ลองทำตัวมีอารมณ์ขันซะบ้าง อย่าเครียดกับชีวิตให้มากนักเลย

4. เป็นคนสนุกสนาน
ตอนเด็กๆ เราจะมีความคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเกมไปซะหมด เพราะฉะนั้น เราจะทำมันอย่างสนุกสนาน ไม่เครียด และไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร เราก็จะสนุกไปกับมัน ยิ้มรับมันได้ ลองคิดซิว่า ถ้าตอนคุณโต แต่คุณสามารถทำแบบนั้นได้อีกครั้ง ชีวิตคุณจะมีความสุขเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน

5. ไม่หยุดตั้งคำถาม
ในทุกๆ วัน คนฉลาดจะค้นพบสิ่งต่างๆ ที่ไม่มีใครค้นพบบนโลกใบนี้มาก่อน ในขณะที่คนที่ไม่สนใจอะไรเลย ก็จะคอยรอคำตอบของการค้นพบจากคนฉลาดเท่านั้น ซึ่งคุณเท่านั้นที่จะเลือกได้ว่า คุณอยากเป็นคนไหน…

6. จำไว้ว่า “คุณเป็นอิสระ”
บางทีเรามักจะลืมข้อเท็จจริง ข้อนี้ไปว่า เรามีอิสระในการตัดสินใจที่จะเดินตามทางของตนเอง และไม่ใช่ทุกคนที่มองเห็นสิ่งนี้หรอกนะ เพราะฉะนั้น อย่ามองข้าม!

7. ความซาบซึ้งกับสิ่งที่เรามี
สิ่งหนึ่งที่ Kiitdoo บอกคุณได้อย่างแน่นอนก็คือว่า วินาทีที่คุณหยุดโหยหาในสิ่งที่คุณไม่มี และทราบซึ้ง พึงพอใจในสิ่งที่คุณมี ความสุขในชีวิตของคุณกำลังจะเกิดขึ้นแล้วล่ะ จำไว้นะ! ทุกคนมีเรื่องในชีวิตที่คุณสามารถพึงพอได้

8. แรงบันดาลใจ
จำได้มั้ย ว่าตอนเราเป็นเด็ก เรามักมีแรงบันดาลใจที่จะอยากเป็นนู่น อยากเป็นนี่เสมอๆ เช่น บางคนอยากเป็นหมอ นักบินอวกาศ หรือแม้กระทั่ง สิ่งที่เหนือธรรมชาติ อย่าง นางฟ้า แต่นี่คือสิ่งที่ดี เพราะถ้าคุณยังมีแรงบันดาลใจแบบนั้นอยู่เสมอ มันจะทำให้คุณสู้เพื่อจุดมุ่งหมายของคุณอย่างไม่ลดละ และถึงชีวิตคุณจะมีอุปสรรคแค่ไหนน่ะเหรอ เวลาคุณประสบความสำเร็จแล้วล่ะก็ มันจะมีค่ามากสุดๆ เลยล่ะ

9. จิตใจดี
ง่ายนิดเดียว.. ลองมองไปรอบๆ ตัวคุณสิ บางทีโลกนี้ก็วุ่นวายมากพอแล้ว จงเป็นคนดี อย่างน้อย คุณก็ไม่ทำให้โลกนี้ น่าอยู่น้อยลงไปกว่าเดิม

10. ตื่นเต้นกับสิ่งใหม่อยู่เสมอ
ตอนเด็กๆ เวลาเราเห็นสิ่งใหม่ๆ รอบตัว เราจะตื่นเต้นกับมันเสมอ ซึ่งวันนี้ หากคุณโตเป็นผู้ใหญ่ คุณต้องตื่นเต้นมากกว่าเด็กๆ และไม่ใช่แค่มองอยู่ห่างๆ เพียงอย่างเดียว แต่ลงมือทำความรู้จักกับสิ่งๆ นั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่คุณไม่เคยเห็น หรือคนที่คุณไม่เคยรู้จักก็ตาม เพราะใครจะไปรู้ คุณอาจจะตกหลุมรักสิ่งๆ นั้น หรือคนๆ นั้นก็เป็นได้

* *
ชีวอโรคยา แบ่งปันความรู้ทั่วไป เพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อความพอเพียง เพื่อสุขภาพที่ดี โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเอง ไม่รับปรึกษาปัญหาสุขภาพ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ประจำหน้าเพจ
โดย ชีวอโรคยา จาก Elitedaily ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

ชีวอโรคยา อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีไม่พึ่งสารเคมี ไม่ต้องรอให้ป่วยไปเสียค่ารักษาพยาบาลแพงๆ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร การดูแลตัวเองวิถีธรรมชาติ ไม่พึ่งสารเคมีได้ที่ Facebook ชีวอโรคยา
www.facebook.com/pages/ชีวอโรคยา/135957369811772

การใช้ผลปาล์มน้ำมันทำเชื้อเพลิงหุงต้ม

พืช)ผลปาล์มน้ำมันที่ร่วงอยู่บนพื้นสวน สามารถนำมาทำเป็นเชื้อเพลิงหุงต้มในครัวเรือนได้ดี โดยต้องผ่าซีกแล้วตากแดดให้แห้งก่อนนำมาใช้งานเท่านั้น

จาก sms farmerInfo

เก่ง.10อย่าง ของคนที่ทำอะไรสำเร็จ

เก่ง 10 อย่าง ของคนที่ทำอะไรก็สำเร็จ

1. เก่ง ในการชื่นชมผู้อื่น
2. เก่ง ในการหาข้อดี จุดเด่น ของผู้คนได้ แม้จุดเล็กๆ ก็ยังเห็น
3. เก่ง ในการให้กำลังใจคนอื่น เป็นต้นแบบที่ดี
4. เก่ง ในการให้พลังตัวเองทุกวัน ใส่ความเชื่อมั่นลงไป
5. เก่ง ในการแอบชื่นชมตนเอง และคิดแต่เรื่องดี ๆ
6. เก่ง ในการที่มีอะไรทำทันที ไม่เป็นโรคเดี๋ยวก่อน
7. เก่ง ในการมองหาคุณค่าของทุกอย่างที่อยู่รอบตัว มองเห็นเป็นแต่เรื่องดี
8. เก่ง ในการมองหาข้อดีให้ตัวเอง ยินดีกับสิ่งที่ตนมี และเอาออกมาเป็นจุดเด่น เพื่อช่วยคนอื่นและสังคม
9. เก่ง ในการเห็นจุดบกพร่องของตนเอง ปรับปรุงตัวเอง
10. เก่ง ในการขอบคุณคนให้เป็นนิสัย เป็นที่รักใคร่ของผู้พบปะ

การให้ธาตุอาหาร แก่สัปปะรด

พืช)สับปะรดต้องการใช้ธาตุ NและP สูง ถ้าขาดN ใบอ่อนจะมีสีเขียวจาง ใบแก่จะเขียวเข้ม แต่ถ้าใบอ่อนเหลืองซีดต้องให้ปุ๋ยทันที มิฉะนั้นผลผลิตจะลด

from sms farmerInfo

ต้องการสินค้าที่ทำให้ลูกมีความสุข ...

มีภรรยาคู่หนึ่งเข้าไปในห้าง
เพื่อหาชื้อของเล่นให้กับลูกสาว
ทั้งคู่มองดู ของเล่นหลากสีสันมากมาย
วางเรียงอยู่บนชั้น มองหาของที่น่าจะแพงที่สุดดีที่สุด
มีทั้งตุ๊กตาร้องไห้ ตุ๊กตาหัวเราะ
ของเล่นไฟฟ้า ชุดเครื่องครัวขนาดจิ๋ว
ที่สามารถทำขนมเค้กหรือพิซซ่าได้
สองคนตัวสินใจไม่ได้สักที
จนพนักงานสาวขายเดินเข้ามาใกล้แล้วถามว่า
ต้องการสินค้าตัวไหนค่ะ
ผู้เป็นพ่อเลยตอบกับไปว่า..
เรามีลูกสาวเล็กๆคนหนึ่ง
กลางวันเราไม่ค่อยอยู่บ้าน
และหลายครั้งตอนค่ำเราไม่อยู่บ้าน
ฝ่ายสามีอธิบาย
ลูกสาวของเราไม่ค่อยยิ้มเลย ฝ่ายภรรยาเสริม
เราอยากได้ของเล่นที่ทำให้ลูกมีความสุข
แม้ว่าเราจะไม่อยู่บ้านและต้องเป็น ของเล่น
ที่ทำให้ลูกมีความสุขตลอดเวลา
ที่ลูกต้องอยู่คนเดียวด้วย
พนักงานตอบด้วยด้วยรอยยิ้มว่า
เสียใจด้วยค่ะ
ที่นี่เราไม่ได้ขายคุณพ่อคุณแม่ค่ะ

เรื่องเพื่อน....(ความหมายดีๆ)

󾆠เรื่องพื่อน..อ่านแล้วดี !!

"เพื่อน" 👬👭👬
คำว่าเพื่อน อยู่ที่ไหน ก็คือเพื่อน
👭👬คำว่าเพื่อน อยู่ที่ใจ ไม่เลือนหาย
👬👭แม้จะห่าง ไกลจากกัน ก็ไม่คลาย
👭👬คำว่าเพื่อน จนวันตาย เราเพื่อนกัน
👬👭ตั้งแต่เด็ก เพื่อนข้างบ้าน เพื่อนประถม
👭👬โตมาหน่อย เพื่อนมัธยม วัยสุขสันต์
👬👭มหาลัย เพื่อนวัยนี้ มุ่งฝ่าฝัน
👭👬ปริญญา ต่างมุ่งมั่น สร้างหนทาง
👬👭เมื่อเรียนจบ เพื่อนร่วมงาน นั่นก็เพื่อน
👭👬เพื่อนคอยเตือน เพื่อนคอยปลอบ แม้อยู่ห่าง
👬👭มีเพื่อนดี ถนอมไว้ เพื่อนร่วมทาง
👭👬มีเพื่อนร้าย จงปล่อยวาง ต้องทำใจ
👬👭เพื่อนเอ๋ยเพื่อน จงฟังคำ ดังกล่าวนี้
👭👬จะกี่เดือน จะกี่ปี อย่าหวั่นไหว
👬👭เรารักกัน เพื่อนคือเพื่อน ตลอดไป
👭👬เพื่อนรักเพื่อน รักด้วยใจ ตลอดกาล

สูตรอาหารปลาดุก สุดเจ๋ง

สัตว์)สูตรอาหารปลาดุก น้ำส้มควันไม้0.5ลิตร ฉีดพ่นใส่อาหารปลา1กระสอบ ตากแห้งก่อนนำไปเลี้ยงปลา ช่วยเร่งการเจริญเติบโต ไขมันน้อย ต้านทานโรค

from sms farmerInfo

5ข้อคิด.ประจำเช้าวันที่ 18 กพ 2558

1.วันนี้คุณเดินมาไกล เกินกว่าที่จะย้อนกลับไป "แก้ไข" ความผิดพลาดของเมื่อวาน แต่ยังไม่สายที่จะปรับแก้ แนวโน้มความผิดพลาดของวันพรุ่ง - ดังตฤณ

2.ผู้ใหญ่ คือ คนมี "ใจใหญ่" เกินอารมณ์ และความเห็นแก่ตัว.- ดังตฤณ

3.คนดี เลิกรู้สึกผิด ด้วยการแก้ไขผิดให้เป็นถูกตามควร ส่วนคนเลว หมดความรู้สึกผิด ด้วยการบิดเบือนถูกให้เป็นผิดตามตน - ดังตฤณ

4.คนส่วนใหญ่ "คิดอย่าง" . "ทำอย่าง" และจะได้ "อีกอย่าง" - korakoda an

5.การ "เอาใจ" อาจเป็นการทำร้ายคนที่เรารัก ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
การ "เอาใจใส่" ต่างหาก ที่เป็นการแสดงออกถึงความรักอย่างแท้จริง - หนังสือ 'เลือก'

สูตรอาหารเพิ่มน้ำนมในโคนม

สัตว์)ขอนำเสนอ สูตรอาหารเพิ่มน้ำนมในโคนม เพียงนำกากน้ำมันมะพร้าว1กก. ผสมหัวอาหารโคนม 5 กก. ใช้เลี้ยงโคนมเป็นประจำ/ตามมื้ออาหาร

from sms farmerInfo

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

3ข้อคิด จากสาระอัพเดท

1.ชีวิต.. คือการขึ้นบันได เราอาจคิดว่าเราเก่งพอที่จะก้าวข้ามทีละสองขั้นได้ แต่เราลืมไปว่า ขั้นที่เราก้าวข้ามไปนั้น เราไม่ได้เรียนรู้อะไรจากมัน

2. หลังจากเรายิ้ม.. โลกจะสวยงามขึ้นเสมอ รอยยิ้มเปลี่ยนโลกได

3. คนบางคน
ปีีนขึ้นไปให้สูงที่สุด
เพื่อมองให้เห็นโลกกว้าง
ขณะที่... คนบางคน
ปีนขึ้นไปให้สูงที่สุด
เพื่อให้โลกมองเห็น "ตัวเอง"

ที่มา : สาระอัพเดต

กรมสุขภาพจิต แนะ 5 วิธี เพิ่มสารสุข ลดสารทุกข์....

?#?กรมสุขภาพจิต? แนะ 5 วิธี เพิ่มสารสุข ลดสารทุกข์........ดังนี้
วิธีที่จะช่วยเพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุขให้เกิดขึ้น มีข้อปฏิบัติ 5 ข้อ คือ
1.ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ ครั้งละ อย่างน้อย 30 นาที จะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขทั้ง 3 ตัว ได้แก่ ซีโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีผลต่อความสุข ความมั่นคงทางอารมณ์ และช่วยป้องกันโรคซึมเศร้า เอ็นดอร์ฟิน ที่เป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกดี ลดความกังวลและความเจ็บปวด และโดปามีน ที่เป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึก สดชื่น กระฉับกระเฉง
2. รับประทานอาหาร จำพวกน้ำตาล ไขมัน และโคเรสเตอรอลในระดับที่พอเหมาะ ไม่น้อยเกินไป การรับประทานอาหารประเภทน้ำตาลหรือไขมันในระดับต่ำเกินไปจะทำให้ระดับโดปามีน ในร่างกายต่ำไปด้วย การรับประทานกล้วย ธัญพืช สามารถช่วยเพิ่มระดับของโดปามีนได้ นอกจากนี้ การรับประทานอาหารโปรตีนที่มีส่วนประกอบของ ทริปโตเฟน ในปริมาณมาก เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ปลา นม กล้วย ถั่วลิสง จะช่วยเพิ่มการหลั่งของ ซีโรโทนิน
3. ทำกิจกรรมท่ามกลางแสงแดด อย่างน้อย 20 นาทีในตอนเช้า จะส่งผลให้ร่างกายผลิตสารเมลาโทนิน ที่จะเปลี่ยนเป็นซีโรโทนิน ช่วยในเรื่องของการนอนหลับพักผ่อนได้เต็มที่ในตอนกลางคืน
4. นวดตัว เป็นพลังจากการสัมผัส ซึ่งมีรายงานวิจัยโดย Touch Research Institute ของ Miami School of Medicine พบว่า การนวดตัวช่วยเพิ่มซีโรโทนิน ถึง 28 % และลดสารคอร์ติโซน ที่เป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดได้ถึง 31 % และ
5. ลดเครียดและจัดการอารมณ์ที่ทำให้เครียด เช่น ความกังวล ความโกรธ ความกลัว เพื่อช่วยเพิ่มระดับของซีโรโทนิน อาทิ การฝึกหายใจคลายเครียด
ขอบคุณข้อมูล http://www.nationtv.tv

“ภาวะวิตามินมากเกิน” หรือ “ฮัยเปอร์วิตามิโนสิส” (Hypervita minosis)

“ภาวะวิตามินมากเกิน” หรือ “ฮัยเปอร์วิตามิโนสิส” (Hypervita minosis)
กลัวขาดวิตามินเลยซื้อมาทาน ถ้ามากเกินไปจะเกิดอาการของภาวะวิตามินมากเกิน มีชนิดต่างๆ มีดังนี้
1 วิตามิน เอ กินมากๆ ติดต่อกันนานๆ แทนที่จะทำให้ดวงตาแจ่มใส อาจทำให้ตาพร่ามัวเพราะเพิ่มความดันในสมองจนประสาทตาโป่งพอง ตับโต ม้ามโต ต่อมน้ำเหลืองโตและผมร่วง ในเด็กจะทำให้กระดูกยาวออกและหักออกได้ง่าย
2 วิตามิน ดี ปกติช่วยในการดูดซึมแคลเซียมซึ่งเป็นสารที่จำเป็นในการสร้างกระดูกและฟัน คนที่กินวิตามินดีมากเกินไป จะทำให้ปริมาณแคลเซียมที่มีมากเกินจำเป็นจะเข้าไปเกาะตามเนื้อเยื่อต่างๆ ที่สำคัญ คือ ไต หลอดเลือด หัวใจ และปอด ทำให้ไตเสีย หลอดเลือดตีบแคบ คนท้อง โปรดระวังให้มาก การกินวิตามินดีมากๆ อาจทำให้เด็กในท้องถึงแก่ความพิการของหัวใจได้ และเมื่อคลอดออกมา ลูกอาจมีอาการชักกระตุกได้ด้วย
3 วิตามิน ซี กินมากๆ ทำให้ท้องร่วงได้ วิตามิน ซี จำนวนมากสามารถ ทำให้คนเป็นนิ่วได้เร็วขึ้น จึงควรระวังในบุคคลที่มีทีท่าว่าจะเป็นนิ่วในไต
ได้มีการศึกษาอ้างถึงการได้รับวิตามินซีในขนาดสูง จะเพิ่มอัตราการเกิดนิ่วเนื่องจากมีการขับวิตามินซีออกมาในรูปออกซาเลตและกรดยูริก มากกว่าปกติ เพิ่มอัตราการทำลายวิตามินบี 12 ในลำไส้ ขณะเดียวกันก็มีการศึกษาขัดแย้งว่าวิตามินซีมิได้มีผลดังกล่าว อย่างไรก็ควรระมัดระวังในการกินวิตามินซีขนาดสูง ๆ แก่คนที่มีแนวโน้มจะเป็นนิ่วในไตหรือเคยเป็นมาก่อน ผลข้างเคียงเพียงอย่างเดียวที่พบแน่นอนเมื่อกินวิตามินซีขนาดสูง ๆ คือ อาการไม่สบายท้อง ปั่นป่วนท้อง และอาจมีท้องเสียร่วมด้วย (ร่างกายต้องการวิตามินซีวันละ 60 มิลลิกรัม)
การรับประทานวิตามินซีเป็นอาหารเสริมในปัจจุบัน กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อย่างในสหรัฐนับว่าเป็น 1 ใน 5 อาหารเสริมยอดนิยมของชาวอเมริกัน
ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการรับประทานวิตามินซีใน 1 วัน สำหรับคนสุขภาพปกติดี ไม่มีโรค หรือกำลังป่วยเป็นที่ถกเถียงกันมากในปัจจุบันถึงปริมาณที่เหมาะสม โดยรัฐบาลแต่ละประเทศได้กำหนดปริมาณที่เหมาะสมไว้ไม่เท่ากัน ดูได้จากตารางข้างล่าง
* 60 มกต่อวัน ( United Kingdom's Food Standards Agency)
* 45 มกต่อวัน ( the World Health Organization)
* 60 มกต่อวัน (Health Canada 2007)
* 60–95มกต่อวัน( United States' National Academy of Sciences)
.
ในประเทศสหรัฐได้กำหนดไว้ว่าปริมาณ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ถือเป็นค่าสูงสุดที่รับได้ เกินนี้จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย
4 วิตามินอี
วิตามินอีนับว่าเป็นวิตามินที่มีพิษน้อยมาก การกินวิตามินอีสูงมาก ๆ อาจมีผลกระทบต่อวิตามินตัวอื่นๆ เช่น ขัดขวางการดูดซึมวิตามินเอและวิตามินเค
มีบางการศึกษาที่รายงานว่าคนที่กินวิตามิอีสูงถึง 1,000 ยูนิตต่อวัน (ร่างกายต้องการวิตามินอีวันละ12-15 ยูนิต) จะมีอาการปวดศีรษะ เมื่อยล้าตามตัว คลื่นไส้ เห็นภาพซ้อน กล้ามเนื้ออ่อนแรง ท้องไส้-ปั่นป่วน ไม่สบายท้อง และถ้าได้รับวิตามินอี 1,200 ยูนิตต่อวัน จะทำให้เลือดแข็งตัวช้าผิดปกติ
5 วิตามินบี 12 โฟเลทและไบโอติน
ยังไม่พบว่ามีภาวะเป็นพิษเกิดขึ้น ถึงแม้คนเราจะได้รับขนาดสูงเป็น 100 เท่าของความต้องการของร่างกาย นอกจากโฟเลท ซึ่งบางการศึกษาพบว่ามีผลขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุปริมาณน้อย เช่น สังกะสี แต่ไม่ถึงกับมีภาวะขาดสังกะสีใน และคนที่ได้รับโฟเลทมากควรได้รับ vitamin B12 เพิ่มด้วย
@ บุคคลที่ควรได้รับวิตามินเสริม
1. บุคคลที่กินวิตามินไม่เพียงพอ เช่น นักบวชผู้ถือศีลกินเจ คนที่นิยมดื่มสุรามากกว่ากินอาหาร คนที่อดอาหาร เพื่อที่จะลดความอ้วน และคนที่จำกัดอาหารบางชนิดตามแพทย์สั่ง เพื่อประโยชน์ในการรักษาโรคบางอย่าง
2. บุคคลที่มีความผิดปกติในการดูดซึมวิตามิน เช่น คนที่เป็นโรคตับ โรคถุงน้ำดี โรคท้องร่วงติดต่อกันหลายวัน
3. บุคคลที่ต้องการวิตามินมากกว่าปกติ เช่น เด็กที่กำลังเจริญเติบโต หญิงตั้งท้อง หญิงให้น้ำนมลูก ผู้ทำงานหนัก ผู้เป็นโรคต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ และในรายที่วิตกกังวลมาก
4. บุคคลที่กินยาบางชนิด เพื่อที่จะลดการดูดซึมของวิตามินบางอย่าง เช่น ยาคุมกำเนิดต้องกินร่วมกับวิตามิน บี 6, บี 12
ที่มา หมอชาวบ้าน และ อื่นๆ

นั่ง ขับรถ นอน ยืน อย่างไรไม่ปวดหลัง.......

นั่ง ขับรถ นอน ยืน อย่างไรไม่ปวดหลัง.......
อาการปวดหลังแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
ปวดหลังแบบเฉียบพลัน อาการมักจะไม่เกิน 6 สัปดาห์ ถ้าอาการปวดมากกว่า 12 สัปดาห์ เรียกว่า "ปวดหลังเรื้อรัง" การป้องกันทำได้ดังนี้
1 บริหารร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอโดยเฉพาะกล้ามเนื้อหลัง เพราะเราไม่เคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง การออกกำลังจะต้องค่อยสร้างความแข็งแรงทั้งกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อหลัง และจะต้องให้ข้อมีการเคลื่อนไหวได้ดีไม่มีข้อติด การออกกำลังอาจจะทำได้โดยการเดิน การขี่จักรยาน การว่ายน้ำจะทำให้หลังแข็งแรง
2 รักษาน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์เหมาะสมไม่ให้อ้วนโดยการรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ออกกำลังแบบ aerobic เช่นการวิ่ง ขี่จักรยาน
3 การนั่งหรือยืนให้ถูกท่า เพราะการนั่งหรือการยืนที่ผิดท่าจะทำให้เกิดอาการปวดหลัง
4 การยืนควรจะยืนตัวตรงหลังไม่โก่งหรือคด แนวติ่งหู ไหล่และข้อสะโพกควรเป็นแนวเส้นตรง ไม่ควรยืนนานเกินไปไม่ควรใส่รองเท้าที่มีส้นควรจะมีเบาะรองฝ่าเท้า หากต้องยืนนานควรมีที่พักเพื่อสลับเท้าพัก
5 การนั่งจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อกระดูกหลังมากที่สุด ควรจะพนักพิงหลังบริเวณเอว ควรจะเป็นเก้าอี้ที่หมุนได้เพื่อป้องกันการบิดของเอว มีที่พักของแขนขณะที่นั่งพักหัวเข่าควรอยู่สูงกว่าระดับข้อสะโพกเล็กน้อย ควรมีเบาะรองเท้า ควรจะมีหมอนเล็กๆรองบริเวณเอว ควรเลือกเก้าอี้ที่ถูกต้อง
6 การขับรถโดยเฉพาะการขับรถทางไกล ควรเลื่อนเบาะนั่งให้ใกล้เพื่อป้องกันการงอหลัง หลังส่วนล่างควรจะพิงกับเบาะ เบาะไม่ควรเอียงเกิน 30 องศา เบาะนั่งควรจะยกด้านหน้าให้สูงกว่าด้านหลังเล็กน้อย หากขับรถทางไกลควรจะพักเดินทุกชั่วโมง และไม่ควรยกของหนักทันทีหลังหยุดขับ
7 การนอน ที่นอนไม่ควรจะนุ่มหรือแข็งเกินไป ควรจะวางไม้หนา 1/4 นิ้วระหว่างสปริงและฟูกท่าที่ดีคือให้นอนตะแคงและก่ายหมอนข้าง หรือนอนหงายโดยมีหมอนรองที่ข้อเข่า ไม่ควรนอนหงายโดยที่ไม่มีหมอนหนุน หรือนอนตะแคงโดยไม่มีหมอนข้างหรือนอนคว่ำ
8 การนั่งที่ถูกต้อง ต้องนั่งให้หลังตรงหลังพิงพนักเก้าอี้ เก้าอี้ต้องไม่สูงเกินไป ระดับเข่าควรจะอยู่สูงกว่าระดับสะโพก อาจจะหาเก้าอี้เล็กรองเท้าเวลานั่ง
9 การยืนนานๆ ควรจะมีเก้าอี้หรือโต๊ะเล็กไว้วางเท้าข้างหนึ่ง

มุมมองที่แตกต่าง กรณี แตงโม ภัทรธิดา.บอกรักทักษิณ จากเพจพลังใหม่ไทยแลนด์

ทันทีที่ผมทราบข่าง การบอกรักครอบครัวคุณทักษิณของน้องแตงโม แว๊บแรกที่คิดคือ "ดาราตีสแตกอีกราย" ผมต้องเข้าไปอ่านข้อความของเธอถึง 3 รอบ ผมจึงได้เข้าถึงในสิ่งที่เธอกำลังบอก

.....ความหมายที่เธอพูด บ่งบอกว่า เธอเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น เธอเริ่มรู้จัก "ความรักที่แท้จริง" ของพระเจ้ามากขึ้น เธอรู้จักให้อภัยต่อผู้ที่เธอเคยเกลียดชัง

ความเกลียดชัง ไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขในชีวิต ความรักต่างหาก ที่ทำให้เธอมองเห็นแสงสว่างของชีวิต

.....เธอบอกว่า "เราต่อต้านคุณทักษิณได้ แต่เราเกลียดชังเขาไม่ได้" นั่นบ่งบอกว่า เธอได้พัฒนาจิตใจ จนเข้าใจความรักอย่างแท้จริงของพระเจ้า

.....ถ้าคนใน "ครอบครัวของคุณทักษิณ" ได้อ่านบทความนี้ของเธอ พวกคุณก็จะมองเห็นถึงความหมายในความรักของเธอ

ยิ่งถ้าคุณได้อ่านบทความตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ คุณจะเข้าใจได้ทันทีว่า มันคือการสั่งสอนทักษิณและตระกูลชินล้วนๆ เธอแยบคายที่สุด

ไม่มีประโยคไหนที่เธอบอกว่าเธอเคย เข้าใจในตัวทักษิณ "ผิด" เลย..... เธอกำลัง "แผ่เมตตา" ทักษินเรื่องความรัก ที่ควรมีต่อประเทศชาติต่างหาก

.....คุณ (ทักษิณ)ต่อต้านในสิ่งที่คุณคิดว่าไม่เป็นธรรมในประเทศนี้ได้ แต่คุณเกลียดชังประเทศนี้ไม่ได้

.....เช่นกัน พวกเราต่อต้านความชั่วร้ายของทักษิณได้ แต่เราเกลียดชังเขาไม่ได้ในความหมายของพระผู้เป็นเจ้า

เพราะเราต่อต้านที่"ความชั่ว" ของคน ...........เราไม่ได้ต่อต้าน "คน" ด้วยกัน ...... ส่วนคนที่ทำผิด กฏหมายก็ต้องเป็นกฏหมาย

....ใครบอก "คนสวย" มักไม่มีสมอง แต่ผู้หญิงคนนี้ ทั้งสวยทั้งมีสมองที่สุดแสนลึกซึ้ง

.......ผมชักหลงรักผู้หญิงคนนี้เข้าแล้วสิ ทำไงดี?

/////////////// ตามลิ้งค์นี้เลยครับ http://news.sanook.com/1748713/
อัพโหลดจากมือถือ · วันอาทิตย์ เวลา 16:4

ลำดับเหตุการณ์ ที่บ้านนามูล ดูนสาด 16กพ2558

นามูล-ดูนสาด
2 ชม. ·
ลำดับเหตุการณ์วันที่ 16 ก พ 58 การขนอุปกรณ์ครั้งใหญ่

6.40 น. รถเจ้าหน้าที่ตำรวจเคลื่อนตัวเข้ามาในพื้นที่บ้านนามูล เป็นสัญญาณว่ากำลังจะมีการขนอุปกรณ์ขุดเจาะปิโตรเลียมเข้ามาในพื้นที่

7.30 น. กลุ่มคนคลุมผ้าผิดบังใบหน้า ประมาณ 30 คน เดินมุ่งหน้ามายังสี่แยกจุดที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติบ้านนามูล ดูนสาด รวมตัวกัน ทำให้ชาวบ้านกังวลถึงความปลอดภัย จึงยังไม่กล้านั่งสวดมนต์ที่ถนน ต่อมามีรถกระบะของเจ้าหน้าที่ 2 คัน ขับมาจอดจุดที่ชาวบ้านชุมนุมคัดค้าน และจัดแถวสองข้างทางกันชาวบ้านออกจากถนน ต่อมามีรถของกรมการปกครองมี รอง ผอ.กอ.รมน. ปลัดจังหวัดขอนแก่น นายอำเภอกระนวน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้ามาพูดคุยกับชาวบ้านให้อยู่ในความสงบ ถึงจะมีการขนอุปกรณ์เข้าไปก็ยังไม่ขุดเจาะตอนนี้ เมื่อรถขนอุปกรณ์เคลื่อนเข้ามากองกำลังตำรวจ กองกำลังควบคุมฝูงชน และอาสาสมัครป้องกันภัย(อส.) ก็คล้องแขนเข้ามายืนเรียงแถวเต็มทั้งสองข้างถนนประมาณเกือบ 200 คน กั้นชาวบ้านให้ออกจากถนน เพื่อให้ขบวนรถขนอุปกรณ์เครื่องจักรขุดเจาะผ่านเข้าไปอย่างสะดวก ท่ามกลางเสียงสวดมนต์ เสียงร้องขอความเห็นใจ บ้างก็ก่นด่าด้วยความคับแค้นใจ ที่ถูกกดขี่ บังคับด้วยกำลังคน ทั้งที่ไม่ยินยอม แต่ก็ไม่อาจต้านทานกองกำลังของรัฐที่มาคุ้มครองกลุ่มทุน

13.00 น. ชาวบ้านทำพิธีฌาปนกิจหุ่นจำลองเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กระทำการไม่เป็นธรรมใช้กองกำลัง อำนาจ ทรัพยากรของรัฐสนับสนุนกลุ่มทุนกดขี่ชาวบ้าน ก่อนจะอ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนคัดค้าน และประณามหน่วยงานภาครัฐ จากนั้น ก็ร้องเพลง เจาะใจดงมูล ร่วมกัน สร้างพลังใจให้กัน

14.47 น. ขบวนรถขนอุปกรณ์กลับออกมาจาก หลุมเจาะ ดงมูล 5 เพื่อไปขนอุปกรณ์รอบใหม่คาดว่าจะถูกเก็บไว้ที่ค่ายเปรมติณสูลานนท์ ก่อนจะขนเข้ามาในวันพรุ่งนี้

‪#‎สงครามแย่งชิงทรัพยากรจากชุม
(from ONE Browser)

มะเร็ง....เพชรฆาตคร่าชีวิตมนุษย์ รู้ไหม...

มะเร็ง....เพชรฆาตคร่าชีวิตมนุษย์ รู้ไหม...
คนไทยเสียชีวิตด้วยมะเร็งเฉลียวันละ 156 คน (สถิติปี 2552)
ทั่วโลกมีคนเสียชีวิตด้วยมะเร็งใน 6 วินาที 1 คน หรือ 14,400 คนต่อวัน
มะเร็งหลายชนิดสามารถป้องกันได้ด้วยการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีและหลีกเลี่ยง ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ดังต่อไปนี้
๑. รักษาน้ำหนักตัวอย่าให้เกินหรือเป็นโรคอ้วน ด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร พบว่าคน อ้วนมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งมากกว่าคนที่มีน้ำหนักปกติ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น
๒. หมั่นออกกำลังกายและผ่อนคลายความ เครียด เช่น เดินเร็ว ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ โยคะ รำมวยจีน เป็นต้น วันละ ๓๐ นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ ๕ วัน
๓. ไม่สูบบุหรี่ บุหรี่มีสารก่อมะเร็ง ทำให้เกิดมะเร็งได้หลายชนิด ที่สำคัญได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งช่องปาก มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่
๔. ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์อาจ ทำให้เกิดมะเร็งช่องปาก มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม
๕. หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง ได้แก่ เนื้อสัตว์ปิ้ง ย่าง รมควัน หมักดอง เนื้อเค็ม อาหารที่ปนเปื้อนเชื้อราอะฟลาท็อกซิน (เช่น ถั่วลิสงป่น พริกป่น เมล็ดธัญพืชที่ขึ้นรา)
๖. ลดอาหารจำพวกไขมัน ควรกินน้อยกว่าร้อยละ ๓๐ ของปริมาณแคลอรีทั้งหมดที่ร่างกายได้รับ
๗. กินผัก ผลไม้ วันละ ๔๐๐-๘๐๐ กรัม โดยกินให้หลากชนิดและหลากสี และกินเมล็ดธัญพืชให้มากๆ ซึ่งสามารถป้องกันมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูก-หมาก มะเร็งปอด เป็นต้น
๘. ลดหรืองดการกินเนื้อแดง หรือเนื้อสัตว์ใหญ่ (ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู) ควรกินอาหารโปรตีนจากปลา ถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง (เต้าหู้) แทน
๙. หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด ถ้าจำเป็นต้องออก กลางแดด ควรทายากันแดด รังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดอาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
๑๐. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย รวมทั้งรู้จักใช้ถุงยางอนามัยป้องกันในการมีเพศสัมพันธ์ กับกลุ่มเสี่ยง (เช่น กับบุคคลที่ไม่ใช่คู่สามีหรือภรรยา หญิงบริการ) เนื่องเพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูก
๑๑. หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมาก พลู จุกยาฉุน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งช่องปาก
๑๒. หลีกเลี่ยงการกินปลาน้ำจืดแบบดิบๆ หรือสุกๆ ดิบๆ อาจทำให้เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งเซลล์ท่อน้ำดี (มะเร็งตับ)
๑๓. ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งตับ (นิยมฉีด ๓ เข็ม ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ ๖ เดือน)
๑๔. ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวี ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก (นิยมฉีด ๓ เข็มในเด็กหญิงอายุ ๑๑-๑๒ ปี หรือในวัยก่อนมีเพศสัมพันธ์
๑๕. หากมีอาการปวดท้องโรคกระเพาะอาหารที่เกิดจากแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น จากการติดเชื้อเอชไพโลไร ควรให้แพทย์รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ เพื่อกำจัดเชื้อชนิดนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งกระเพาะอาหาร
อย่างไรก็ตาม แม้จะปฏิบัติตัวดังกล่าวเป็นอย่างดีแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดจากมะเร็งได้เด็ดขาด เนื่องเพราะมะเร็งยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ที่ยังไม่ทราบ หรือจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ถึงแม้การสูบบุหรี่จะสามารถป้องกันมะเร็งปอดได้เป็นส่วนใหญ่ แต่บางครั้งก็อาจพบว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่กลายเป็นมะเร็งปอดก็ได้ (ซึ่งมักเป็นชนิดที่ไม่มีความสัมพันธ์กับบุหรี่)
ดังนั้น จึงควรมีการตรวจคัดกรองมะเร็งระยะแรก เช่น การตรวจเต้านมด้วยตนเองเดือนละครั้ง และให้แพทย์ตรวจเต้านม (รวมทั้งการถ่ายภาพรังสีเต้านม) เมื่อมีอายุมากกว่า ๔๐ ปี การตรวจมะเร็งปากมดลูก (pap smear) การส่องกล้องตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่ การเจาะเลือดตรวจกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติโรคมะเร็งในครอบครัว ก็ควรจะหมั่นปรึกษาแพทย์ในการป้องกันมะเร็งและตรวจกรองโรคมะเร็งตั้งแต่ระยะแรก
ขอขอบคุณ หมอชาวบ้าน

ฅนของแผ่นดิน : อิเล็กทรอนิกส์ยืดได้

ฅนของแผ่นดิน : อิเล็กทรอนิกส์ยืดได้
สารคดีแนวคิดสร้างสรรค์ จัดทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จ­พระเจ้าอยู่หัว
"การพบกันของ 84 เจ้าความรู้ กับ 84 เจ้าหนูช่างสงสัย"
จัดทำโดย ชมรมผู้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดล
https://www.youtube.com/watch?v=9F0rmJ2R_EE



(๓๕) "อุ่นกาย อุ่นใจ" : สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร

(๓๕) "อุ่นกาย อุ่นใจ" : สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร
สารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระ?บรมราชินีนาถ ๘๐ พรรษา ชุดพระเมตตาดั่งสายธาร ตอนที่ี ๓๕ อุ่นกาย อุ่นใจ

เมื่อวันศุกร์ที่แล้วไปวัดพระแก้ว ทำพิธีสาบานตน ตอนไหว้พระสยามเทวาธิราชนี้ขนลุกเลยครับ 7 วัน ติดดาว เป็นว่าที่ ร.ต.ต. ซะที่ ตำรวจและประชาชน จะแยกจากกันไม่ได้ ข้างหน้าคืองาน คือภารกิจ คือประเทศชาติ ข้างๆ คือลูกน้อง ที่ฝากชีวิตไว้กับเรา ข้างหลังคือครอบครัวและคนที่เรารัก ทุกคนมาที่นี่เพราะที่นี่คือผืนแผ่นดินไทย?ที่เราจะไม่ยอมเสียให้ใครแน่นอน ข่าวร้ายเกี่ยวกับเครื่องบินอีกแล้ว ทุกคนมีครอบครัว เขาทิ้งครอบครัวไว้ข้างหลัง พวกเขาทำหน้าที่ในวินาทีสุดท้าย ผมไม่ได้เก่ง ผมไม่ได้เจ๋งเป้ง ผมก็แค่รักประเทศไทย เอาผ้าใบมาปูทำหลังคา ผนังก็ผ้าใบ เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมน้อยๆ ของผู้ชายคนหนึ่ง เพื่อดูแลพื้นที่กว้างใหญ่ เพื่อดูแลคนไทยให้ได้หลับนอน มุ้ง ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัวของตี้เป็นของที่สมเด็จพระนางเจ?้าพระบรมราชินีนาถทรงพระราชทานให้ อุ่นทั้งกาย...อุ่นทั้งใจครับ
บันทึกจาก หมวดตี้ ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ เสียชีวิตจากการถูกลอบโจมตีที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
PS เย็นศิระ เพราะพระบริบาล
https://www.youtube.com/watch?v=WROvKhK9oGc



วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อย่าใส่กล้วยหอมไว้ในตู้เย็นเฉยๆนะคะ ...

(Banana)(Banana)(Banana)(Banana)(Banana)(Banana)(Banana)

เรื่องกล้วยหอม
อย่าใส่กล้วยหอมไว้ในตู้เย็นเฉยๆนะครับ
หลังจากอ่านบทความนี้จบ....ท่านจะมองกล้วยหอมในอีกแง่มุมหนึ่งทันที
กล้วยหอมมีสารน้ำตาลอยู่ 3 ชนิดคือ ซุคโคส ฟรุคโตสและกลูโคส
(sucrose, fructose and glucose) รวมทั้งเส้นใยอาหาร
มันจะให้พลังงานแก่ร่างกายพร้อมนำไปใช้ทันทีเลยครับ
เขาวิจัยมาแล้วว่ากล้วยหอม 2 ใบให้พลังงานเพียงพอให้เราทำงานถึง 90 นาที
ไม่ต้องสงสัยเลยนะครับ ..นักกีฬาระดับโลกถึงชอบกินกล้วยหอมกันนัก
(เคยเห็นในสนามเทนนิส...พอพักเบรคบางคนหยิบกล้วยหอม มากัดกินสัก 2-3 คำ)
ยังไม่หมดนะ....เจ้ากล้วยยังมีคุณอนันต์
ป้องกันโรคภัยและภาวะต่าง ๆของร่างกายได้อีกด้วย...มาดูกันครับ
ความเศร้าซึม
จากการสำรวจและวิจัยไต่ถามพร้อมสุ่มตัวอย่างจากคนไข้ ที่ป่วยเป็นโรคเศร้าซีม
พบว่าส่วนใหญ่จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้กินกล้วยหอม
เพราะว่ามัน tryptophan ซึ่งเป็นกรดอะมิโนโปรตีนชนิดหนึ่ง
ซึ่งร่างกายสามารถแปลงเป็น serotonin
สารกระตุ้นที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดใสและมีความสุขมากยิ่งขึ้น
pms (premenstrual syndrome)
สำหรับสุภาพสตรีแล้วก่อนที่จะมีประจำเดือน อารมณ์จะหงุดหงิดง่าย
ไม่อยู่กับร่องรอยและก่อให้เกิดสภาวะต่อร่างกาย..เช่ นปวดท้อง ปวดหัว...ฯลฯ
รีบกินกล้วยหอมซะดี ๆ.....ยาแก้ปวดลืมไปได้เลย...
มันสามารถป้องกันได้นะจ๊ะ........
โรคโลหิตจาง (Anemia)
ธาตุเหล็กในกล้วยหอมสามารถที่จะกระตุ้นร่างกายให้ผลิ ต Hemoglobin (ฮีโมโกลบิน)
ในกระแสโลหิตช่วยหยุดยั้งภาวะโลหิตจางได้
แต่คงไม่ช่วยแก้โรคทรัพย์จางได้หรอกนะ....ฮ่า...
(โรคนี้ผมเป็นบ่อย ๆ.....หุ...หุ....)
ความดันโลหิต (Blood Pressure)
กล้วยหอมมีเกลือโปแตสเซียมเหลืองอยู่เยอะ
เป็นตัวช่วยความดันเลือดจนกระทั่ง US Food and Drug Administration
อนุมัติให้กล้วยหอมยอดผลไม้มีส่วนช่วยลดภาวะความเสี่ ยงความดันได้จริง
เสริมสร้างพลังสมอง (Brain Power)
ที่อังกฤษในแค้วน Middlesex มีนักเรียนจำนวน 200 คนจาก Twickenham school
อ้างว่าพวกเขาสอบผ่านเพราะได้กิตกล้วยหอมเป็นอาหารเช้า
รวมทั้งกินอีกนิดหน่อยในตอนมื้อเที่ยงเพื่อทำให้สมอง สดชื่น
เขาได้วิจัยพบว่าโปแตสเซียมในกล้วยช่วยนักเรียนให้ตื่นตัวอยู่เสมอ
อาการท้องผูก (Constipation)
เส้นใยอาหารในกล้วยหอมช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี
เมาค้าง (Hangovers)
วิธีแก้เมาค้างที่เร็วและดีอีกวิธีหนึ่งก็คือกินกล้ว ยหอมปั่น banana milkshake
โดยการใส่น้ำผึ้งลงไปด้วย
(ฮ่า.....ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย......ต้องลองแน่ ๆ...)
ด้วยสรรพคุณของน้ำผึ้งและสารวิตามินในกล้วยจะช่วยให้ ปรับระดับน้ำตาลในเส้นเลือด
และทำให้กระเพาะอาหารอยู่ในสภาวะที่พร้อมทำงานได้เร็ วขึ้น......
จุกเสียดแน่นท้อง (Heartburn)
กล้วยหอมมีสารลดกรดตามธรรมชาติอยู่
ดังนั้นการกินกล้วยก็จะช่วยให้ลดอาการดังกล่าว
Morning Sickness
ไม่รู้ว่าจะแปลว่าอะไรดีนะ...อาการงี่เง่าตอนเช้าเช่ นไม่อยากจะตื่นบ้าง...ฯลฯ
ถ้าเรากินกล้วยหอมสักคำ 2 คำระหว่างมื้อเช้า เที่ยงหรือเย็น
มันจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและแก้อาการดังกล่าว ในตอนเช้าได้
บรรเทาแผลยุงกัด
ก่อนที่จะใช้ยาทา
ลองใช้เปลือกกล้วยหอมด้านในถูบริเวณที่ถูกยุงกัด
จะช่วยลดอาการคันหรือบวมได้.....คนส่วนใหญ่เป็นอย่าง นั้นจริง ๆ
ระบบประสาท (Nerves)
วิตามินบีที่มีอยู่มากในกล้วยหอมจะช่วยลดความเครียด. ...อ่อนล้าได้
อ้วนจากทำงานมากเกินไป
ที่สถาบันจิตวิทยาในออสเตรียได้ศึกษาและพบว่า
ความเครียดจากที่ทำงานทำให้คนกินช็อกโกแล็ตและพวกโปเตโต้ชิปส์มากเกินไป
ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น
จากที่กล่าวมาแล้วถ้ากินกล้วยหอมสักเล็ก ๆน้อย ๆประมาณทุก ๆ 2 ชม.
มันจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและลดการอยากกินของจุกจิก
แผลในลำไส้และกระเพาะอาหารรวมทั้งผิวหนังพุพองเป็นแผ ล (Ulcers)
สารและเส้นใยในกล้วยหอมช่วยให้การย่อยอาหารของลำไส้เ ล็กดีขึ้น
รวมทั้งกรดต่าง ๆที่มีอยู่ทำให้มีการเคลือบผิวของกระเพาะ
ลดการเป็นแผลในกระเพาะได้
ปรับระดับอุณหภูมิในร่างกาย (Temperature Control)
ในประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรที่มีอากาศร้อน
ผู้คนชอบกินกล้วยหอมดับร้อนกันครับและเชื่อว่ามันเป็ นผลไม้เย็นฉ่ำชนิดหนึ่ง
อย่างเช่นในไทยมีความเชื่อกันว่าผู้หญิงท้องควรกินกล้วยหอมเป็นประจำ
เพื่อเด็กที่เกิดมาจะมีอารมณ์เยือกเย็นเช่นดังป๋าคูล เป็นต้น...... so cool....
ลดความอยากสูบบุหรี่
สำหรับท่านที่ต้องการเลิกบุหรี่
กล้วยหอมอาจช่วยท่านได้เพราะมีวิตามิน B6, B12 โปแตสเซียมและแม็กนีเซียม
ที่มีอยู่มากจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วจากการขาดสา รนิโคติน

(Banana)(Banana)(Banana)(Banana)(Banana)(Banana)(Banana)