++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2548

เจาะตลาดวิชา"เพศศาสตร์เสรี" สื่อเรียนรักยุคสังคมไทยไฮเทค

เสาะช่องทางเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาของคนไทยปัจจุบัน พบเปิด
กว้างสำหรับหญิงชายทุกวัยในยุคสื่อไร้พรมแดน เริ่มจากคอลัมน์
ปรึกษาปัญหาทางเพศตามหน้าหนังสือพิมพ์ รายการโทรทัศน์
ไปจนถึง ฮอตไลน์ สายด่วน ที่สามารถโต้ตอบกันได้คำต่อคำ ล่าสุดมีช่องทางใหม่
ใช้สื่อออนไลน์ให้ทั้งคำปรึกษาและความรู้เรื่องเพศในทุกแง่มุม
ยังมีคนไทยอีกจำนวนมากทั้งชายและหญิงที่มีข้อข้องใจ เพราะ
ขาด ความรู้ในเรื่องเพศศึกษาที่มีความหมายครอบคลุม ตั้งแต่เรื่องสรีระ
ของชายหญิง ระบบการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย โรคภัยไข้เจ็บอัน
เกี่ยวเนื่องกับเรื่องเพศ ทัศนคติต่อเรื่องเพศ ตลอดจนแง่มุมต่างๆ
ของ การมีเพศสัมพันธ์
ซึ่งหากเป็นเมื่อกว่า 10 ปีก่อน คงเป็นเรื่องยากที่จะหาทางออกให้
กับคนที่มีปัญหาเหล่านี้ เพราะสังคมไทยในยุคนั้นยังมีค่านิยมในการซ่อน
เร้นเรื่องเพศอยู่มาก ต่างจากปัจจุบันที่วัฒนธรรมตะวันตกแผ่ขยายเข้ามา
มีอิทธิพลต่อวิธีคิดและวิถีชีวิตของคนไทยมาก และมีสื่อต่างๆ ที่ออกมา
ตอบสนองความต้องการเรียนรู้ จนทำให้การแสดงออกซึ่งความอยากรู้
ในเรื่องเพศเป็นสิ่งที่ไม่น่าละอายอีกต่อไป

แหล่งเรียนรู้เรื่องเพศยอด นิยม
แม้ว่าคนไทยจะได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับเพศศึกษามาตั้งแต่อยู่ในโรง
เรียน ทว่าส่วนใหญ่เป็นการเรียนรู้เรื่องสรีระและระบบของร่างกายมาก
กว่า ซึ่งไม่ได้สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถ่องแท้และครอบคลุมในเรื่องเพศ
ศึกษาที่ควรรู้ทั้งหมด ทำให้การให้ข้อมูลและคำแนะนำ จึงตกเป็นหน้าที่ของเพื่อน และ
สื่อซึ่งส่วนใหญ่ได้ชื่อว่าเป็นสื่อลามกในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ
เริงรมย์ นิตยสารปลุกใจเสือป่า หรือแม้แต่วิดีโอเรทอาร์เรทเอ็กซ์ ซึ่ง
ส่วนใหญ่สร้าง........

แหล่งเรียนรู้เรื่องเพศยอดนิยม

แม้ว่าคนไทยจะได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับเพศศึกษามาตั้งแต่อยู่ในโรง
เรียน ทว่าส่วนใหญ่เป็นการเรียนรู้เรื่องสรีระและระบบของร่างกายมาก
กว่า ซึ่งไม่ได้สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถ่องแท้และครอบคลุ
มในเรื่องเพศ ศึกษาที่ควรรู้ทั้งหมดทำให้การให้ข้อมูลและคำแนะนำ จึงตกเป็นหน้าที่ของเพื่อน และ
สื่อซึ่งส่วนใหญ่ได้ชื่อว่าเป็นสื่อลามกในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ
เริงรมย์ นิตยสารปลุกใจเสือป่า หรือแม้แต่วิดีโอเรทอาร์เรทเอ็กซ์ ซึ่ง
ส่วนใหญ่สร้างความรู้ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง อันก่อให้เกิดค่านิยมที่ผิด
ตลอดจนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในเรื่องเพศสัมพันธ์
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันได้มีสื่อที่ให้ความรู้ด้านเพศศึกษาอย่างถูกต้อง
โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพิ่มจำนวน มากขึ้น โดยที่เห็นได้ชัดและมีมา
เป็นเวลานานพอสมควร ได้แก่ คอลัมน์ตอบปัญหาทางเพศตามหน้า
หนังสือพิมพ์ ต่างๆ โดยคอลัมน์ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือ "เสพสมบ่มิสม" ของ น.พ.นพ
พร แห่งเดลินิวส์และทีมงาน ภายหลังจึงได้เกิดคอลัมน์ลักษณะนี้ใน
หนังสือพิมพ์อื่นๆ อีกหลายฉบับ ได้แก่ คอลัมน์ "เพลินใจ สบายกาย"
โดย หมอรุจน์ รมณีย์ คอลัมน์ "เสพสมอารมณ์หมาย" ในหนังสือพิมพ์บ้าน
เมือง โดย น.พ.นพพร ศรชัย และ คอลัมน์ "ปัญหา X วัย sexteen"
โดย มิสเอ็กซ์เปิร์ท เป็นต้น
ส่วนสื่อสิ่งพิมพ์อื่นที่ให้ความรู้เรื่องเพศ และได้รับความนิยมมาก ก็
คือ คอลัมน์ในนิตยสารต่างๆ ที่ปัจจุบันมักแบ่งเป็นหนังสือสำหรับผู้ชาย
และผู้หญิง ซึ่งก็จะมีพื้นที่สำหรับเซ็กซ์อยู่เกือบทุกเล่ม เช่น คอลัมน์ "sex"
ในหมวดสุขภาพของนิตยสารผู้หญิง คอลัมน์"sex and love" ในนิตยสาร
cosmopolitan เป็นต้น

ด้านรายการโทรทัศน์ที่ให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพและเพศสัมพันธ์
ก็เช่น รายการ"คลินิกรัก" ทางไอทีวี รายการ "ชูรัก ชูรส" ทางช่อง 3
และ รายการ "ฮอตไลน์สายสุขภาพ" ทางยูบีซีช่อง 8 ซึ่งรายการเหล่านี้มักออก
อากาศในช่วงดึก โดยนอกจากจะให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ
แล้ว ก็ยังให้ คำแนะนำเกี่ยวกับการสร้างความสุขและความรื่นรมย์ทาง
เพศในชีวิตคู่อีกด้วย

นอกจากนี้ก็ยังมีการให้คำปรึกษาผ่านทางโทรศัพท์หรือสายด่วนที่
ให้ความรู้โดยหน่วยงานต่างๆ เช่น โทร.590-2000 สายด่วนสุขภาพ
โดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งแบ่งเป็นหมวดต่างๆ และหมวดเพศศึกษา
ได้รับความสนใจมากที่สุด หรือ โทร.218-8434-5 ของศูนย์ให้คำ
ปรึกษาคุณภาพ ชีวิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเน้นการให้คำปรึกษา
ปัญหาทางเพศทาง โทรศัพท์ และยังบริการให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลโดย
เข้ามาติดต่อที่ศูนย์ โดยตรงด้วย รวมทั้งศูนย์ข้อมูลสุขภาพเพศชาย
โทร.635-1001 ซึ่งมีทั้งที่เป็นระบบอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง และสามารถ
โทรศัพท์คุยกับเจ้าหน้าที่ได้ในวันทำการ

เซ็กซ์ออนไลน์ยุคสื่อไร้พรมแดน
ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับร่วมกันว่า อินเทอร์เน็ต เป็นช่องทางในการ
เสาะหาความรู้ได้กว้างขวางและรวดเร็วที่สุด โดยของไทยเองก็มีเว็บไซต์
ต่างๆ ที่ให้คำปรึกษาและข้อแนะนำในเรื่องเพศศึกษาจำนวนมาก
และมี วิธีการเข้าถึงอย่างง่ายๆ คือการเข้าผ่านเว็บต่างๆ เช่น http://www.sanook.com , http://www.catcha.com , http://www.mweb.co.th , http://www.thaiseek.com เป็นต้น แล้วจึงเปิดเข้าไปในเว็บต่างๆ ที่ลิงค์อยู่ ด้วยการใช้คีย์เวิร์ดว่า" สุขภาพ" ก็จะปรากฏรายชื่อเว็บไซต์เกี่ยวกับสุขภาพมากมาย ก่อนที่จะ
เลือกหัวข้อที่เกี่ยวกับปัญหาทางเพศ หรือเพศศึกษาต่อไป
ส่วน เว็บไซต์ที่สามารถเปิดเข้า ไปเพื่อค้นหาความรู้เกี่ยวกับเรื่อง
เพศได้เลย ก็เช่น http://www.thaiclinic.com ซึ่งจะมีคอลัมน์ clinic online ที่
รวบ รวมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขามาคอยตอบคำถามที่ผู้อ่านส่ง
กระทู้เข้ามา
http://www.asmt.or.th ของชมรมวัยทองแห่งประเทศไทย เป็นอีกเว็บ
ไซต์หนึ่ง ที่ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพของคนวัยทองซึ่งรวมถึงปัญหาทาง
เพศด้วย http://www.worldmedic.com ก็ จะมีห้องปรึกษาปัญหาสุขภาพ
ตลอด 24 ชั่วโมงให้บริการอยู่ รวมทั้ง http://www.doctorx.ksc.net โดย
ดร. เอ็กซ์และคณะผู้เชี่ยวชาญที่ตอบปัญหาทางเพศในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
อย่างไรก็ดี การเปิดเว็บไซต์เหล่านี้เพื่อหาแหล่งให้คำปรึกษาทาง
ทางเพศ มีความล่อแหลมอยู่มาก เพราะชื่อของเว็บไซต์เหล่านี้มักไป
พ้องกับเว็บไซต์สื่อลามก ซึ่งมีอยู่กลาด เกลื่อนในโลกอินเทอร์เน็ต แต่
หากสามารถเลือกรับอย่างมีสติสัมปชัญญะ สื่อเพื่อการศึกษาเรื่องเพศ
เหล่านี้ก็นับว่ามีประโยชน์ยิ่งสำหรับทุกๆ คน

คำถามยอดนิยมของเซ็กซ์มีปัญหา
จากการประมวลปัญหาร้อยแปดที่มีการถามเข้ามามาก ทั้งการ
โทรศัพท์เข้ามายังศูนย์ให้คำปรึกษาและการส่งกระทู้คำถามเข้ามายังเว็บไซต์
ต่างๆ พบว่ามีความแตกต่างกันระหว่างคำถามซึ่งมาจากวัยรุ่นกับวัยผู้
ใหญ่ไปจนถึงผู้สูงอายุ โดยข้อมูลจากศูนย์ให้คำปรึกษา ปัญหาทางเพศของจุฬาฯ พบว่า
คำถาม จากวัยรุ่นที่ถามเข้ามาบ่อยมาก เช่น การสำเร็จความใคร่บ่อยๆ
จะส่งผลเสีย ต่อสุขภาพหรือไม่, การมีความต้องการ ทางเพศมากถือว่า
ผิดปกติหรือไม่, พรหมจรรย์มีความสำคัญสำหรับผู้ชายหรือไม่, ขนาด
อวัยวะเพศเล็กเป็นปัญหาหรือไม่, การคุมกำเนิดด้วย วิธีใดปลอดภัยที่
สุด, ประจำเดือนไม่มาหมายถึงการตั้งครรภ์ใช่หรือไม่ ฯลฯ
ส่วนข้อมูลจากศูน ย์สุขภาพเพศ ชาย ซึ่งลิงค์เข้ากับเว็บไซต์เพื่อสุข
ภาพ ต่างๆ พบว่า คำถามที่ฮิตสำหรับผู้ชาย คือ อาการหลั่งเร็วมีสาเหตุ
จากอะไร จะ รักษาได้อย่างไร, โรคหัวใจจะสามารถ มีเซ็กซ์ได้หรือไม่,
อวัยวะเพศไม่แข็งตัวเกิดจากสาเหตุอะไร รักษาได้อย่างไร เป็นต้น
สำหรับเพศหญิง ปัญหาส่วนใหญ่มักมีสาเหตุที่ปนกันระหว่างเรื่อง
ของสุขภาพ อารมณ์ความรู้สึก และความไม่เข้าใจในสรีระอันซับซ้อนของ
เพศตัวเอง เช่น มีอาการคันและตกขาว มากเป็นอันตรายไหม, ทำไม
ประจำเดือนมาไม่ปกติ, ช่องคลอดแห้งรู้สึกเจ็บเวลาร่วมเพศ, การตั้ง
ครรภ์ เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าคำถามเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ใครๆ ก็ตอบได้ทั้งหมด
ดังนั้น การมีแหล่งข้อมูลซึ่งน่าเชื่อถือได้ และสามารถให้ความรู้และคำแนะนำ
เหมาะสมแก่ประชาชนจึงเป็นเรื่องดี ซึ่งไม่เพียงแต่เด็กวัยรุ่นที่ริเรียนรู้
เรื่อง เพศจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว สำหรับ ผู้ใหญ่เองก็ต้องการที
่พึ่งพิงในฐานะที่ปรึกษาทางใจด้วย และหากคนทุกเพศทุกวัยหันมาสนใจศึกษาเรื่องเพศศึกษากันมาก
ขึ้นปัญหาสังคมด้านต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น อาทิ วัยรุ่นมีบุตรก่อนวัยอัน
ควร ปัญหาการหย่าร้าง ครอบครัวแตกสลาย เป็นต้น ก็คงจะลดน้อยลง
กว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น