++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556

"เสียดายที่ไม่ได้..."

"เสียดายที่ไม่ได้..."

หากมนุษย์ทุกคนทราบได้ว่าตนเองจะจากโลกนี้ไปในวันใด เราอาจไม่ต้องมาบอกกับตัวเองด้วยประโยคข้างต้นก็เป็นได้ เพราะเราคงมุ่งมั่นทำสิ่งที่ฝันให้ประสบความสำเร็จก่อนที่เราจะจากโลกนี้ไปเป็นแน่แท้ แต่เป็นที่น่าเสียดายกว่า ทั้ง ๆ ที่มนุษย์เราไม่มีความสามารถล่วงรู้อนาคตดังกล่าว และไม่ทราบเลยว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังมีคนหลายคน "ทิ้ง" ช่วงเวลาสำคัญ หรือคนสำคัญไปด้วยความประมาท กว่าจะมาตระหนักได้ถึงคุณค่าของสิ่งเหล่านั้น ก็เป็นเวลาที่ความตายมารออยู่เบื้องหน้าแล้ว

นั่นจึงเป็นที่มาของการรวบรวม "สิ่งที่ทรงคุณค่าในชีวิตมนุษย์" ที่คนส่วนหนึ่งทำตกหล่นไปในระหว่างช่วงเวลาที่พวกเขายังมีชีวิตโดยผู้รวบรวมเป็นนางพยาบาลชาวออสซี่ชื่อ Bronnie Ware เธอทำงานอยู่ในหวอดผู้ป่วยระยะสุดท้าย และเป็นผู้ให้กำลังใจแก่คนไข้เหล่านั้นก่อนที่ความตายจะมาพรากพวกเขาไป พร้อมกันนั้น เธอได้รวบรวมสิ่งที่ผู้ป่วยก่อนตายรู้สึกเสียดาย และเสียใจเอาไว้มากมายในบล็อกชื่อ Inspiration and Chaiเมื่อข้อมูลเหล่านั้นได้รับการสะสมเอาไว้มากขึ้น ๆ ก็นำไปสู่หนังสือชื่อ "The Top Five Regrets of the Dying" ในที่สุด ซึ่งวันนี้ ทีมงาน Life & Family ขอนำบางส่วนของประสบการณ์ล้ำค่าที่ไม่ควรพลาดทั้ง 5 ประการของผู้ที่จากโลกนี้ไปแล้วมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ

1. เสียดายที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ตนเองต้องการ

ความต้องการของคนอื่น ๆ ที่อยากให้ชีวิตคุณเป็นนั่น เป็นนี่ ทำอย่างโน้น ทำอย่างนี้ ประกอบอาชีพนั้น อาชีพนี้ ทำไมไม่รวยอย่างคนอื่นเขาบ้าง ฯลฯ ทั้งหมดล้วนทำให้คุณมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความคาดหวังของคนรอบข้าง แต่ในวันที่ความตายใกล้จะพรากคุณไปจากโลกนี้ คุณจะค้นพบความจริงว่า การใช้ชีวิตบนความคาดหวังของคนอื่นนั้นได้ทำให้คุณพลาดอะไรไปหลายอย่าง รวมถึงความฝันในใจส่วนลึกที่ไม่อาจทำให้มันเป็นจริง แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ตระหนักในข้อนี้ จนกระทั่งวันที่พวกเขาต้องจากโลกนี้ไป ที่น่าเสียใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือหลายคนที่เพิ่งตระหนักได้พบว่า ทั้งหมดนั้นล้วนขึ้นอยู่กับ "ตัวพวกเขาเอง" ว่าจะเลือกทำมันหรือไม่

2. ทำงานหนักเกินไปจนลืมชีวิตครอบครัว

คุณพ่อคุณแม่หลายท่านที่กำลังทำงานตัวเป็นเกลียวในขณะนี้อาจตอบว่าตนเองไม่สามารถทำงานให้น้อยลงได้ เพราะนั่นอาจหมายถึงชีวิตครอบครัวที่อาจพังลงถ้าหากขาดรายได้มาหล่อเลี้ยง แต่ในมุมของคนที่ใกล้จะจากโลกนี้ไป พวกเขากลับสะท้อนในสิ่งที่ตรงกันข้าม เมื่อพวกเขาพบว่า สิ่งสำคัญยิ่งที่พวกเขาพลาดไปขณะหันไปทุ่มเวลาส่วนใหญ่ให้กับงานก็คือ เวลาที่จะสร้างสายใยแห่งความผูกพันระหว่างคนในครอบครัว พ่อกับลูก สามีกับภรรยา

"คนไข้ที่ฉันดูแล และโดยมากจะเป็นผู้ชายรู้สึกเสียดายที่พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน ทำให้พลาดโอกาสที่จะสร้างเวลาดี ๆ ร่วมกับลูกและภรรยาในช่วงที่พวกเขายังเด็ก รวมถึงบางคนก็ไม่ได้ใส่ใจคู่สมรสของตนดีนัก" นางพยาบาลแวร์กล่าว พร้อมกันนี้เธอได้เผยด้วยว่า ในผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่เป็นผู้หญิงก็มีหลายคนเช่นกันที่รู้สึกเสียใจและเสียดาย แต่เนื่องจากว่าส่วนใหญ่ผู้สูงอายุเหล่านี้มีชีวิตในยุคที่ผู้หญิงยังเป็นช้างเท้าหลัง ไม่ได้แบกรับหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัวเหมือนเช่นในปัจจุบัน ความรู้สึกจึงไม่รุนแรงมากเท่าฝ่ายชาย

3. เสียใจที่ไม่ได้พูดในสิ่งที่รู้สึก

ความอดทน หรือความไม่กล้าพูดในสิ่งที่เราคิดออกไป บางครั้งอาจทำเพื่อไม่ต้องการให้ปัญหาลุกลามบานปลาย แต่คนส่วนใหญ่ที่เลือกจะอดทน สงบปากสงบคำนั้น บางคนต้องแบกรับผลแห่งความเจ็บปวดนั้นเอาไว้ชั่วชีวิต หลายคนจากโลกนี้ไปพร้อม ๆ กับความขมขื่น

4. เสียใจที่ไม่ได้ใช้เวลากับเพื่อนคุ้มค่า

บ่อยครั้งที่เรามักตระหนักถึงคุณค่าของเพื่อนดี ๆ ที่เรามีอยู่ก็ต่อเมื่อเพื่อนคนนั้นจากโลกนี้ไปแล้ว ซึ่งนั่นอาจหมายความว่า ต่อให้คุณอยากคุยกับเขา ปรับทุกข์ เล่าเรื่องในอดีต และหัวเราะกันอีกแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถมานั่งตรงหน้า มายิ้ม มาหัวเราะ หรือเห็นอกเห็นใจไปกับคุณได้อีกแล้ว และน่าเสียดายที่ช่วงเวลาสุดท้ายของคนกลุ่มนี้ก็มักไม่ได้พบเจอเพื่อน ๆ ในอดีตเช่นกัน

5. เสียใจที่ไม่ได้เลือกที่จะมี "ความสุข"

การเลือกที่จะมีความสุขในชีวิตเป็นสิ่งที่หลายคนไม่ทันได้ตระหนักในคุณค่าของมัน แม้ว่าคุณจะสามารถเลือกเองได้ก็ตาม ทำให้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกตัวอีกที วาระสุดท้ายในชีวิตก็มารออยู่เบื้องหน้าแล้ว สำหรับสาเหตุที่ทำให้มนุษย์เราไม่สามารถมีความสุขในชีวิตได้นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราติดอยู่กับรูปแบบการใช้ชีวิตเดิม ๆ หรือนิสัยเดิม ๆ อีกสาเหตุหนึ่งอาจมาจากความกลัวการเปลี่ยนแปลง นั่นจึงทำให้เราทนอยู่กับวิถีชีวิตแบบเดิม ๆ แล้วก็หลอกตัวเอง และหลอกคนอื่น ๆ ว่า ฉันพอใจกับชีวิตแบบนี้

แม้ความเสียใจทั้ง 5 ประการนี้จะเป็นประสบการณ์ที่น่าเศร้าที่เกิดขึ้นกับคนรุ่นหนึ่งที่จากโลกนี้ไปแล้ว แต่เราก็เชื่อว่าสารที่เขาพยายามส่งมาถึงคนในยุคปัจจุบันล้วนเป็นความหวังดี ไม่ต้องการให้คนรุ่นหลัง ต้องพลาดพลั้งตกลงไปในวงจรเดียวกัน แต่จะกระทบจิตใจคนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้มากน้อยเพียงใด เป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องนำกลับไปขบคิดกันให้มากนั่นเอง

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ25 เมษายน 2556 เวลา 23:55

    Hi, I do believe this is a great site. I stumbledupon it ;) I
    am going to revisit once again since I book-marked it.
    Money and freedom is the best way to change, may you be rich and continue
    to guide other people.

    my web site ... Air Jordan

    ตอบลบ