++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม :ลงบ่ได้

เรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์กับหลวงปู่ตื้อเป็นของคู่กัน
เพราะหลวงปู่ตื้อท่านมีอภิญญาทางด้านอิทธิวิธี จึงมีเรื่องพิศดารอยู่เสมอ
ไม่ว่าท่านจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
เพราะอิทธิฤทธิ์ของท่านนี้เอง จึงทำให้มีเรื่องราวอันสนุกสนาน
อันเป็นผลมาจากอิทธิฤทธิ์ของท่านอยู่เสมอ

เรื่องที่เกิดขึ้นบนรถโดยสารต่อไปนี้
ว่ากันว่าเป็นเรื่องที่ทำให้หลวงปู่ตื้อโด่งดัง ฮือฮา เกรียวกราว
เป็นที่กล่าวขาน เป็นที่รู้จักของผู้คน...

ในสมัยที่หลวงปู่ตื้อบุกเบิกสร้างวัดป่า
ท่านจะต้องเดินทางไปๆ มาๆ
ระหว่างอำเภอแม่แตงกับตัวเมืองเชียงใหม่
เพื่อทำธุระในการก่อสร้างวัดป่า
ท่านจึงต้องขึ้นรถโดยสารประจำทางอยู่บ่อยๆ

พนักงานและคนขับรถโดยสารประจำทางสายแม่แตง-เชียงใหม่
จึงมักจะชินตา กับภาพหลวงตาชราท่านหนึ่ง
เดินนำ มีผ้าขาว (นักปฏิบัติภาวนาที่นุ่งขาว ห่มขาว)
เดินตามต้อยๆ ขึ้นรถสายนี้อยู่เป็นประจำ

เมื่อหลวงปู่ตื้อขึ้นไปนั่งบนรถ
ท่านก็จะเอาขาขึ้นบนเบาะ นั่งขัดสมาธิ โดยไม่สนใจใคร
ปกติ เบาะนั่งของรถโดยสารแบบนี้
เบาะเดียวจะสามารถนั่งได้ถึง ๓-๔ คน
แต่หลวงปู่ตื้อท่านจะนั่งเหมาคนเดียว แบบไม่สนใจใครเลย
(ซึ่งท่านทำถูกต้องแล้ว เพราะถ้าฆราวาสมานั่งเสมอกับพระภิกษุ
อาจจะไม่เหมาะสม ท่านจึงนั่งโชว์ให้ดู)

วันหนึ่ง หลวงปู่ตื้อก็มาขึ้นรถโดยสารตามเคย
เมื่อหลวงปู่ทำอย่างเดิมเหมือนที่ท่านเคยทำมา
คือนั่งเอาขาขึ้นบนเบาะ หลับตา ทำสมาธิ ไม่สนใจใคร
กระเป๋ารถเมล์จำได้ จึงพูดขึ้นว่า

"ป้อหลวง ตุ๊เจ้า ตื่นๆๆ เอาตีนลงจากเบาะเน่อ"

"ลงบ่ได้"
หลวงปู่ตื้อตอบทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่

"เป็นอะหยัง จั๋งลงบ่ได้" กระเป๋ารถเมล์ถามขึ้น

"ลงบ่ได้ ลงบ่ได้"
หลวงปู่ตื้อยังคงตอบตามเดิม

กระเป๋ารถเมล์ชักจะเริ่มโมโห ไม่พอใจหลวงปู่ตื้อ
จึงกล่าวสบถเสียงดัง

"มันเป็นอะหยัง หือ !? จึงเอาลงบ่ได้!"
ว่าแล้วกระเป๋าคนนั้น ก็เอามือกระชากขาของหลวงปู่ตื้อลงมาจากเบาะอย่างแรง

ทันที่ที่เท้าของหลวงปู่ตื้อแตะลงพื้น
ก็พลันเกิดเสียงประหลาดขึ้น !!!

กลืด...ด....กลืด...ด....กลืด...ด....ฉึก !
เสียงเครื่องยนต์ดังกลืดๆ สักพักเครื่องยนต์ก็ดับ
เมื่อเครื่องยนต์ดับ รถโดยสารคันดังกล่าวก็หยุดกึก
ผู้โดยสารที่อยู่บนรถก็ถลาหัวทิ่ม คะมำไปข้างหน้า

หลวงปู่ตื้อพูดขึ้นมาทันที
"หลวงตาบอกแล้ว
ลงบ่ได้...ลงบ่ได้
เห็นบ๊อ !!!"

โชเฟอร์รถโดยสารพยายามสตาร์ทเครื่อง
ถึงตอนนี้ผู้โดยสารในรถต่างมองหน้ากัน
พูดพึมพำๆ ถึงหลวงปู่ตื้อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โชเฟอร์พยายามสตาร์ทรถอย่างหนัก
แต่ไม่ว่าสตาร์ทอย่างไร กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ก็ไม่สามารถสตาร์ทรถให้ติดได้

"ผู้ใด๋เอาตีนกูลง
มาเอาขึ้นคืนเด้อ !"
หลวงปู่ตื้อพูดขึ้นลอยๆ

กระเป๋ารถเมล์ต้นเหตุรีบกุลีกุจอ
ยกขาหลวงปู่ตื้อคืนที่เบาะอย่างรวดเร็ว
คราวนี้โชเฟอร์ลองสตาร์ทเครื่อง
ปรากฎว่า...สตาร์ทแค่ครั้งเดียว เครื่องยนต์ก็ติดอย่างเหลือเชื่อ !

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลวงปู่ตื้อก็โด่งดังเป็นที่โจษจันของชาวเชียงใหม่เป็นอย่างมาก
รถโดยสารทุกคันต่างก็รู้จักหลวงปู่ตื้อ
ไม่เพียงแต่จะให้ท่านนั่งตามสบาย ตามถนัดของท่านเท่านั้น
หากรถคันไหนได้หลวงปู่ตื้อไปนั่ง
จะถือกันว่า วันนี้เขาโชคดี มีโชคมีลาภแล้ว!

--
****************************************************************************
"ขอนอบน้อมแ่ด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
ผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น