++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

เรื่องคุณวีระ กับการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

โดย สันติ ตั้งรพีพากร 22 กันยายน 2552 14:42 น.
วันนี้ ขอพูดสองเรื่อง คือเรื่องคุณวีระ สมความคิดนำมวลชนบุกผามออีแดง
กับเรื่องภารกิจ "เปลี่ยนแปลงประเทศไทย" ของพวกเราชาวพันธมิตรฯ
แม้จะเป็นคนละเรื่องแต่ก็เชื่อมโยงกัน ตั้งแต่ตนจนปลาย
ทั้งการเข้าร่วมของมวลชนชาวพันธมิตรฯ
และผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองของขบวนการการเมืองภาคประชาชนที่นำ
โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

1. เรื่องคุณวีระ สมความคิดนำมวลชนบุกผามออีแดง

การยกขบวนมวลชนขึ้นผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
นำโดยคุณวีระ สมความคิด เมื่อวันที่ 19-20 กันยายน ที่ผ่านมา
โดยภาพรวมประสบความสำเร็จตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ นั่นคือ
สามารถประกาศเจตนารมณ์ของประชาชนชาวไทยให้โลกรู้
ว่าเขตแดนรอบปราสาทพระวิหารเป็นของประเทศไทย
มิอาจให้ใครอื่นเข้ายึดครองได้
ปัจจุบันมีกำลังทหารของเขมรและชาวเขมรตั้งประจำอยู่ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย
และเป็นชนวนเหตุแห่งกรณีพิพาทที่มีอยู่และที่จะตามมา
องค์การยูเนสโกไม่อาจเพิกเฉยด้วยการอนุมัติให้มีการพัฒนาพื้นที่รอบๆ
ประสาทพระวิหาร เพราะมันขัดกับหลักการที่องค์การยูเนสโกยึดถือปฏิบัติอยู่อย่างชัดเจน

เรื่องแบบนี้รัฐบาลไม่ทำ ประชาชนจึงต้องพากันลุกขึ้นมา "ทำเอง"

แม้ในทางปฏิบัติ การประกาศเจตนารมณ์ดังกล่าวจะกระทำโดยคุณวีระ
สมความคิดกับกลุ่มตัวแทนมวลชนเท่านั้น
อันเนื่องจากเหตุผลของฝ่ายทหารที่ประกาศกฎอัยการศึกในเขตอุทยานแห่งชาติผามอ
อีแดง แต่ผลที่เกิดขึ้น
คือทั่วโลกรับรู้เจตนารมณ์ของประชาชนชาวไทยผ่านสื่อของไทยและของต่างประเทศ
อย่างกว้างขวาง ย่อมเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จนี้ได้
ซึ่งมวลชนชาวไทยผู้รักและหวงแหนในอธิปไตยของชาติจะสามารถใช้เป็นหลักฐาน
สำหรับดำเนินการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ต่อไป โดยนัยก็คือ
เพื่อต่อต้านการแสวงประโยชน์ของกลุ่มนักการเมืองในสังกัดอำนาจการเมืองเก่า
ซึ่งยังมีแนวโน้มจะผลัดกันขึ้นมาใช้กรณีเขาพระวิหารต่อรองผลประโยชน์กับฝ่าย
เขมร

พอสรุปได้ว่า การเคลื่อนไหวมวลชนที่นำโดยคุณวีระ
สมความคิดครั้งนี้ อยู่ในกรอบการต่อสู้กับกลุ่มการเมืองเก่า
ทั้งที่เป็นรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน
เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อล้างการเมืองเก่า สร้างการเมืองใหม่
ในทางการเมืองจึงมีผลดีต่อขบวนการการเมืองภาคประชาชนที่นำโดยพันธมิตร
ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย "เรา" ทุกฝ่ายจะต้องให้การสนับสนุน

"เรา" ในที่นี้ ก็คือชาวพันธมิตรฯ ทุกผู้ทุกนาม ทุกเพศทุกวัย

ในเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม
ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม เป็นเรื่องที่คุณวีระ
สมความคิดกับกลุ่มแกนนำมวลชนที่นำการต่อสู้ในเรื่องนี้ต้องทำการสรุป
เพื่อให้ได้บทเรียนที่ถูกต้องทั้งด้านดีและด้านร้าย ด้านบวกและด้านลบ
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา ยกระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพการทำงาน
ในการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในวันข้างหน้า

ขณะที่ "เรา" ทุกฝ่ายจะต้องร่วมเก็บรับบทเรียนเหล่านี้
ศึกษาและทำความเข้าใจอย่างรอบด้าน เพื่อนำไปสู่การรับรู้ที่เป็นเอกภาพกัน
ในเรื่องผลดีผลเสียต่อการเคลื่อนไหวต่อสู้ของขบวนการการเมืองภาคประชาชนที่
นำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะล้างการเมืองเก่า
สร้างการเมืองใหม่

ส่วนเสียงวิจารณ์ก็ถือเป็นเรื่องปกติ
ยิ่งการโจมตีของบางฝ่ายที่จ้องทำลายภาพลักษณ์มวลชนผู้รักชาติ
โดยเฉพาะคือมวลชนชาวพันธมิตรฯ ด้วยแล้ว เราก็แทบจะห้ามเขาไม่ได้
และไม่จำเป็นต้องไปห้าม สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือ
นอกจากทำการตอบโต้กับการให้ร้ายป้ายสีบิดเบือนต่างๆ พอสมน้ำสมเนื้อแล้ว
จงหันหน้าเข้าหาพวกเรากันเอง แลกเปลี่ยนข้อมูล นำเสนอแนวคิด
และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน หากมีสิ่งใดเกินเลยไปก็ขอโทษและให้อภัยกัน

หลังจากนั้นทุกคนก็เร่งทำงานในหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด

เป็นนักรบผู้กล้าของมวลมหาประชาชนต่อไป

2. เรื่องภารกิจ "เปลี่ยนแปลง" ประเทศไทย

มาถึงวันนี้ คงไม่มีใครในหมู่ "เรา" ชาวพันธมิตรฯ
ที่ยังกังขาต่ออุดมการณ์การเมืองใหม่
และการเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองของขบวนการการเมืองภาคประชาชนที่นำโดย
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะสิ่งที่พวกเราชาวพันธมิตรฯ
ได้แสดงออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อสู้ 193 วันอันยิ่งใหญ่
ได้พิสูจน์ถึงจิตใจ อุดมการณ์ และท่วงทำนอง
ที่จะเป็นหลักประกันให้การต่อสู้ทางการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยครั้ง
นี้ สามารถดำเนินไปได้จนประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

ผลที่หวังก็คือ ประเทศไทยสามารถก้าวพ้นจากวงจร (อุบาทว์) เดิมๆ
เดินหน้าพัฒนาตนเองไปในทิศทางที่ดี ประเทศเจริญรุ่งเรือง
ประชาชนอยู่ดีมีสุขอย่างแท้จริง

ตามความเข้าใจของผม
ขบวนการการเมืองภาคประชาชนที่นำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เดินมาถูกทางแล้ว
ปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นสู่ความเป็นสถาบันการเมืองที่ทรงไว้ซึ่ง
"ปัจจัยกำหนด" อย่างชัดเจน ดังที่ได้นำเสนอมาแล้วหลายแง่หลายมุม

การขับเคลื่อนของขบวนการฯ ภาคประชาชนครั้งนี้
นับว่าเป็นความต่อเนื่องทางประวัติศาสตร์ ที่ประเทศไทยพยายาม "จูน"
ตัวเองเข้าสู่กระแสหลักของความเจริญรุ่งเรืองของมวลมนุษยชาติ เพียงแต่ว่า
ผู้กระทำการ "จูน" ในอดีตที่ผ่านมา นับตั้งแต่ พ.ศ. 2475
ยังไม่พร้อมทางด้านความคิด อยู่ในฐานะ "ผู้ถูกกระทำ" มากกว่าเป็น
"ผู้กระทำ"

ความเป็นผู้ถูกกระทำ หมายถึงความไม่พร้อมในทางความคิด
ขาดปัญญาที่จะใช้อำนาจให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน เช่น
คณะราษฎร์เมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองได้แล้ว กลับไม่สามารถบริหารอำนาจได้
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ รวบอำนาจได้แต่ใช้อำนาจไม่ถูกทาง
การต่อสู้ของนักเรียนนักศึกษาประชาชนเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516
ประชาชนไม่อาจกุมอำนาจได้
การต่อสู้กับคณะรสช.ของประชาชนในเหตุการณ์พฤษภาคม 2535
ไม่อาจสถาปนาอำนาจประชาชนได้ จนกระทั่งเมื่อมีรัฐบาลเสียงข้างมากในรัฐสภา
ผู้นำรัฐบาลอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ก็กลับใช้อำนาจสร้างความมั่งคั่งให้แก่ตนเองเป็นสำคัญ

ทุกกลุ่มใช้อำนาจในอดีตล้วนแต่ตกเป็น "ผู้ถูกกระทำ"
ไม่ทางใดทางหนึ่ง ทำให้การใช้อำนาจไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติและประชาชน

การใช้อำนาจอย่างขาดปัญญาเช่นนี้เอง
ที่ทำให้ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยต้องตกที่นั่งลำบาก วกวน
เวียนวนอยู่กับเรื่องไร้สาระ ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาส ไม่สามารถ "จูน"
ตัวเองเข้าสู่กระแสหลักของสายธารวิวัฒนาการของมวลมนุษยชาติ
ทั้งชาติมีแต่ความเจริญแบบเปลือกนอก ผิวเผิน
ชีวิตคนไทยถูกบ่อนเซาะทำลายทุกรูปแบบ จนแทบจะไม่เหลือความเป็นคนอยู่แล้ว

"อำนาจกำหนด" ในอดีต จึงมีลักษณะตรงกันคือใช้อำนาจไปในทางมิชอบ
ไม่เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง

ตรงกันข้าม "อำนาจประชาชน" ที่กำลังโตวันโตคืน
มุ่งก้าวไปสู่ความเป็น "อำนาจกำหนดใหม่" ต่อสู้เอาชนะ
และสถาปนาตนเองเหนืออำนาจกำหนดเก่า เป็นอำนาจที่ชี้นำโดยปัญญา
เมื่อได้อำนาจการบริหารประเทศ ก็จะแสดงบทบาทการใช้อำนาจอย่างเป็น
"ผู้กระทำ "ในทันทีทันใด

การ เมืองใหม่จึงหมายถึงการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในเชิงโครงสร้างอย่างแท้จริง
โดย "เรา" ชาวพันธมิตรฯ ทั้งหลายทั้งปวง จะช่วยกันทำให้ปรากฏเป็นจริง
แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในอดีต

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000110866

คุณวีระ สมความคิด อาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้

แต่คุณวีระ อาจนำแผ่นดินไทยกลับคืนมาให้ลูกหลานไทยได้

บนทางสายนี้คุณ....ไม่ได้เดินตามลำพัง คุณยังมีพี่น้องเอ๋ย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เด็กน้อย ตามทวงแผ่นดิน


ชื่นชมคุณวีระและพี่น้องทุกคน
แต่ไม่ได้ไปด้วยและติดตามข่าวด้วยความห่วงใยพี่น้องแนวหน้า
เห็นด้วยที่คุณวีระเป็นแกนนำการเคลื่อนไหวนี้ ถ้ามาบตพุต คุณสุทธิ
ถ้าอุดร คุณ.... ถ้า นคร คุณ.... ถ้าเกิดกระบวน
ผู้นำการต่อสู้หลากหลายเช่นนี้ ประเทศไทยจะเป็นของเรา
ดูคุณวีระในรายการคนในข่าว ห่วงสุขภาพคุณวีระมาก
ศรัทธา ท่านทุกคน
nokbkk2001@yahoo.com


พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่เคยทอดทิ้งกัน และผมเชื่อ
แม้แต่คิดก็ไม่เคย หากท่านใดได้เข้าร่วมชุมนุมต่อสู้ ใน 3 ฤดูกกาล ร้อน
ฝน หนาว 193 วัน ผ่าห่าฝน ลูกเห็บ แดด หนาว...ห่ากระสุน ระเบิดแก๊สน้ำตา
M79 -C4-TNT และอาวุธสงครามนานาชนิด ท่านจะรับรู้ถึงความรู้สึกนั้น
เช่นผมวันนี้ 193 วันเก็บไว้ในความทรงจำ คำว่า"พันธมิตร"
ได้ยับยั้งชั่งใจ สานดานดิบของผมมาตลอด+กับธรรมะ
ผมเคยคิดจะใช้ความรุนแรงเพียงลำพัง ไม่ให้คนอื่นรู้
..แต่ผมรู้ดี..พันธมิตรฯ ได้ข่มอารมณ์เบื้องต่ำ ข่มสันดานดิบผมไว้
ปกติผมค่อนจะมีระเบียบกับสังคม มีจิตสาธรณะระดับ หนึ่ง
มาวันนี้หลังจากเข้าร่ววมต่อสู้ใน 193 วัน เหตุการณ์ร้ายๆ 7
ตุลาอภิมหาโคดอำมหิต ฯลฯ การอยู่ร่วมกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน
ต่างคนต่างมาคนละทิศละทาง แต่พวกเรารู้สึกเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน
มีแต่ความเอเฟื้อ มีแต่ให้ มีแต่รอยยิ้ม
..ดื่มน้ำมั้ยค่ะ...ทานข้าวยังครับ..เหนื่อยมั้ยครับ ..
เจ็บมากมั้ยค่ะ..ฯลฯ..มาวันนี้แม้เศษกระดาษนิดเดียว จะอยู่ที่ใด
ในเมืองคนเยอะ ไม่มีคน ผมก็ไม่ทิ้ง ในที่ไม่ใช่ที่ทิ้ง
ผมจะเก็บใส่ท้ายรถบ้าง กะเป๋า ถุงพลาสติกฯลฯ มาทิ้งที่ทีควรทิ้ง
หรือมาทิ้งที่บ้าน....ผมจึงบอกได้เลยครัลว่า "พี่น้อง พันธมิตรฯ
"ไม่มีวันทอดทิ้งกัน.......ผมอยากให้สังคมไทย เป็นสังคมของพี่น้อง
พันธมิตรฯใน 193 วัน มากๆเลยครับ เป็นสังคมแห่งปัญญา เสมอภาค ภราดรภาพ
สังคมที่สมบูรณ์แบบครับ
หลงเฟย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น