"...รักเองช้ำเอง ทำอวดเก่งจะโทษใคร เขาขอความรักไหม? หัวใจให้เขาเอง
ช้ำใจไม่เป็นไรก็ตัวเราเอง ก็หัวใจเราให้เขาเอง คิดไปเอง โอ้ตัวเรา..."
คอเพลงของรายการรถไฟดนตรีของคุณระย้าซึ่งเป็นรายการวิทยุที่ทรงอิทธิพลอย่าง
ยิ่งในยุค 80 (ก่อนแกรมมี่) คงจำเพลงที่มีทำนองหวานๆ นิ่มๆ ซึ้งๆ
แต่เนื้อหานั้นต้องทำให้ใครที่กำลังคร่ำครวญในความรักต้องสะอึก...รักเองช้ำ
เอง!!
ผลงานดังกล่าวเป็นผลงานของชายเสียงดีที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองที่ชื่อ
"ชรัส เฟื่องอารมณ์" นักร้องชายคนที่ 3
ที่ผมยกให้เป็นต้นฉบับเสียงหล่อจากยุค 80 ถัดจากคุณ อ๊อด คีรีบูน และ
สุชาติ ชวางกูร
(มีคนถามว่าในอันดับของผมหลุดพี่แจ้ไปได้อย่างไร...ต้องตอบว่าไม่ได้หลุด
ครับ แต่พี่แจ้และแกรนด์เอ๊กซ์นั้นยกไปในฐานะตำนานของซูเปอร์กรุ๊ปของวงซึ่งไม่
ใช่แค่ยุค 80 แต่ต้องบอกว่าของประเทศไทยตลอดกาล
และคงได้รำลึกถึงวงนี้ซักครั้งแน่ๆ ครับ)
น้าแต๋ม
ชรัสนี่ถ้าผมจำไม่ผิดก็เป็นผลผลิตของกระบวนการประกวดนักร้องของสยามกลการ
และเพลงที่ใช้ในการประกวดก็คือเพลงผีเสื้อ
(ถ้าข้อมูลนี้ผิดก็ขออภัยด้วยครับ) แต่กระนั้นน้ำเสียงนุ่ม ทุ้ม
เป็นผู้ใหญ่และดูเยือกเย็นของแกก็ทำให้ท้ายที่สุดแล้วได้ออกอัลบั้มผีเสื้อ
ออกมา ด้วยกลิ่นอายของเพลงที่สามารถหาฟังได้ตามเลาจ์นไม่ว่าจะเป็น โซล
บลูแจ๊ซ บัลลาดนิ่งๆ ไปจนกระทั่งบอสซาโนวาก็มี
เป็นงานเพลงที่บอกว่าฟังแล้วเราจะนึกถึงยามค่ำคืน
แสงไฟสีเหลืองตัดกับฉากมืดๆ ที่ดูเย้ายวนเสมอ
เพลงของน้าแกไม่ใช่เพลงวัยรุ่นแน่ๆ
แต่ถ้าเผื่อเด็กวัยรุ่นที่มีโอกาสได้ฟังงานของแกเข้าซักครั้งหนึ่ง
ผมคิดว่าจะไม่มีใครกล้าลืมชื่อนี้ออกไปเลย
เพราะมันโดนและเนื้อหาของเพลงนั้นล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์ร่วมที่ทุกคน
ต้องเคยเจอหรือคิดถึงมันอยู่
เพลง-รักเองช้ำเอง/ศิลปิน-ชรัส เฟื่องอารมณ์
ภาพจาก www.okanation.net/blog/nity
มิติในเพลงรักของคุณน้าแต๋มมีหลากหลายครับ
มีตั้งแต่เพลงที่บอกว่า (เจือก)ไปรักเขาเองอย่าง 'รักเองช้ำเอง'
บ่งบอกถึงพลังแห่งความรักในเพลง 'อัศจรรย์รัก'
หรือพูดถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องพูดมากอย่าง 'รู้อยู่แก่ใจ'
ไปจนกระทั่งงานเพลงที่บรรยายถึงบรรยากาศที่จะทำให้เกิดความรักได้ดีอย่าง
"ทะเล"
ข้อที่น่าสนใจก็คือ
บทเพลงของแกไม่ใช่วนเวียนอยู่กับเรื่องของความรักอย่างเดียว เพลงที่กึ่งๆ
จะสะท้อนสังคม และสะท้อนภาวะจิตภายในใจของตัวเองนั้นก็มีอยู่มาก
ไม่ว่าจะเป็นเพลงผีเสื้อซึ่งเป็นเพลงเอกของแก(ที่เอาเด็กๆ มาร้อง)
ไปจนกระทั่งแมงปอ เพลงที่แฝงอารมณ์ขันอย่าง 'แม่ดอกกระถิน'
ที่นำอุปมาอุปมัยเรื่องกระถืนริมรั้วมาเขียนถึงสาวคนหนึ่ง หรือ 'ปะการัง'
ก็เป็นเพลงที่ยอดเยี่ยมในเชิงอุปมาอุปมัย
แต่ที่ผมชอบมากและเขียนขึ้นไปให้แกร้องเสมอยามที่ไปนั่งทานเบียร์สมัยทำงาน
ใหม่ๆ ก็คือ บทเพลงให้กำลังใจที่ยิ่งใหญ่มากที่มีชื่อว่า...
'เพราะฉะนั้น'
"...เพราะฉะนั้น ฉันจึงทรนง ในศักดิ์ของตนไม่สนใจใคร
ใครเล่าจะมาเห็นใจ อย่างจริงใจกว่าใจตนเอง..."<>
ความดีความชอบนอกจากตัวนักร้องที่ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้เยี่ยมยอดแล้ว
ตัวโปรดิวเซอร์และคนทำดนตรีอย่าง พนเทพ สุวรรณะบุณย์
ก็ต้องปรบมือให้ด้วยที่ทำออกมาได้เจ๋ง สำหรับงานเพลงป็อปโรแมนติดสะอาดๆ
นั้น ผมว่าคุณพนเทพถือเป็นโปรดิวเซอร์ระดับมหากาฬที่สังคมไทยไม่ได้ยกย่องแกเท่า
ที่ควรนะครับ
ที่น่าสนใจก็คือแม้ว่างานเพลงของชรัสจะไม่เคยพีคหรือขายได้หลักล้านหรือร้อง
กันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง
แต่สังคมเพลงบ้านเราก็ไม่เคยห่างหายไปจากนักร้องผู้นี้นะครับ
จากยุคที่ออกกับรถไฟดนตรีที่มีเพลงดีๆ มากมายนั้น ชรัสก็โดดไปอยู่กับ WEA
เรคคอร์ด ในปี 2528
(ปีนั้นป้าเบิร์ดพึ่งตั้งไข่กับอัลบั้มแรกฟากฟ้าทะเลฝัน)ในงานเพลง
มาลีวัลย์ กับ ชรัส แล้วพาให้ มาลีวัลย์ เจมีน่า เกิดขึ้นมาอีกคนด้วย
ถัดจากนั้นแกก็ไปเข้าแกรมมี่แล้วออกเพลงเจ๋งๆ อย่าง
'ทั้งรู้ก็รัก' มาอีก
น้าแต๋มน่าจะเป็นนักร้องไม่กี่คนที่ย้ายเข้าไปอยู่แกรมมี่แล้วยังคงแนวทาง
แบบเดิมๆ แบบที่มัดใจแฟนเก่าไว้ได้ ช่วงหลังๆ แกยังไปออกกับครีเอเทีย
ไปจนกระทั่งกับค่ายเล็กๆ ในยุคอินดี้ก็มีนะครับ แต่ผมไม่ได้ติดตามแล้ว
ปัจจุบันไม่แน่ใจว่าแกยังทำงานอยู่แบงค์กรุงเทพหรือเปล่า
ถ้ายังอยู่ก็น่าทึ่ง
เพราะถ้าจำไม่ผิดแกเป็นหนุ่มแบงค์คนแรกที่มาเป็นนักร้อง (คนที่สองคือ
ธงไชย แมคอินไตย์ ที่ทำงานอยู่แบงค์กสิกรไทย สาขาท่าพระ แล้วมาออกเทป)
สำหรับ คนที่คิดถึงงานเพลงเก่าๆ ของชรัสยังหาซื้อได้แถวคลองถม
เพราะ รถไฟดนตรียังคงปั๊มทำออกมาอยู่เรื่อยๆ ขณะที่หลายๆ
คนในยุคเดียวกับแกไม่มีขายเสียแล้ว สิ่งนี้น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า
แกมีแฟนอยู่แน่นหนามากๆ นะครับ
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000109839
ตอนประมาณม.ปลาย ผมอยู่ในยุค โลกสวยด้วยเพลง รถไฟดนตรี
ตอนนั้นคุณชรัสออกเทปชุดแรกกับวงแฟลช (ถ้าจำไม่ผิด) โอ่โห่แตกต่าง
และฉีกเพลงไทยในยุคนั้นเลย เรียกว่าโดน และเป็นทางเลือกเลย
ที่ผมนึกถึงอีกคนคือปานศักดิ์ รังสิพรามณ์มนัสกุล
(ขออภัยถ้าสะกดนามสกุลผิด) เพลงของคุณปานศักดิ์ น่าจะล้ำยุคไปกว่า 20
ปีถ้านับจากวันที่ออกชุดแรก ชุดไปทะเล วันก่อนเพิ่งจะเปิดฟัง
ซาวนด์ยังทันสมัย และเนื้อหายังเยี่ยมยอด มีความเป็นสากลมากๆ
น้องรุ่นหลังไปหามาฟังได้เลยครับ และคุณจะทึ่งกับบทเพลงเมื่อ 20
ปีก่อนในชุด ไปทะเล ถึงวันนี้ยังหาได้ยากในวงการเพลงสมัยนี้
ที่สามารถเทียบชั้นกับชุดไปทะเล
กับแกรนด์เอ็กซ์ผมเฉยๆนะ ไม่ชอบที่มักเอาเพลงเก่ามาทำใหม่
ทั้งๆที่มีฝีมือกันทั้งวง แต่โดนออนป้าจูงจมูก ลากถูจนเละ
pop up
มีความสุขยังไงไม่รู้กะเพลงยุคนั้น แม้บางเพลง บางคน
บางวงจะไม่ได้ชอบเป็นพิเศษแต่เอามาฟังวันนี้ก็ยังให้ความรู้สึกไพเราะ
มีความสุข คิดว่าเดี๋ยวนี้วัยรุ่นยุคนี้คงไม่มีโอกาสซึมซับ ซาบซึ้ง
กับความไพเราะของคำร้อง ทำนอง อะไรหยั่งงี้อีกแล้ว
ม่ายมีอารายหรอกมาร่วมแจมด้วยคนเพราะเพลงน้าแต๋มก็ชอบ
จำได้สมัยนั้นกะลังเอ็นทร้านซ์ ช่วงทุ่งครึ่งถึงสามทุ่มนี้ต้องฟัง
ททท.97.5 (เดี๋ยวนี้เป็น อสมท. ไปแล้ว)
แล้วสามทุ่มครึ่งถึงสองยามก็ฟังมิวสิคเทรนต่อ
(ก่อนได้ชื่อไทยว่ารถไฟดนตรี) เผลอแป๊บเดียวจริงๆผ่านมาเกือบสามสิบปีแล้ว
เฮ้อ...
คนร่วมสมัย
ทั้งรู้ก็รัก
รู้ๆเธอนั้นมีคู่ใจ ใยถึงไม่ลืมเธอ
เพราะด้วยเหตุใด ใจฉันยังพร่ำเพ้อ
เฝ้าละเมอไม่ลืม แม้วันคืนเดือนผ่าน
ใจฉันยังรำพึงถึงเธอ
สิ่งที่เคยสัมผัส ยังจำยึดมั่น ตราตรึง
ยังฝังอยู่กลางใจ
รู้ๆเธอนั้นมีเจ้าของ มองฉันได้แต่มอง
ถึงจะอย่างไร มันก็เป็นสุขใจ
สุขชั่วคราว ก็ยัง ยังดีเสียกว่า
ใจฉันต้องมลายเพราะตรม
หยุดระทม ขมขื่น
เก็บเอาความหวานชื่น จุนเจือ
ความรักแก่ดวงใจ
รักนั้นยังอยู่เต็มหัวใจ
ใยนะทำไมถึงคงอยู่
จิตใฝ่ฝันถึงเธอไม่ลืมเสียที
เต็มปรี่ด้วยความรักเธอ
รู้ๆใจฉันมันก็รู้ ยังฝืนสู้ความจริง
แม้จะห้ามใจ ใจฉันทำไม่รู้
เบื่อฝืนใจต้องยอม ให้ใจคิดถึงเธอ
ตัวฉันต้องยินยอมแพ้พ่าย
ปล่อยให้ใจฝันใฝ่ รักเธอไม่หน่าย
เต็มใจ ใจฉันพ่ายใจเธอ
รู้ๆ เราต้องห้ามใจ หยุดใจรักเธอ
สุดเจ็บใจ เราต้องแพ้พ่าย
ปล่อยใจรักเธอ
รู้ๆ ใจฉันมันก็รู้ ยังฝืนสู้ความจริง
แม้จะห้ามใจ ใจฉันทำไม่รู้
เบื่อฝืนใจ ต้องยอมให้ใจคิดถึงเธอ
ตัวฉันต้องยินยอมแพ้พ่าย
ปล่อยให้ใจฝันใฝ่ รักเธอไม่หน่าย
เต็มใจ ใจฉันพ่ายใจเธอ
the colossus
เพลงของน้าแต๋มที่ผมชอบมากที่สุดคือ ทะเล กะ อัศจรรย์รัก
ฟังคนเดียวตอนเหงาๆ ได้บรรยากาศเป็นที่สุด
ฟังมากว่า 25 ปี
ทุกวันนี้ก็ยังฟังอยู่
ชอบสุดๆๆๆๆๆ
แฟนน้าแต๋ม
ชรัส เฟื่องอารมณ์, อ๊อด คีรีบูน, สุชาติ ชวางกูร
เฮ้ย.. เรามันคอเดียวกันนี่หว่า ต่อพงษ์ :)
เพลงเดี๋ยวนี้ มันฟังแล้วไม่ทำให้เกิดแรงบัลดาลใจเหมือนแต่ก่อนเลย
ชรัส เป็นนักร้องที่เนื้อเสียงนุ่มนวล เชือดเชือนแบบนิ่มๆ ฟังทีไรก็อินทุกที
"ง่ายดาย" เป็นเพลงที่ผมชอบที่สุด ฟังทีไรได้กำลังใจทุกที
"คนไม่มีวาสนา" เพลงนี้เป็นเพลงที่ต้องเป็นชรัสร้องเท่านั้น
นักร้องที่ร้องได้ดีกว่าต้นฉบับ ผมว่าในโลกนี้ยังไม่มี (ขอเว่อร์หน่อยนึง)
"ค่ำนี้" เพลงคู่ที่บรรยายการแนบชิดระหว่างชายหญิง
ด้วยภาษา ได้อย่างไพเราะสวยงาม และวาบหวิวมักๆ
"คู่คิด" เพลงที่แจ่มใส อบอุ่นมักๆ
"ชีวิตไร้สังกัด" ดนตรีช่างไพเราะมักๆ
"เก่า..ก็ยังถูกใจ" เพลงที่มีดนตรีที่สนุกสนานเพียงไม่กี่เพลงของชรัส
แต่มีความหมายของเพลงที่อบอุ่นได้อย่างน่าประหลาด โดยเฉพาะท่อนฮุค
ที่ร้องว่า 'เหมือนใครบางคน'
"เหงา เหงา ก็เอามาฝาก" ฟังแล้วรู้สึกดี แต่ไม่รู้ว่าช่วยให้หายเหงา
หรือเหงามากขึ้น
"หลอกให้รัก" เป็นอีกเพลงที่เพราะมาก
"หลับตา" หวานซ้าาาาาา
"แรกรัก" เพลงประกอบโฆษณาโค๊ก ผมชอบดนตรีมักๆ
โค้กน่าจะเอามา cover ใหม่ ปรับดนตรีให้ rock ขึ้นอีกนิด ร่วมสมัยขึ้นอีกหน่อย
แล้วให้ Bodyslam ร้อง รับรองดังกระจาย ในยุคที่เครื่องดื่มน้ำดำ
กำลังตกต่ำเช่นทุกวันนี้
(แล้วถ้าช่วยปรับรสชาติให้เหมือนโค้กญี่ปุ่น ผมจะไม่กินเป๊ปซี่อีกเลย)
เพลงของชรัส ส่วนใหญ่อาจจะไม่หวือหวา ติดหู
แต่ผมจะ MP3 ของชรัสอยู่ 42 เพลงที่เอาไว้เปิดเวลาต้องขับรถทางไกล
ขอบอกว่า..ช่วยสร้างความเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี
แต่ผู้โดยสารผม หลับซะทุกที :)
ปล. อยากได้เพลง "หยาดเพชร" ที่สุชาติร้องในหนัง "เงิน เงิน เงิน"
เวอร์ชั่นของป๋าต๊อกมักๆ ตามหามาหลายปี ไม่ได้ซะที
เป็นเพลงที่ฟังแล้ว น้ำตาไหลพรากเลย
เห็นมี VCD หนังเรื่องนี้ออกมา เลยว่าจะ rip ออกมาจากหนัง
แต่ซื้อไม่ทันชาวบ้านเค้า Out of stock หาซื้อไม่ได้เลย T_T
ใครหาแหล่งได้ ช่วยแนะนำกันบ้างนะ
MoMA
ยุคสมัยเปลี่ยน ค่านิยมเปลี่ยน
เด็กสมัยก่อน(สมัยผมเป็นวัยรุ่น) ก็ฟังเพลงประเภทนี้
แต่สมัยตอนนั้น เพลงประเภทบ้าๆบอๆก็มีเหมือนสมัยนี้
ประเภทนิยมอยู่ในช่วงสั้นๆแล้วก็หายไป
แต่เพราะค่ายเพลงในยุคนั้นมองตลาดไปแนวทางเดียวกับคนฟังอย่างเราๆ
ก็เลยลงตัวกันไป เป็นส่วนใหญ่
แต่วันนี้ค่ายเพลง คนแต่งเนื้อ ทำนอง เรียบเรียง
ไม่ได้คิดไปทางเดียวกับคนยุคโน้นแล้ว
มันก็เลยรู้สึกขัดๆ อึดอัด เวลาฟังเพลงประเภทบ้าๆบอๆที่นิยมกันอยู่
แต่เราก็ไม่ควรคิดว่า อะไรผิดถูก
เนื่องจากความชอบ มาจากเหตุผลที่ต่างกัน
มันไม่ได้เป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์
ก็แค่นั้นแหละครับ
ผมที่ชอบนักร้องรุ่นเก่า วงดนตรีรุ่นเก่าๆหน่อย
เหตุผลหลักเลยคือ เรื่องการวางตัว การเป็นข่าวในทางดี
และเป็นห่วงภาพพจน์ ภาพลักษณ์ ค่อนข้างมาก
ส่วนที่รังเกียจ ก็คือ พวกนักร้อง ทั้งเก่าใหม่ ที่วางตัวไม่ดี
(ทั้งร้องดีเล่นดี และ ร้องไม่ดีเล่นไม่ดี)
!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น