++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2552

พื้นฐานเบื้องต้นของปรัชญาแพทย์ทิเบต

ปรัชญาแพทย์ทิเบตนั้น ได้รับอิทธิพลร่วม 3 ตระกูล
คือ 1. จากจีนในแง่ของปรัชญา หยิน-หยาง และธาตุทั้ง 5
2.จากอินเดียในแง่ของลัทธิตันตระได้รับวิชาอายุรเวทและสมุน
ไพร รวมทั้งหลักการพลังลมปราณจุดจักราของโยคะและโหราศาสตร์ และจากเอเชียกลางจากอิหร่าน เปอร์เซีย ตุรกี
โดยได้รับการติดต่อการค้าและคมนาคมผ่านเส้นทางสายไหมตั้งแต่อดีตกาล
ที่น่าสนใจก็คือ ทิเบตได้ รับเอาอารยธรรมของทั้งสามภาคภาษาและได้
พัฒนา อักขระภาษาเขียน พยัญชนะเป็นของตนเอง โดยอาศัยสันสกฤต
เป็นพื้นฐาน เนื่องจากในอดีต ชาวทิเบตอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมาโดยตลอด
คนทิเบตส่วนใหญ่จึงมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน และมีใจบุญ มีธรรมะและรักสงบ
การรักษาโรคจึงมุ่งการเพิ่มเสริมสุขภาพแนวอายุวัฒนะมากกว่าจะแก้โรค
เฉพาะการบำบัดมุ่ง นำ เอาธรรมะและการสร้างดุลยภาพทางจิตใจเป็น
แกนนำ

องค์ทะไลลามะที่5 ซังคายะ กัมโปเป็นประมุของค์สำคัญ
ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลแห่งแรก และโอเรียนแพทยศาสตร์สถาบันแรกในวัง
โปตสะในปี ค.ศ. 1696 โดยผนวกพิธีกรรมทางพุทธศาสนาและภาควิชาเปรียญของนักบวชสงฆ์
การรักษาโรคของแพทย์ทิเบตตั้งอยู่บนพื้นฐานของการฝึกจิต ฝึกสมาธิ
กรรมฐาน โดยให้ผู้ป่วยนั่งเพ่งรูปวาด จิตรกรรมเรียก ซองก้า ซึ่งเป็นภาพเขียนบนผืนผ้าใบ
เป็นเหมือนดั่งยันต์ คาถา และบทมนตร์ Mandala ที่ถือเป็นยารักษาใจ
ให้ตั้งอยู่บนความสงบและปล่อยวางไม่ฟุ้งซ่าน ภาพวาดซองก้ารูปองค์
พระพุทธเจ้าปางต่างๆ ล้วนเป็นเนื้อหาและแนวพุทธศาสนาและธรรมะ
จุดรวมสมาธิจิตมีธรรมะเป็นดั่งยาสมุนไพร ยาอายุวัฒนะ
ภาพวาดเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะสร้างความประทับใจให้แก่จิตใจส่วนลึก
ของชาวทิเบต ชาวโลกทั่วไปในยุคปัจจุบันที่มีโอกาสได้เห็นภาพวาดซอง
ก้าของทิเบตต่างนิยมชมชอบและถึงจุดเลื่อมใสกลายเป็นที่สนใจของชาว
ต่างชาติในยุคสังคม ปัจจุบันคุณสมบัติของหมอทิเบต
การเรียนการสอนให้คนเป็นหมอของชาวทิเบตใช้หลักการธรรมะและ
เมตตาธรรมเป็นหลัก พร้อมกับนำธรรมชาติของลักษณะนิสัยของสัตว์
ส ำคัญในปรัชญาจีนมาเปรียบเทียบการจะเป็นแพทย์ต้องผ่านการฝึกอบรม 14 ปี นักเรียนแพทย์ต้องเรียนรู้เรื่องการตรวจโรคแบบการจับชีพจร ความรู้พื้นฐานเรื่องพืชสมุนไพร การปรุงยา การรมยา การฝังเข็มแบบจีน แต่ทั้งหมดนี้แพทย์ต้องมีคุณสมบัติทางด้านมนุษยธรรม จิตใจดี มีเมตตา กรุณา และมีความจริงใจ และซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ โดยแพทย์ทิเบตทุกคนต้องยึดหลักพุทธศาสนาโดย
ต้องศึกษาคัมภีร์สำคัญขององค์พระไภสัชยคุรุอย่างลึกซึ้ง
ภาพเปรียบหมอประการแรกต้องมีสายตาที่แหลมคมสามารถแยกแยะ
อาการคนไข้เห็นอ่านได้อย่างทะลุปรุโปร่งดั่งนกเหยี่ยว อินทรี ที่สามารถ
อ่านธาตุภูมิโหงวเฮ้งของคนป่วยแต่ละคน ต่างอายุอาชีพ
อันดับต่อมาต้องมีความสุขุมเยือกเย็นและความอดทนดั่งลูกแกะ ที่สามารถรอเฝ้าดูอาการและสังเกตเป็นเวลานาน
คุณสมบัติอันดับสามคือ มีความตื่นตัวและไหวพริบเร็วดั่ง สุนัขจิ้งจอก
ในการที่จะฉลาดในการเขียนใบสั่งยาหรือปรุงยาสมุนไพรให้
ผู้ป่วยรับประทานจนกว่า จะหายทุเลาเป็นปกติ และสิ่งสำคัญสุดท้ายใน
การบำบัดรักษาคนป่วยที่มีอาการหนัก หมอต้องมีความกล้าหาญ และ
การตัดสินใจที่เด็ดขาด โดยไม่หวั่นเกรงต่อความเหนื่อยยากดั่งเช่น เสือ
หรือราชสีห์ คุณสมบัติที่สำคัญของพยาบาลของแพทย์ทิเบต การบรรยายคุณสมบัติพยาบาลด้วยภาพวาดซองก้าของทิเบตกล่าว
เปรียบเทียบการทำหน้าที่ช่วยรักษาพยาบาลว่า ควรเป็นทั้งเพื่อน พี่เลี้ยง
และผู้ช่วยแพทย์ในการดูแลคนไข้ลักษณะแรกคือ ต้องเป็นคนจิตใจสะอาด บริสุทธิ์
รวมทั้งมีกิริยา มารยาท คำพูดอ่อนหวาน ต่อมาควรมีพื้นฐานความรู้เรื่องสุขภาพโดยทั่วไป
และรอบรู้เรื่องสุขศึกษา เรื่องโภชนาการ เรื่องการนวด การปรุงอาหาร
การบ้านการเรือน ดั่งกุลสตรีผู้เสียสละ
และในที่สุด ภาพสตรีแบกสัมภาระอันเป็นหนังสือตำราคัมภีร์ ที่มีคุณค่า
ยิ่งแก่การศึกษาเพื่อก่อให้เกิดความรู้รอบตัวที่สามารถ ทำหน้าที่เป็น
พยาบาลที่ช่วยเสริมแบ่งเบาภาระของหมอได้เป็นอย่างดี
ร่างกายและจิตใจประกอบด้วยธาตุทั้ง 5 ทั้งกายและอารมณ์ของจิตใจนั้น มีพลังที่สัมพันธ์
เกี่ยวโยงและส่งถึงกันตามระดับของการปรับแปรรูปธาตุ
ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ หากธาตุในร่างกายได้รับ
การกลั่นกรองและพัฒนาให้ละเอียดโดยการฝึกสมาธิ
และโยคะแล้ว โรคภัยไข้เจ็บ และอาการผิดปกติทางอารมณ์ก็จะทุเลาลง
กลับสมดุล สาเหตุแห่งโรคและหนทางไปสู่การเจริญภาวนาสติ
ปัญญาตั้งอยู่บนรากฐานของพลังธรรมชาติเดียวกัน
ภาพแสดงธาตุสำคัญสองธาตุในกายคนเราคือ ธาตุไฟและธาตุน้ำ โดย
ใช้เปลวไฟสีแดงเปลวพุ่งสู่ เบื้องบนดั่งพลังหยางของแพทย์จีน
ส่วนธาตุน้ำมีรูปคนล้อมรอบด้วย สายน้ำสีน้ำเงินไหลจากส่วนบนลงสู่
ส่วนล่าง พร้อมทั้งแนวกึ่งกลางของกาย มีแท่นสี่เหลี่ยมเรียงเป็นขั้นบันไดหรือคล้ายเจดีย์คว่ำลงฐานใหญ่
ตอนบนและเล็กลงส่วนล่างเหมือนพลังหยิน พลังทั้งสองเป็นพลังหลักขั้วสำคัญในการวินิจฉัยโรคขั้นพื้นฐานของชาว
ทิเบตที่ได้รับอิทธิพลจากแพทย์จีน เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น