++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2552

พันธมิตรฯ แย้มแนวทางตั้งพรรคดันการเมืองใหม่-ตั้งเมื่อไหร่ ปชช.เป็นคนบอก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2552 03:27 น.

ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ไฮไลต์เวทีคอนเสิร์ตการเมือง บนเกาะสมุย 4
แกนนำพันธมิตรฯ "สนธิ-จำลอง-สมศักดิ์-พิภพ" ล้อมวงตอบสงสัยเรื่องตั้งพรรค
ยันไม่มีความแตกแยก พร้อมระบุหากตั้งจริง ต้อง
เป็นพรรคตัวอย่างของการเมืองใหม่ ให้อำนาจประชาชนคัดเลือกคนลงสมัคร
และกำกับดูแลพรรค ไม่พึ่งกลุ่มทุน แต่มีเงินจากค่าสมาชิก
ระบุจะตั้งเมื่อไหร่ ให้ ปชช.เป็นคนบอก ชี้ ปชป.ยังขาดความกล้าหาญ
เตือนหากไม่เร่งจัดการตำรวจเลว พธม.ตั้งพรรคลงแข่งทุกพื้นที่แน่


เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.วันที่ 4 มี.ค.
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล
พลตรีจำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย
ร่วมกันเสวนาเปิดใจในรายการ "คนในข่าวภาคพิเศษ" บนเวทีคอนเสิร์ตการเมือง
ครั้งที่ 4 ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ
ดำเนินรายการ ท่ามกลางพันธมิตรฯ นับหมื่นคนที่มาร่วมงาน
โดยเนื้อหาสาระของการเสวนาในในครั้งนี้
เป็นการชี้แจงกระแสข่าวลือที่ว่าแกนนำมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในการการ
จัดตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ

นายเติมศักดิ์ ถามแกนนำพันธมิตรฯว่า
มีข่าวลือว่าแกนนำมีมุมมองการตั้งพรรคการเมืองที่แตกต่างกัน
พันธมิตรกับการเมืองควรจะพัฒนาเป็นพรรคการเมืองหรือไม่

นายสนธิ กล่าวว่า
หลังสิ้นสุดการชุมนุนของพันธมิตรมีหลายคนพูดและยุยงว่าควรจะตั้งพรรค
เลยมาปรึกษาแกนนำทั้งหมด และพูดว่าการตั้งพรรคการเมืองไม่ใช่ง่าย
แต่การพร่ำพูดการเมืองใหม่ก็ไม่ง่าย
พล.ต.จำลองกลับชาติมาเกิดเป้นพระศรีอาริย์ การเมืองใหม่ ก็ยังไม่เกิด
ยังต้องพูดต่อไป ถ้าไม่ทำอะไรให้เป็นตัวอย่าง
ขณะเดียวกันการตั้งพรรคการเมืองนั้นมีรายละเอียดมาก และก็ไม่ขัดข้องให้
ปชป.เป็นรัฐบาลเพราะอภิสิทธิ์ ชวน บัญญัติ เป็นคนดี
ผมพยายามทำความเข้าใจการเอาโจรมานอนด้วย
แต่ตั้งข้อสังเกตว่าจะทนนอนกับโจรได้นานแค่ไหนเท่านั้นเอง

นายสนธิ กล่าวต่อว่า การเมืองใหม่ต้องเสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ
เป็นประเด็นที่มองว่านักการเมืองควรเสียสละ
ถ้าทำพรรคการเมืองแล้วเราต้องทำให้ต่างกว่าการเมืองเก่า คือต้องทำ 3
อย่างจริงๆ และมีคนที่สะท้อนให้เห็นชัดเจน
อุดมการณ์ของพรรคที่จะตั้งใหม่นั้น หากตั้งจริงๆ
จะมีความใกล้ชิดและเป็นพันธมิตรฯ กับ ปชป.
แต่เราไม่ไปสุงสิงกับบรรดาโจรที่อยู่ทุกวันนี้
อย่างนี้ค่อยมีโอกาสเป็นไปได้

**ย้ำแกนนำไม่คิดต่าง แต่ต้องไม่ผลีผลาม

ขณะที่พลตรีจำลอง ศรีเมือง ตอบคำถามเดียวกันว่า
ประเด็นนี้แกนนำไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันมาก แต่กำลังถกเรื่องวิธีการ
และเอาประสบการณ์แต่ละคนมาปรับปรุง ที่สำคัญคือต้องอาศัยเวลา
พี่น้องอย่าใจร้อน ถ้าผลีผลามทำอาจจะพลาดได้ ที่นายสนธิพูดเสียสละ
ซื่อสัตย์ กล้าหาญ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

นายสนธิ กล่าวเสริมว่า ความเป็นพันธมิตรกับนักการเมืองไม่ขัดกัน
เพราะเป็นเรื่องของการเมืองภาคประชาชน และการเมืองในสภา
พี่น้องพันธมิตรคงจะเข้าใจว่าที่ผ่านมาเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง
เพราะฉะนั้นคราวนี้จะตั้งใครเป็นอะไรในรัฐบาลเราก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร
ผมไม่เห็นว่าภาคประชาชนและพรรคการเมืองที่อิงประชาชนจะต่างกันตรงไหน
ถ้าตั้งพรรคการเมืองก็อิงกับอุดมการณ์พันธมิตร
แต่สามารถเข้ามาสู้ในระบบได้ เหมือนภาคประชาชนมีตัวแทนไปนั่งในสภา
ที่สำคัญคือต้องมีสื่อ ASTV ที่สามารถควบคุม ส.ส. ถ้าคนไหนทำผิดกติกา
ประชาชนก็สามารถลงโทษได้ เหมือนพื้นที่สมุยเป็นของ ปชป.
ต่อให้ส่งเสาไฟฟ้าก็ต้องเลือกพรรคนี้"

นายสนธิกล่าวต่อว่า ตนเคยพูดหลายๆ
ที่ว่าประชาธิปไตยการเมืองไทยมีอยู่ 4 วินาทีช่วงหย่อนบัตร
แต่ถ้าเรามีสื่อจะไม่ใช่แบบนี้ เหมือนมี ASTV ถือไม้เรียวคอยฟาด
แต่ไม่ใช่เรามีพรรคการเมืองแล้ว เพียงแต่ยกตัวอย่างให้ฟัง
เมื่อเลือกตั้งเสร็จ ส.ส.พรรคใหม่นี้จะนั่งเงียบๆ
เพราะรู้ว่าไม่มีสิทธิ์นั่งรัฐมนตรี แต่เรามีการคัดเลือกคนมาเป็น
ขณะที่พรรคอื่นแย่งกันเป็นรัฐมนตรีกันฝุ่นตลบ ข้อแตกต่างนี้จะเห็นได้ชัด
ประชาชนก็จะเบื่อในระบบเก่า เขาจึงต้องเปลี่ยนตัวเอง
เมื่อการเมืองดีขึ้นเราก็จะเลิกเล่นการเมือง
เพราะเราต้องการเป็นตัวอย่างให้พรรคที่อยู่ที่มืดได้หันมาสู่แสงสว่าง
เหมือนเป็นการรวมพลเพื่อสู้อีกหนึ่งเวทีเหมือนที่ทำเนียบรัฐบาลและสะพาน
มัฆวานรังสรรค์

**จะตั้งพรรคหรือไม่อยู่ที่ประชาชนเป็นคนบอก

ขณะที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวว่า
ย้อนหลังสมัยทักษิณเข้ามาแล้วฉ้อโกงทั้งพวกลิ่วล้อ ทำลายสถาบันกษัตริย์
ปชป.ก็นั่งนิ่งไม่กล้าพูดและทำอะไรไม่ได้
พวกเราเห็นว่าไม่ไหวแล้วก็เลยรวมตัวเป็นการเมืองภาคประชาชนจัดการกับทักษิณ
พิสูจน์แล้วว่าการเมืองในสภาไม่มีน้ำยา ประชาชนจึงไล่ 3 คนรวด ทั้งทักษิณ
สมัคร และสมชาย ไม่มีประเทศไหนทำได้ ที่เราทำเพราะชั่วทั้ง 3 คน
แสดงว่าการเมืองภาคประชาชนเกี่ยวข้องกับการเมืองในสภา
เนวินตกใจเลยวิ่งมาผสมพันธุ์กับ ปชป. พูดตรงๆ เลยว่า
ปชป.เป็นรัฐบาลได้ก็เพราะพันธมิตรฯ และเราลองให้บริหารดู
แล้วพี่น้องว่าจะให้เรามีพรรคการเมืองไหม ถ้ามีก็มี ถ้าตั้งก็ตั้ง
ให้พี่น้องบอก เพราะเรายึดหลักประชาธิปไตย ซึ่งหลังจากนั้น
ประชาชนส่งเสียงสนับสนุนว่าให้ตั้งพรรคการเมือง

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า
เวลาเราขึ้นเวทีปราศรัยจะใช้เพลงเทียนแห่งธรรมเป็นตัวนำ
เพราะเรายึดธรรมนำหน้าเสมอ
ถ้าใครบริหารบ้านเมืองแล้วโกงกินไม่ใช่การบริหารแล้ว
นั่นหลักการเมืองเก่า

**พรรคใหม่ต้องหนุนอำนาจประชาชน

นาย พิภพ ธงไชย กล่าวว่า การตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น
เรายึดหลักของอาจารย์พุทธทาสที่บอกว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง
คือถ้าจะต้องมีพรรคพันธมิตรฯ ก็เป็นเช่นนั้นเอง มันต้องเกิด
ท่านพูดตรงกับที่พวกเราคิด แต่เราจะคิดรอบคอบ
ท่านบอกว่าการเมืองที่เลวร้ายเพราะไม่มีธรรมกำกับ
ตรงกับแกนนำเราพูดที่จะใช้เทียนแห่งธรรมนำหน้า เพราะฉะนั้นที่เราตั้งไว้
ซื่อสัตย์ เสียสละ กล้าหาญ
พรรคการเมืองที่จะเกิดขึ้นก็ย่อมจะเป็นตัวอย่างของพรรคการเมืองอื่นๆ
ให้เปลี่ยนแปลงไปสู่การเมืองใหม่ให้ได้
โดยเริ่มจากการประพฤติปฏิบัติในพรรคของเราก่อนใช่หรือไม่

นอกจากนี้ พรรคการเมืองใหม่ต้องให้ธรรมกำกับ
การเมืองไทยต้องมีสองส่วนพร้อมกันคือการเมืองภาคประชาชน
และพรรคการเมืองของประชาชน
ที่เราพูดว่าพรรคนี้ต้องเกิดจากการเป็นสมาชิกของพันธมิตรฯ
ที่ต้องเกิดการบริจาคสิบบาท ร้อยบาท โดยไม่พึ่งกลุ่มทุน นี่เป็นตัวอย่าง

เพราะฉะนั้นถ้าพรรคการเมืองนี้จะเกิดขึ้นจะมีนโยบายการเมืองใหม่ไป
ผลักดันในรูปแบบกฎหมาย เราก็จะเป็นต้องทำใช่หรือไม่
แต่การเมืองภาคประชาชน พันธมิตรฯ ก็ต้องมีต่อไป
พรรคการเมืองที่จะเกิดจะไม่ได้เกิดจากอำนาจกลุ่มทุน
แต่เป็นอำนาจที่ทำให้การเมืองภาคประชาชนเติบโตขึ้น
ผลประโยชน์ที่ได้มาก็เป็นของประชาชนไม่ใช่กลุ่มทุน มี ASTV
เป็นตัวคอยตรวจสอบ
เป็นพรรคการเมืองที่แปลกใหม่ที่เกิดขึ้นจากประชาชนอย่างแท้จริง

"เรามีการชุมนุมที่มีการเสียสละ ที่สมุยบอกว่าเต็มออกๆ
ไม่ใช่แค่รถตู้ แต่เครื่องบินก็เต็มออกเช่นกัน นี่เป็นมิติใหม่มาก
พี่น้องที่มาฟังคอนเสิร์ตการเมืองก็ไม่ได้เกณฑ์มาฟัง
แต่มาเองแถมต้องซื้อบัตรมาด้วย
แล้วเรายังสร้างวัฒนธรรมการเมืองใหม่ด้วยว่า อย่าง
อ.สมศักดิ์บอกว่าถ้าเราตั้งพรรคต้องได้นักการเมืองกล้าหาญ ซื่อสัตย์
เสียสละ นักการเมืองไหนก็ต้องอายและเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง"

"ผมเป็นคนทำงานเอ็นจีโอ รอบ 30 ปีนี้เกิดกระแสทางเลือก
ทั้งเกษตรทางเลือก การศึกษาทางเลือก
เพราะคนไม่สามารถทนต่อการถูกยัดเยียดต่อไปได้ เลยทำเรื่องใหม่ๆ ขึ้นมา
ถ้าเราจะทำพรรคการเมืองใหม่ก็จะเป็นพรรคการเมืองทางเลือกเพื่อเป็นตัวอย่าง
ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก่พรรคการเมืองเก่าๆ ให้ได้ เรากล้าหาญ ซื่อสัตย์
และไม่รับเงินเดือนเพราะประชาชนจะเป็นคนเลี้ยง
อยากรู้ว่าทำได้ไม่ได้ต้องพิสูจน์ใช่ไหม"

**บทเรียนจาก "พลังธรรม"

พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมอีกว่า
เคยลองตั้งพรรคการเมืองมาแล้วในชื่อพรรคพลังธรรม
เป็นการใช้ธรรมกำกับการเมือง แต่วันนั้นกับวันนี้การพัฒนาเปลี่ยนแปลง
พัฒนาดีขึ้นเพราะจะมีคนกำกับเป็นพันธมิตรฯ ทั้งประเทศ

นายเติมศักดิ์ถามต่อพลตรีจำลองว่า
พรรคพลังธรรมเคยทำเป็นพรรคทางเลือก แต่ก็มาถึงทางตัน
ทางเลือกใหม่จะเป็นอย่างไร พลตรีจำลอง ชี้แจงว่า
พรรคพลังธรรมไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นพรรคการเมืองใหม่
คนที่ใช้คำนี้เป็นศาสตราจาย์ชาวอังกฤษ
การที่เราพูดการเมืองใหม่จึงไม่ใช่เรื่อเพ้อฝัน ไม่ใช่เรื่องสุดโต่ง
แต่เกิดขึ้นได้จริง ยืนยันได้เลย วันนี้เราพูดการเมืองใหม่เป็นครั้งแรก
คอนเสิร์ตที่โคราชจะแสดงหนังสือให้เห็นเลยว่าศาสตราจารย์อังกฤษคนหนึ่งได้
เขียนหนังสือไว้นานแล้วด้วย โดยใช้ชื่อว่า Jumlong Srimuang and The New
Thai Politics โดย ศ.ดันแคน แมคคาโก้ เขียนวิทยานิพนธ์ปี 2533
แต่มีข้อน่าคิดว่า 21 ปีที่ผ่านมานั้น
เมื่อเทียบกับตอนนี้เรามีคนรู้เรื่องการเมืองเต็มบ้านเต็มเมืองกว่าเมื่อ
ก่อน และมี ASTV และถ้าตั้งใจตั้งพรรคการเมืองพันธมิตรขึ้นมาพี่น้อง
ต้องช่วยให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้
เพราะถ้าเป็นแค่ตัวประกอบก็ไม่สามารถทำอะไรได้

พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า วันที่ 10 ก.ย.2535
ก่อนเลือกตั้งไม่กี่วัน ตนได้พูดที่ จ.พระยครศรีอยุธยาว่า
เชิญชวนให้ประชาชนเลือกพรรคพลังธรรม โดยที่พรรคไม่มีของไปแจก
และคราวนี้จะเป็นครั้งเดียว คราวหน้าเราจะไม่ลงแล้ว เขาให้ ส.ส.เรา 47
คนก็เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อแล้ว โดยที่เราไม่ได้ซื้อเสียงเลย
วันนี้เรามีข้อได้เปรียบมากมายที่จะสร้างการเมืองใหม่
แต่ที่น่าคิดคือต้องช่วยให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้
ไม่เช่นนั้นก็จะเหมือนพรรคพลังธรรมที่เข้าไปเป็นตัวประกอบแล้วก็ไม่สามารถทำ
อะไรได้

**ตั้งพรรคใหม่ไม่ต้องแก้กติกา

นายเติมศักดิ์ ถามต่อในประเด็นที่ว่า
จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องเปลี่ยนกฎกติกาก่อน เพื่อให้เกิดพรรคของพันธมิตร

นายสนธิ กล่าวว่า กติกาคงไม่เปลี่ยนเพื่อการเมืองใหม่
เพราะสามารถใช้กฎหมายเดิมได้ เช่น การคัดเลือกคนลงสมัคร
ที่ให้ประชาชนในพื้นที่เป็นคนคัดเลือกลง ซึ่งกฎหมายไม่ได้ห้าม
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เป็นเพียงแต่ว่าแกนนำจะเป็นผู้พิทักษ์กฎ

ขณะที่สมศักดิ์ ตอบคำถามนี้ว่า
เวลาเราจะทำอะไรต้องให้สอดคล้องกับความเป็นจริง อยู่กับความจริง
ซึ่งวันนี้ จะไปแก้กติกา ยังแก้ไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องแก้
เพราะรัฐธรรมนูญออกมาเพื่อกำจัดทักษิณ
รัฐธรรมนูญฉบับนี้สามารถจัดการทักษิณได้ 14 คดีทักษิณต้องคิดคุกแน่ๆ
กฎหมายนี้ออกเพื่อจัดการนักการเมืองเก่าชั่วๆ และคน 14.7 ล้านคน
ให้การรับรอง โดยที่คนใต้ให้ลงมติให้ถึง 91 %
รัฐบาลนี้จึงต้องเร่งรัดคดีของทักษิณที่ยังไม่ส่งศาลให้หมด 13-14 คดี
โทษติดคุกรวม 100 ปี และจะเป็นมาตรฐานว่าคนขี้ฉ้อ ขี้โกง จะเป็นเช่นนี้แล

การเลือกตั้งที่จะเกิดในอนาคตจะมี ส.ส.มาจากสาขาอาชีพ
ตัวแทนภาคประชาชนอย่างทั่วถึง ไม่ใช่มาจากกลุ่มทุน
ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มอาชีพ มีหลายประเทศทำมาแล้ว
เช่นในสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศเดียวมีล่าม 5 คนในสภา เพราะมี
ส.ส.เป็นคนกลุ่มน้อยด้วย ถ้าเราทำเช่นนี้ประชาชนจะสามารถควบคุมผู้แทนได้
ส.ส.ก็เหมือนลิงขึ้นมะพร้าวที่มีประชาชนควบคุม
ถ้าลิงไม่รู้มะพร้าวลูกไหนอ่อนแก่ ก็ต้องเปลี่ยนลิง
เพราะประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ
ไม่ใช่กบเลือกนายแต่เป็นนายที่เลือกลูกจ้างได้
แต่การจะแก้ไขอะไรนั้นต้องให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นด้วยจึงจะทำได้

**จี้ ปชป.ต้องกล้าหาญ

นายเติมศักดิ์ ถามแกนนำพันธมิตรฯ ต่อว่า ถ้าพันธมิตรฯ
ตั้งพรรคการเมืองฐานเสียงจะไปซ้ำกับ ปชป.และตัดคะแนนกันเองหรือไม่
นายสนธิ ตอบว่า โดยส่วนตัวแล้ว
เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์ใกล้เคียงกับพันธมิตรฯ
แต่ที่ต่างจากเราคือไม่มีความกล้าหาญ เหมือนเรา อาจเป็นเพราะวัฒนธรรม
เขามียางอายมากจนไม่กล้าทำอะไร กลัวว่าทำแล้วจะไม่โปร่งใส
เช่นกรณีเราจะทำหนังสือร้องเรียนให้เปลี่ยนพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน
ที่เป็นหนึ่งในกระบวนการฆ่าประชาชนแต่ให้มาดำเนินคดีเรา
นักข่าวไปถามรองนายกรัฐมนตรี ก็ตกใจรีบต่อว่าไม่มีเปลี่ยน
แทนที่จะพูดว่าถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นอย่างที่ร้องเรียนจริงก็ไม่ควรเข้ามา
ดูแลเรื่องนี้ แต่ท่านกลัวแต่ว่าทำแล้วจะถูกมองว่าไม่เป็นกลาง
นี่เป็นเพราะ ปชป.ขาดซึ่งความกล้าหาญและต้องรีบแก้ตรงนี้

ถ้าสมมุติว่าเราตั้งพรรคการเมือง
ในส่วนตัวจะเว้นภาคใต้เอาไว้ไม่ยุ่ง แต่ว่านั่นหมายถึง ส.ส.เขต แต่จะขอ
ส.ส.สัดส่วนให้พรรคของพันธมิตรฯ
แต่ที่เราจะบุกหนักคืออีสานและเหนือที่เขาบุกไม่ได้
ยกเว้นภาคตะวันออกที่เราจะขอเอาไว้ อย่างน้อยที่สุดเขามีมติอะไรก็ตาม
แม้ว่าตนไม่มีอำนาจ ไม่มีเสียง แต่ขอจังหวัดตรังได้ไหมจะไม่ส่ง
เพื่อให้เกียรตินายชวน หลีกภัย หรือในกรุงเขตในเขตที่ ปชป.ได้
เพื่อให้เกียรติอภิสิทธิ์

พลตรีจำลอง กล่าวในประเด็นนี้ว่า
สมัยก่อนนักการเมืองโกงการเลือกตั้ง เพราะไม่มี กกต. แต่สมัยนี้ถ้าทำ
พรรคก็ต้องถูกยุบ กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์
การซื้อเสียงก็ยากขึ้นเนื่องจากมีองค์กรอิสระเพิ่มขึ้นมา ทั้ง ป.ป.ช.
ศาลฎีกาแผนกอาญาการเมือง จึงไม่ต้องแก้กติกาใดๆ เลย
ขอให้เราได้เอาจริงเท่านั้นวันนี้ได้เปรียบ 3
อย่างคือมีประชาชนรู้การเมืองเต็มบ้านเต็มเมือง มี ASTV
และมีกติกาที่ตั้งขึ้นมาอยู่แล้ว

**หาก ปชป.กล้าหาญสร้างการเมืองใหม่ได้

ด้านนายพิภพ กล่าวว่า
ถ้าจะถามว่าต้องแก้กติกาก่อนตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือเปล่า
ก็ขอถามกลับว่าตอนตั้งพันธมิตรฯ เราต้องแก้กติกาไหม
ตอนนั้นกติกาเอื้อต่อทักษิณมาก
แต่พลังบริสุทธิ์ของพี่น้องทำให้กติกาต้องมารับใช้เรา
ทั้งที่อยากเปลี่ยนกติกาอยู่หลายประการ
แต่ถ้ารอให้นายอภิสิทธิ์แก้กฎกติกาทำคงต้องรอชาติหน้าตอนบ่ายๆ
นายอภิสิทธิ์เข้าข่ายเสียสละ ซื่อสัตย์
แต่ถ้าเพิ่มความกล้าหาญการเมืองใหม่จะเกิดในมือประชาธิปัตย์ได้
แต่เรารอไม่ได้ เราจึงต้องทำพรรคการเมืองใหม่ถ้าพ่อแม่พี่น้องมีฉันทมติ

"คุณสนธิบอกว่า จะขอดูแล ASTV
ผมเองขอดูแลการเมืองภาคประชาชนและสนับสนุนการเมืองในรัฐสภาในนามพรรค
พันธมิตรฯ ด้วย โดยใช้ธรรมนำหน้าดังที่ท่านพุทธทาสเคยพูดเอาไว้"

**จี้ ปชป.มัวช้าตั้งพรรคแข่งแน่

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า
หลังจากนายอภิสิทธ์ได้เป็นรัฐบาลจะต้องเร่งสะสางปัญหาต่างๆ
เป็นเวลาทองที่หาไม่ได้อีกแล้ว แต่ถ้ายังจัดการพวกเลวๆ
นี้ไม่ได้ก็แสดงว่าไม่มีใครทำได้อีกแล้ว จะต้องเจอกับจำลองเสียแล้ว
เราจะจัดการเองเสียเลย เทียนแห่งธรรมจะเข้ามาทันที
แต่เสียงหนุนต้องขึ้นอยู่กับประชาชนด้วยว่าจะให้โอกาส ปชป.อีกไหม
ถ้าให้แล้วเขาทำไม่ได้อีกก็ช่วยไม่ได้ รักคนที่เขารักเราดีกว่า
ถ้ารักเราจริงก็ต้องจัดการคนชั่วและบริหารประเทศให้เด็ดขาด
ยิ่งตอนนี้แม้แต่เอ็นบีทีก็ยังปล่อยให้ด่ารัฐบาลอยู่ทั้งที่อยู่ภายใต้กำกับ
ของรัฐ


นายสนธิกล่าวเสริมว่า "ขอชี้เวลานี้พูดถึงพี่ชวน พี่บัญญัติ
คุณอภิสิทธิ์ ผมเตือนแล้วว่าอุตส่าห์ประนีประนอม ผมห้ามพี่สมศักดิ์ไม่ได้
ที่กำลังดูทีวีอยู่นี้คงรู้ว่าพี่สมศักดิ์กำลังตกมันแล้ว
ผมเกรงใจแล้วและพยายามพูดไม่ส่ง ส.ส.เขต แต่ขอส่ง ส.ส.สัดส่วน
แต่ถ้าพูดอย่างไม่เห็นใจกันก็อยากจะพูดว่า 20 ปีแล้วที่ชาวใต้เลือก ปชป.
ให้โอกาสพันธมิตรฯ สักครั้งได้ไหม
ถ้าเข้าไปแล้วเรากำจัดทักษิณไม่ได้ก็ไม่ต้องเลือกเราอีกต่อไป"

"ผมไม่อยากพูดคำนี้เลย เพราะฉะนั้นช่วยบอกท่านรองสุเทพ
เทือกสุบรรณ ให้ทำงานหน่อย ไม่ต้องรังเกียจเรา พันธมิตรฯ
ไม่ใช่เสนียดจัญไร การมายืนข้างเรามีแต่ความถูกต้อง ผมเตือนพวกคุณแล้วนะ
คุณเป็นคนใต้ผมรู้อารมณ์คนใต้ดี ทั้งสมุย ชุมพร คนใต้รักใครรักจริง
เขายังรัก ปชป.อยู่ ขนาดคุณนอกใจเขาตอนนี้เขายังกัดฟันทนอยู่
แต่ถ้าคุณนอกใจเขาไม่รู้จักสิ้นสุดมันมีชายหนุ่มที่งดงาม ชื่อพันธมิตรฯ
.ยืนรออยู่ คนใต้ก็พร้อมจะบอกว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องลองของใหม่สักทีหนึ่งว่าดีจริง
หรือเปล่า"


**ตั้งเมื่อไหร่ ปชช.เป็นคนกำหนด

นายเติมศักดิ์ ถามอีกว่า
เวลาที่ต้องตั้งพรรคนั้นใกล้เข้ามาแล้วหรือยัง พลตรีจำลอง ตอบว่า
เวลาก็ใกล้มาทุกทีแล้ว อยู่ที่ว่าจะหาจังหวะไหนที่จำเป็น
และต้องถามประชาชนเพราะรู้ดีกว่า และจะเป็นคนกำหนด

นายพิภพ กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าเราต่อสู้มา 193 วัน
ไม่ได้ต้องการการเมืองเก่าที่ประนีประนอม
หรือให้นายอภิสิทธิ์เข้ามาแค่เปลี่ยนขั้ว
แล้วสมสู่กันจนท้องและมีภาระเลี้ยงดูลูกที่เกิดมา
แล้วจะทำการเมืองใหม่ได้อย่างไร
นายอภิสิทธิ์ต้องไม่เข้ามาแค่เพื่อเปลี่ยนขั้ว
ไม่แค่มาเพื่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูล แต่ต้องเปลี่ยนเป็นการเมืองใหม่ให้ได้
นายอภิสิทธิ์ต้องรู้ ถ้าเปลี่ยนไมได้ คนรุ่นใหม่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงเอง

"5 แกนนำคิดเหมือนกัน ไม่แตกต่างกันในเรื่องอุดมการณ์
ผมเชื่อว่าพรุ่งนี้ เรื่องนี้ต้องเป็นข่าว แต่ขอย้ำว่า ถ้า
มีพรรคในนามพันธมิตรฯ จะเป็นพรรคการเมืองมิติใหม่
ไม่ใช่พรรคในเชิงอำนาจและผลประโยชน์ ไม่ใช่เพราะ 5 แกนนำต้องการอำนาจ
เพราะพรรคที่ตั้งให้เป็นอำนาจของประชาชน

"ขอย้ำกับนักข่าวว่ากระบวนการสรรหาสมาชิกเพื่อลงเลือกตั้งนั้น
เป็นกระบวนการใหม่ ต้องมาจากฉันทามติของพี่น้องในพื้นที่ ต้องซื่อสัตย์
เสียสละ กล้าหาญ พรรคการเมืองนี้จึงเป็นพรรคของประชาชนจริงๆ
เพราะสมัครเป็นสมาชิกพรรคเป็นรายเดือน
และขอให้กลับไปดูเนื้อหาของการเมืองใหม่ที่เราทำตั้งแต่ชุมนุมอยู่ใน
ทำเนียบฯ เราให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่า
นายอภิสิทธิ์น่าจะนำไปสู่การเมืองใหม่ได้
เนื้อหาของพรรคการเมืองใหม่จะเป็นเนื้อหาที่เราทำกันมา 193 วัน
ส.ส.ของเราไม่เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์และจุดยืน
เพราะเขาไม่ถูกกำกับแค่วันเลือกตั้ง แต่ถูกกำกับตลอดเวลาในนามพันธมิตร
นี่เป็นพรรคการเมืองที่แปลกใหม่จริงๆ


**จี้ ปชป.ไม่จัดการตำรวจ ตั้งพรรคแข่งแน่

ด้านนายสมศักดิ์ บอกว่า อยากให้พี่น้องรัก สามัคคีกัน
แม้มีความคิดเห็นแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา
แต่เมื่อบ้านเมืองต้องการต้องพร้อมที่จะร่วมมือกัน ถ้ามีพรรคพันธมิตรฯ
ก็ต้องอุดหนุนกัน นี่คือการสร้างมิติใหม่ที่เกิดขึ้นว่ามีเงินออกเงิน
มีแรงออกแรง มีสติปัญญาออกสติปัญญา
เหนือสิ่งอื่นใดคือประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ

ในช่วงท้ายนายเติมศักดิ์
ได้เปิดให้แกนนำฝากอะไรไปถึงพี่น้องประชาชน เริ่มจากนายสนธิ ได้บอกว่า
ตนมาสมุยปี 2549
เป็นคืนที่ในหลวงออกทีวีมีพระราชดำรัสให้ศาลเข้ามาแก้ไขวิกฤตชาติบ้านเมือง
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้บ้านเมืองพัฒนามาถึงวันนี้
หวังว่ามาสมุยครั้งนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากเช่นกัน

"ต้องขอบคุณเจ้าของสถานที่ที่ยอมเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อให้
ความรู้ประชาชน ส่วนการเมืองใหม่ พรรคการเมืองใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
ผมอยากจะถามกลับว่าพรรคประชาธิปัตย์จะจัดการกับตำรวจเมื่อไหร่
ถ้านายสุเทพไม่กล้าย้าย พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เก็บ พล.ต.ท.สุชาติ
เหมือนแก้ว แสดงว่านายสุเทพไม่ได้จริงใจกับพันธมิตรฯ
และนั่นถึงเวลาที่พรรคพันธมิตรฯ จะเกิดขึ้นทันที
ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินทองเพราะเป็นของประชาชน ถ้าจ่ายค่าสมาชิกเดือนละ
100 บาท มีสัด 2 ล้านคนก็ได้เดือนละ 200 ล้านบาทยังเหลือช่วยเหลือ ASTV
ถ้าเกิดขึ้นก็จะเหมือนที่เคยเกิดกับ 193 วัน ที่ไม่ต้องแอบรับเงินจากใครๆ
แล้วลืมอุดมการณ์ของตัวเองจนหมดสิ้น"นายสนธิกล่าว

**บี้ "มาร์ค"สางเงื่อนงำ 7 ตุลาฯ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พี่น้องต้องไม่ดูถูกตัวเอง แม้แต่เอ็ม 79
เราก็ไม่กลัวเพราะคิดว่าเป็นลูกโป่ง คนเหล่านี้เป็นเพื่อนเป็นเพื่อนตาย
แต่ที่มานั่งตลกแล้วกลับไม่ได้อะไรนั่นแหละเป็นเพื่อนกิน
ขอให้พี่น้องรักษาสิ่งเหล่านี้ ประเทศชาติเหลือสิ่งอื่นใด
ตอนนี้เราทำถูกแล้ว

นายพิภพ บอกว่า ปกติตนจะไม่พูดเรื่องคดีความที่เกิดกับแกนนำ
แต่ที่เกิดขึ้นกับ 21
แกนนำนั้นต้องถามนายสุเทพว่าเราถูกกระทำใช่หรือเปล่า
กรรมการสิทธิฯได้สอบสวนเสร็จแล้วว่าประชาชนถูกทำร้ายด้วยอาวุธขนาดหนักจาก
ตำรวจ มีระบุชื่อ แต่ทำไมไม่ย้าย กลับให้มาทำคดีนี้อีก
เราต้องการความชอบธรรม


นายพิภพกล่าวถึงเงินบริจาคจากประชาชนว่า
ตอนนี้เราจ่ายให้คนที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว งวดที่ 3 ในเดือนมีนาคมนี้
ซึ่งเหลือเงินอยู่ 7 ล้านบาท
สารพิษที่อยู่ในร่างกายผู้ถูกแก๊สน้ำตายังอยู่ในร่างกายอยู่
ต้องรีบสอบว่าทำไม่แก๊สน้ำตาในวันนั้นยังส่งผลถึงวันนี้
ต้องรู้และป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นซ้ำ
ที่ต้องพูดเพราะหลายคนเพิ่งจะได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่เพิ่งแสดงอาการออก
นายอภิสิทธิ์ควรต้องสั่ง
กระทรวงสาธารณสุขสอบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากสารเคมีในวันนั้น
และสั่งลงโทษเอาผิดให้ได้

"เมื่อผมมาสุราษฎร์
คนที่ดูแลเรื่องที่พักเขาเป็นคนเสียสละเต็มออกเต็มออกทุกเที่ยวที่ไปร่วม
ชุมนุมใหญ่ ทั้งที่เขาไม่ได้เกลียด ชิงชัง ทักษิณเป็นการส่วนตัว
แต่ไม่ชอบความไม่เป็นธรรม ถ้าเขาทำกิจการใหม่ก็จะรับพันธมิตรฯ
เข้าทำงานเพราะอยากมีลูกน้องฉลาดๆ
เวลาออกไปสู้รบจะได้ไม่ต้องอธิบายกันมากมาย ในหนังสือกล่าวไว้ว่า
การที่เรายอมให้เกิดความอยุติธรรมก็เหมือนการที่เราทำความชั่วเช่นกัน"

พลตรีจำลอง ฝากถึงพี่น้องพันธมิตรฯ เป็นคนสุดท้ายว่า
ที่เขากล่าวหาเราว่าไปปิดล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. มีเพียง 21
คนซึ่งจริงๆ แล้วหากจะกล่าวหาก็ต้องกล่าวหาคนเป็นหมื่นเป็นแสนที่ไปในวันนั้น
ไม่ใช่แค่ 21 คน และปฏิเสธไม่ได้ว่าสมุยเป็นพันธมิตรที่กล้าแกร่ง ปี 49
ไปนอนกลางดินกินกลางทราย 33 วัน รอบนี้อีก 193 วัน
แต่พี่น้องก็ยอมทิ้งกิจการมาอยู่กับเรา
แม้สมุยเป็นเพียงอำเภอแต่ก็แข็งแกร่ง สามารถจัดเวทีปราศรัย
เรียกพี่น้องต่างจังหวัด ต้องเกาะเกี่ยวกันไว้ต่อไปเรื่อยๆ
มีความกลมเกลียว ถ้าเป็นอย่างนี้เยอะๆ บ้านเมืองเราไปได้แน่


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000025064

-----------------------

หากพันธมิตรคิดจะตั้งพรรคการเมือง ... ผม "กล้า" พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำได้เลยว่า

"ระบอบทักษิณจะกลับมามีอำนาจอีกแน่นอน"

และครั้งนี้จะยิ่งมีอำนาจมากยิ่งขึ้น เพราะ

// ปชป. กับ พธม. จะตัดคะแนนกันเอง ...
เดิมทีเสียงของปชป.ก็มีไม่ถึงครึ่งอยู่แล้ว
และมวลชนของพธม.กับปชป.ก็เป็นมวลกลุ่มเดียวกันค่อนข้างมากด้วย ดังนั้น
ที่นั่งของปชป.จะลดลงมาก ในขณะที่ พธม.จะได้ไม่เกิน 50 แน่นอน
เป็นแค่พรรคขนาดกลางเหมือนพรรคชาติไทย

// พธม.ยากที่จะได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้ เพราะ
สส.เดิมของแม้วและพรรคอะไหล่ต่างๆเช่น เหนาะ เติ้ง ห้อย
พวกนี้มันอาจจะไม่เอาพธม. เพราะพวกมันจะทำงานยาก
พธม.จะคอยขัดขวางและจับผิดพวกมันตลอดเวลา
ดังนั้นโอกาสที่จะได้ทำงานเพื่อชาตินั้นน้อยลง นอกจากเป็นฝ่ายค้าน
ซึ่งต้องสู้ในสภา ... ถ้าพธม.เข้าไปสู้ในสภา
พวกกะเลวกะราดของแม้วมันชอบอยู่แล้วมากกว่าที่จะสู้กับพธม.นอกสภา
อย่าลืมว่า แค่สว.40กว่าคนตอนนี้ก็สู้กับพวกมันไม่ง่ายเลย
อ.เจิมศักดิ์คงทราบดี

// ฐานเสียงของพธม.จริงๆก็คือภาคใต้ กทม. ตะวันออก และตะวันตกเท่านั้น
ในส่วนของภาคเหนือ อีสานและภาคกลางบางส่วนนั้น ยังน้อยมาก ...
อย่าวัดเสียงแค่จากการจัดคอนเสริตการเมืองของพธม.อย่างเดียว ...
อย่าลืมว่า นักการเมืองชั่วๆภายใต้ระบอบทักษิณนั้นมันเชี่ยวชาญเรื่องการเมืองโดยเฉพาะ
การเลือกตั้ง การจัดระบบหัวคะแนนมาก
และคนอีสานและเหนือส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยชอบทักษิณด้วย

จากสาเหตุเหลา่ นี้ ผมคิดว่า หากพธม.เป็นพรรคการเมือง
ก็จะทำให้พลังของพธม.ลดลงมากแน่นอน และจะไปลดพลังของปชป.ไปด้วย
ทำให้โอกาสของแม้วที่จะจัดตั้งรัฐบาลมากกว่า 90% แน่นอน
แล้วมันจะเข้ามามีอำนาจทำชั่วอีกแน่

ที่ผ่านมา พธม.ชนะระบอบทักษิณก็ด้วยพลังของประชาชนที่ต่อสู้กัน "นอกสภา"
ไม่ใช่ในสภาที่มี "ข้อจำกัด" มากมาย

ได้โปรดพิจารณาด้วยครับ ...
คนไทย

------------------------

ผมเสนอว่า ยุทธศาสตร์ที่สำคัญหากพธม.คิดจะตั้งพรรคพธม.ก็คือ
"ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจ" หรือ "สร้างปัญญา" ให้กับประชาชน
โดยเฉพาะภาคอีสานและภาคเหนือก่อน

- วิธีสร้างปัญญาให้กับประชาชนก็คือ การทำให้สื่อโดยเฉพาะ ASTV
เข้าถึงประชาชนเหล่านั้นให้มากที่สุด

- เมื่อประชาชนมีปัญญาแล้ว
พธม.ก็พร้อมที่ร่วมสู่การเมืองในสภาได้อย่างเต็มที่และพธม.จะชนะการเลือกตั้งแน่

แต่ถ้าคนส่วนใหญ่ในภาคเหนือ
อีสานยังหลงงมงายกับระบอบทักษิณอย่างทุกวันนี้ ผมฟันธงว่า
พธม.แพ้แน่นอนครับ
ฟหกด

------------------

ไม่เห็นด้วยครับ ด้วยความจริงใจ..

เพราะเรื่องการเมือง คือ เรื่องผลประโยชน์ครับ..

สาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้พธม. เข้มแข็ง ขึ้นมาได้ถึงจุดนี้..

เพราะคนส่วนใหญ่ เชื่อว่า พธม.ไม่ได้หวังผลประโยชน์ใส่ตน
เราทำเพื่อประเทศชาติ และ ราชบัลลังค์อย่างแท้จริง..

คิดถึงสมัยชุมนุมกัน นะครับ เราอยากได้อะไร แค่ประกาศออกไมค์
ก็มีประชาชนนำของ มาบริจาคให้..

ASTV เข้มแข็งขึ้นมาได้ ก็เพราะ เชื่อว่า ASTV เป็นทีวี ของประชาชนอย่างแท้จริง..

เสียง พธม.ที่ดังออกไป และมี ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรับฟัง ก็เพราะ
เราไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเสียง ของประชาชน
กลุ่มหนึ่งอย่างแท้จริง..

อย่าทำให้ พธม.เสื่อมความน่าเชื่อถือ เพราะการเข้าสู่การเมืองเลย..
กระจกหกด้าน

------------------

ตั้งพรรคเลยครับ เห็นด้วยสุดโต่ง ได้รับเลือกสัก 100
คนก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี
เมื่อทำงานได้ดีประชาชนก็จะสนับสนุนอย่างล้นหลามสุดจะบรรยาย
จนพวกปลอมตัวเป็นพันธมิตรอยากจะลงแดงตายขจัดพวกเหลือบที่เกาะกินสังคมจนเน่า
เฟ่ะ การพัฒนาจะไม่เดินหน้าถ้ามีเหลือบพวกนี้อยู่ตามหน่วยงานองค์กรต่างๆคอยกัด
เซาะจนพังต้องเสาะหาแล้วกำจัดมันเหมือนมดปลวก
การทำเพื่อสังคมแรกๆก็อาจจะยากลำบากหน่อยเพราะพวกเหลือบมันเกาะกินไปทั่ว
ร่างกายของสังคมแล้วต้องขยันกำจัดมันออกไปไวๆ
อย่ามันแต่รำไปรำมาอยู่นั่นไม่ลงมือสะทีแบบนี้สัดนรกปลอมตัวมาเป็นพันธมิตร
มันชอบอ่ะ
พันธมิตร

-----------------

เรารักคุณชวนเทิดทูนเท่าพ่อของเราและเชื่อมั่นในตัวคุณชวนเสมอไม่เคยเปลี่ยน
แต่สิ่งที่เราซึ่งเป็นปชช
ธรรมดาต้องการคือความถูกต้องความกล้าหาญกล้าที่จะนำพาประเทศชาติไปสู่การ
เปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ไม่ใช่สังคมสกปรก
พ่อจูงลูกสาวนอนข้างถนนนักการเมืองเห็นแก่ตัวเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้องไม่
กล้าทำอะไรกับนักการเมืองชั่วเพราะกลัวจะเสียเสียงข้างมาก
ไม่กล้าใช้อำนาจกำจัดสิ่งชั่วร้ายของสังคมเช่นตำรวจชั่วรัฐตำรวจทราม
เรา ขอบอกเลยว่ารักปชป
มากแค่ไหนเราก็อยากให้พธมตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับปชช
และขอบอกเลยว่าเราต้องการนายกรัฐมนตรีที่มีลักษณะของแกนนำพธม ทั้ง5
รวมกันในคนเดียวกัน หาได้ไม่เนี้ยพี่น้อง
คนใต้รักชาติ

--------------

ก็ลองฟังเหตุผลที่แกนนำเขาพูดก่อนครับ แล้วค่อยมาคิดกันว่า
เราจะทำอย่างไรกัน เพราะถ้าเราปล่อยให้เขาแบบนี้ บางอย่างที่เราอยากให้ทำ
แต่เขาไม่ทำให้ เกรงใจพรรคร่วม ปล่อยให้พรรคร่วมมาโกงบ้าน โกงเมืองต่อ
อย่างที่เห็นๆ ด้วยความที่ทนเห็นแบบนี้ไม่ได้
เราก็ต้องเอาคนของเราเข้าไปตรวจสอบในสภาด้วย ส่วน
พธม.เราก็ตรวจสอบการทำงานของนักการเมืองเหมือนเดิม
ส่วนแกนนำเขาก็ไม่ไปยุ่งอยู่แล้ว ขอเป็นฝ่ายตรวจสอบเหมือนเดิมครับ
พธม. ชม.

--------------
ขอคารวะพธม.ทั่วประเทศและทุกความคิดเห็น
แต่อยากให้ฟังแกนนำพูดให้เข้าใจในเจตนารมณ์และความหมายทุกท่านที่พูดมีความ
หมาย ถ้าใครที่ฟังไม่เข้าใจแล้ววิเคราะห์เหตุและผล พร้อมเรื่องราวต่างๆ
พร้อมความจริงในปัจจุบันที่ยังเกิดขึ้นอยู่
สังคมและการเมืองยังไม่นิ่งไม่มีความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ถูกกระทำ
แต่ผู้กระทำกำลังเดินเกมณ์เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ผลักความผิดให้พธม.
และให้รัฐบาลหมกเม็ดต่อเพื่อความอยู่รอดของคนผิดและพรรคร่วม ดังนั้น
ตั้งพรรคอาจเป็นแนวทางที่ดี แต่รออีกหน่อยเพื่อให้อะไรๆ
มันเป็นไปตามธรรมชาติเวลา
เพราะสังคมที่ต้องการความยุติธรรมให้เกิดขึ้นแก่แผ่นดิน
เพื่อไม่ให้คนชั่วมาบริหารบ้านเมืองต่อไปอีก
เพราะตอนนี้นักเลงกำลังแผงฤทธิ์เพื่อฆ่ารัฐบาลที่ไม่เด็ดขาด ไม่ซื่อสัตย์
และไม่ซื่อตรง เราปชช.พธม.จะต้องมีแนวทางเพื่อให้เกิดการปกป้องค้มครองบ้านเมืองและทำให้
ปชช.มีจิตใจ หู ตาสว่าง
และมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและเกิดความรักชาติบ้านเมืองและปกป้อง
สถาบัน รักษาไว้ซึ่งสมบัติชาติเพื่ออนาคต ลูก หลาน
และแผ่นดินต้องยังคงอยู่และดำเนินไปโดยมีผู้เสียสละออกมาร่วมกันดูแลและขจัด
เลือบโกงกินให้ออกไปจากสังคมที่สงบสุข
เรา จะยังให้กำลังใจและร่วมมือเพื่อตรวจสอบและสกัดกั้นคนเลวให้หยุดทำลายหลักฐาน
หยุดหมิ่นสถาบัน หยุดให้ร้ายผู้ที่เสียสละชีวิตและบาดเจ็บของพธม.ซะที
สังคมจะได้มีช่องทางให้ความดีที่คนดีทำได้ปรากฎ
คนไม่ดีรับกรรมอย่างสาสมเร็วๆ ด้วยเถอะ
rat
--------------
ในอดีต เคยมีพรรคการเมืองดีๆที่เราคิดว่าจะเป็นทางเลือกใหม่คือ
พรรคพลังธรรม ที่ท่านจำลองตั้งขึ้นมา ซึ่งมีนโยบายไม่ซื้อเสียง,
ไม่โป้ปดมดเท็จ, ผมเป็นคนหนึ่งที่เลือกท่านตั้งแต่เป็นผู้ว่า กทม 2 สมัย
จนถึงเลือกพรรคของท่านในเขตผม (บางกะปิ)
ซึ่งมีนักการเมืองหน้าใหม่เป็นสาวใส่แว่นหน้าตาสดใส ชื่อสุดารัตน์
เกยุราพันธ์ กับพวกทุกครั้ง เท่าที่จำได้เวลานั้นพรรคพลังธรรมมี ส.ส.
ชื่อ อดิศร เพียงเกต (มาชุบตัวใหม่), กุเทพ ใสกระจ่าง (มหาเปรียญ),
สุธรรม แสงประทุม (อดีตแกนนำนิสิตยุค 6 ต.ค. 19) ซึ่งเดี๋ยวนี้
ทั้งหมดนี้ได้กลายเป็นลูกน้องตัวหลักของทักสิน โดยเฉพาะเวลานี้
อดิศรกับกุเทพ ได้ออกมาวิจารณ์ตอบโต้ท่านจำลองอย่างดุเดือด

ผม คิดว่าคุณสนธิเองกับท่านจำลองคงไม่มีความสนใจเรื่องพรรคการเมืองเท่าใด
แต่ดูจาก reaction ของแกนนำหนุ่มๆและอดีตผู้สมัคร
ส.ส.ที่ออกมาแสดงความเห็นตั้งแต่ยุติการชุมนุม (ไม่ต้องบอกชื่อก็พอรู้)
ก็พอเดาออกว่าคิดยังไง เมื่อปี่กลองใกล้เชิด

เท่าที่ติดตามการเมือง มาบ้าง การเมืองไม่ใช่บัญญัติไตรยางค์
หรือมีสูตรสำเร็จว่าพื้นที่สามเหลี่ยมคือ 1/2 x ฐาน x สูง
คุณเก่งยังไงก็ต้องใช้เงินโดยเฉพาะอีสานกับภาคเหนือที่แกนนำประกาศว่าจะเข้า
ไปพิชิต ลองไปถามคุณการุณ ใสงามดู

การที่จะระดมทุนโดยคิดเอาเองว่ามี พันธมิตร 10 ล้านคน บริจาคคนละ 100
บาทก็จะมีทุน 1,000 ล้านบาทนั้นมันง่ายเกินไปหรือเปล่า
ผมคิดว่าคนที่มาชุมนุมแล้วบริจาคให้นั้นบางคนต้องการช่วยค่าใช้จ่าย,
ค่าอาหาร, ช่วยคนบาดเจ็บ, ช่วย ASTV ผมเองเคยเข้าบัญชี ASTV
หลายครั้งๆละเกือบหมื่น
เพราะน้ำตาแทบไหลที่เห็นลุงจำลองออกมาขอร้องให้ช่วย ASTV, SMS
ก็ยังสมัครอยู่

คนที่มาชุมนุมบางส่วนต้องการเพียงคัดค้านการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญ
หรือการบริหารอย่างไม่ชอบธรรมของรัฐบาลนอมินี
การที่แกนนำยึดเอาธรรมนำหน้าและคอยตรวจสอบความฉ้อฉลของนักการเมืองเป็นสิ่ง
ที่น่าชมเชยและสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง
แต่การที่จะโดดเข้าไปเอาตัวคลุกเองเพื่อบริหารประเทศเองเพื่อทำการเมืองใหม่
โดยอ้างว่าอยู่ข้างนอกไม่ทันใจนั้น
หากพรรคพันธมิตรได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากอย่างที่ต้องการ
แล้วจะเปลี่ยนการเมืองใหม่ได้จริงหรือ,
แกนนำพันธมิตรจะเป็นผู้ตรวจสอบรัฐบาลเองหรือ
แต่หากพรรคพันธมิตรล้มเหลวในการเลือกตั้ง หรือเป็นพรรคต่ำสิบ
คงไม่พ้นถูกเย้ยหยันจากสังคมโดยเฉพาะเป็ดเหลิมที่เคยบอกว่าพวกพันธมิตรส่วน
มากเป็นส.ส.สอบตก และต่อไปอาจไม่ได้รับความเชื่อถือ
หากบ้านเมืองเกิดมีวิกฤตอีก
พันธมิตรประเภท 2
ลอกมา
--------------
ถ้าเป้นพรรคแนวร่วม ที่เกิดจากคนที่มีแนวคิดการเมืองใหม่ในสภา ผมเห็นด้วย
แต่ถ้าให้แกนนำเข้าร่วมกับพรรคการเมืองใหม่ เข้าไปเป็นนักการเมืองด้วย
ผมไม่เห็นด้วยครับ
เพราะถ้าแกนนำไปเป็นนักการเมืองเอง แล้ว
ภาพของนักต่อสู้ผู้นำมวลชนนอกสภามันก็จะ สับสนกัน แกนนำควรอยู่กับ พธม
เหมือนเดิมคอยให้ความรู้ เปิดโปงนักการเมือง ไม่ใช่ไปเป็นนักการเมืองเอง
ไม่อยากเห็นแกนนำไปพูดในสภา เหมือนสามเกลอ แล้วก็มาพูดบนเวทีอีก
แต่เห็นด้วยที่ต้องมีพรรคการเมืองแนวร่วมของ พธม เอง
ที่จะผลักดันการเมืองใหม่ในสภา ครับ
พธม ราชบุรี
--------------
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของไทยที่ เรามีภาคประชาชนที่เข้มแข็ง
เข้มแข็งจนนักการเมืองยังกลัว และเกรงใจ

พธม. ทุกคนอยากเห็นการเมืองใหม่
แต่ก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย
ในเรื่องการตั้งพรรคการเมืองของ พธม.

กลุ่มที่เห็นด้วย ก็ต้องการให้การเมืองใหม่เกิดโดยเร็ว
เพื่อที่จะล้างการเมืองเก่าที่สกปรก ให้ออกจากระบบ

กลุ่ม ที่ไม่เห็นด้วย ก็กลัวในเรื่องของการสูญเสียแนวร่วม,
การสูญเสียแนวคิด และที่สำคัญก็คือ การสูญเสียการเมืองภาคประชาชน
ที่เข้มแข็งที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ส่วนตัวผม ไม่เห็นด้วย

แต่ก็ไม่อยากให้ 'พธม. ที่เห็นด้วย' มอง 'พธม.ไม่เห็นด้วย' เป็นศัตรู

เรา ไม่ใช่ศัตรู แต่เรามองเห็นอีกด้านหนึ่งที่เคยเกิดขึ้น
'จากการเมืองในอดีตที่ผ่านมา' จึงได้บอกได้แสดงความคิดเห็นด้วยความรัก
และข้อห่วงใยต่างๆ ออกมา

แต่ผมคิดว่าเราควรจะมีทางออกร่วมกันที่ดีกว่านี้
โดยที่สามารถเดินไปด้วยกันโดยไม่แตกแยก

ท่านที่ีมีทางออกที่ดี กรุณาช่วยกัน ตอบกลับ ความเห็นต่อท้าย
ขอให้ช่วยเสนอด้วยเหตุผล ไม่ประชด ประชัน ไม่ต่อว่าผู้อื่น
เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
สามัคคี
--------------
มีทางเลือกดีกว่าไม่มีทางเลือก ไหนๆก็เคยลองผิดลองถูกเลือกทักษินมาแล้ว
ทำไมคราวนี้จะลองอีกสักครั้งไม่ได้ละ
nut
--------------

1 ความคิดเห็น: