ยามชีวิตบ่ายคล้อยตะวันตก
กับลมหายใจไหวสะทก
เมื่อดวงดาวดื่นดกกลับมาเยือน
ผ่านวันต่อวันอันเปล่าค่า
คลับคล้ายคลับคลาว่ากลบเกลื่อน
ผ่านคืนต่อคืนเรามิลืมเลือน
ปล่อยชีวิตคืบเคลื่อนไปวันวัน
เพียงมีชีวิตเพื่อวันนี้
ก็อ่อนล้าเกินวิถีจะเปลี่ยนผัน
เป็นฝันและเป็นจริงเท่าเท่ากัน
และรับรู้เท่าที่มันจะเป็นไป
ทุกทุกเช้าก้าวแรกบนทางเก่า
กลับกลายคล้ายเล่าเรื่องราวใหม่
เป็นตัวละครแปลกหน้าของใครใคร
พลันไม่เหลือสิ่งใดเป็นตัวตน
เฝ้ามองชีวิตยามบ่ายคล้อย
กับหัวใจเลื่อนลอยเปื่อยป่น
ค้อมรับชะตากรรมยอมจำนน
ผ่านไปในเงื่อนกลกาลเวลา
วันเวลามีมากไปหรือไรนี่
แต่ละวินาทีจึงไร้ค่า
หรือเป็นเราน้อยไปในเวลา
แค่ในชั่วพริบตาก็ผ่านวัน
หรือในเงื่อนไขของใครอื่น
เป็นตัวเราดาษดื่นอยู่แล้วนั่น
หรือตัวเราในใครต่อใครนั้น
ต่างช่วงชิงคืนวันของเราไป
เราอาจเหลือเวลาอีกเล็กน้อย
ก่อนหัวใจเลื่อนลอยจะเผาไหม้
ป่นสลายในสายลมไกว
กลายเป็นลมหายใจของใครหลายคน
รชา พรมภวังค์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น