++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2551

กำไรจากรอยเท้า

แทบเท้าพ่อและแม่
ผู้เกื้อก่อชีวิตก้าว
โลกกว้างและทางยาว
เพื่อลูกสาวและลูกชาย

ไร้เท้านำมนุษย์
ไหนจะรุดไปสุดสาย
กราบเท้าที่เพราพราย
มิ่งความหมายนักเดินทาง

ครูผู้ให้และให้
แสงโคมชัยอันรางชาง
ปัญญาหัทยางค์
เจิดกระจ่างทุกแห่งหน

ความมืดยุคสมัย
สว่างได้บันโดยดล
นบเนื้อคุณอนนต์
ได้เติบตนมีดวงตา

แด่..เธอ..ผู้ทอดเท้า
จากวัยเยาว์ไร้เดียงสา
สู่โลกวันเวลา
แห่งอนาคตกาล

เพื่อเหลียวชำเลืองรอย
ที่ผ่านคล้อยที่คืบคลาน
หมื่นแสนมีแก่นสาร
ทุกรอยจารทุกรอยจำ

ดำเนินแห่งรอยเท้า
กี่รอยเนากี่เท้านำ
มีคำกี่ล้านคำ
ก็มิล้ำเฉลยรอย

มีแรงอยู่เพียงร่าง
นักเดินทางฤาท้อถอย
ร่างนี้ใช่แรงน้อย
ผิรัดร้อยพลังแรง

คลาไคลในมัคคา
เมื่อจิตกล้าก็ใจแกร่ง
เสียดทานอันเสียดแทง
มิอาจแย้งสัประยุทธ์

วาดจิตและแววใจ
ไว้สดใสบริสุทธิ์
มณีแห่งมนุษย์
จะเผยผุดประภัสสร

เสกศิลปกรรม
ในก้าวย่ำกระลำพร
ลบร้ายมลายร้อน
ด้วยอาทร ณ ใจเธอ

ตั้งหวังแม้ผิดหวัง
เพียงพลาดพลั้งเพราะไพล่เผลอ
ใช่แปลกจะปรุงเปรอ
จิตเสนอใจสนอง

พิศแนวที่ผิดนั้น
ค่อยเรียงรันเป็นครรลอง
แผ้วถางหนทางทอง
ในรอยร่องของบทเรียน

เรียนทุกข์จากทุกข์แท้
ใช้พ่ายแพ้แต่เพิ่มเพียร
ทุกข์อื่นทุกข์ดาษเดียร
คือดวงเทียนทิพย์หทัย

ทุกข์ร้อนจะสอนเธอ
ผู้พบเจอประจักษ์ใจ
ทุกข์เข็ญทุกข์เข่นใคร
ทุกข์ไฉนในทุกข์นั้น

สู่นำสำนึกนึก
รู้สึกลึกรู้สึกสรรค์
สร้างสุขจากทุกข์ทัณฑ์
ให้เฉิดฉันและเฉิดฉาย

ก้าวหนึ่งถึงจะน้อย
ก็ทาบรอยไว้ทอดราย
สองสามจะต่อปลาย
ไปสุดสายเพื่อสั่งสม

ธุลีที่ร่วงเท้า
รอยเก่าเก่าที่ลุกล้ม
บาดแผลที่ระบม
ใจที่ขมที่ขื่นนั้น

คือภาพที่ชวนพิศ
คือชีวิตที่ผูกพัน
ดวงใจอัศจรรย์
ที่อดกลั้นและอดทน

รอยหมองประคองใหม่
ด้วยดวงใจไม่อับจน
มิ่งมิตรนฤมล
มีหลายคนคอยปรบมือ

รอยแย้ม ณ แก้มยิ้ม
อันเอิบอิ่มและแสนซื่อ
จะงามจะร่ำลือ
ผสานสื่อทุกสายใย

ขวากหนามจะน้อยนิด
เมื่อดวงจิตเมื่อดวงใจ
เธอกล้าเธอแกร่งไกร
จะก้าวไปไม่ย่อท้อ

เหนื่อยยากจะฝากฝัน
ให้สร้างสรรค์และเสริมก่อ
เม็ดเหงื่อจะถักทอ
เป็นสร้อยศอแห่งศักดิ์ศรี

น้ำตาจะปรากฏ
เกียรติยศความยินดี
หยาดไว้ในวิถี
ขณะที่เธอทอดเท้า

ประถมที่ทอดทาง
รับก้าวย่างแห่งวันเยาว์
ผ่านคล้อยรอยขลาดเขลา
รอยแล้วเล่าใช่ผ่านเลย

ผ่านภาพแล้วพิศภาพ
ทุกรอยทาบซิเธอเอ๋ย
รอยช้ำรอยชื่นเชย
ชีพเฉลยอยู่ลึกลึก

เพื่อนรักเพื่อรู้ใจ
ร่วมฝันใฝ่และฝนฝึก
ร่วมนำความคิดนึก
หลอมผลึกไว้หลากหลาย

หลากรสการเรียนรู้
การต่อสู้แห่งหญิงชาย
วันวานที่ผันผาย
คือความหมายของวันนี้

เพื่อนชังใช่เพื่อนโฉด
เมื่องดโทษรู้ถ้อยที
หาได้ในสิ่งดี
มิตรไมตรีไม่มีตรม

รอยไรไม้เรียวหด
ใช่รอยลวดหรือเหล็กคม
แปลบเจ็บใช่เล็บจม
เข้าจิกข่มจนคับแค้น

ห่วงหาและอาทร
อันสั่งสอนเพราะรักแสน
มิหลู่มิดูแคลน
จะพบแก่นที่แสนรัก

แก่นงามน้ำใจผู้
ชี้ทางสู้อุปสรรค
โอบอุ้มและฟูมฟัก
นั้นหนักนักกรุณา

การบ้านการชีวิต
ปรุงความคิดให้มีค่า
การนั้นจะเพิ่มพา
ภูมิปัญญาทุกนาที

แก้โจทย์ไม่ชักช้า
แก้ปัญหาไม่รอรี
ยอมยากเพื่อจักมี
ภาพชีวีอันรังรอง

สร้างเสริมประสบการณ์
ประสบสานในสิ่งปอง
สร้างทางและขุดทอง
ให้ช่ำชองเถอะวิชา

จำเริญจริยะ
ศิลปะมนุษย์หล้า
จำรัสรัถยา
ที่ทอดท้าทุกเท้าเธอ

สู่มัธยมยศ
อนาคตจะปรุงเปรอ
ด้วยรักด้วยบำเรอ
ที่พบเจอประจักษ์ใจ

ประจักษ์ว่าใจจิต
ที่ผ่านพิศยุคสมัย
ผ่านมาและผ่านไป
เก็บกำไรได้พอแรง

วันวัยในวันพรุ่ง
อรุณรุ่งจะทอแสง
วัยวันอันเปลี่ยนแปลง
จะกล้าแกร่งประสบการณ์

เหลียวหลังแล้วแลหน้า
เพื่อเพิ่มค่าบนทางผ่าน
เหงื่องามที่กรำงาน
คือความหวานคือความหวัง

ความรักที่รายล้อม
ย่อมหล่อหลอมแรงพลัง
จริงใจและจริงจัง
เพื่อถึงฝั่งสุดทางฝัน

เหลียวดูทุกผู้คน
ที่ดิ้นรนและโรมรัน
ชีวีและชีวัน
เขาเหล่านั้นมีเลือดเนื้อ

หัวอกมีหัวใจ
มีดวงไฟอันฟ่องเฟื้อ
มีฝันอันเหลือเฟือ
ไว้เผื่อแผ่ผู้เดินทาง

รอยเท้ามีคำท้า
ในดวงตามีหน้าต่าง
ไพรเถื่อนมีรอยถาง
เมื่อรุ่งสางยังไม่สาย

ลำแสงสุรพี
แต่งแต้มสี ณ ลานทราย
ก่อนแสงลำสุดท้าย
จะลับหายลงปลายฟ้า

โลกนี้คือโรงเรียน
ที่อ่านเขียนด้วยชีวา
ดวงใจที่ใฝ่หา
ในมัคคาคือผู้คน

คือเธอหนึ่งหทัย
ที่ฝันใฝ่และฝึกฝน
ร่ำเรียนและดิ้นรน
อย่าสับสนในแก่นสาร

แก่นแท้ของชีวิต
ปรุงประดิษฐ์จิตวิญญาณ
หล่อหลอมความหอมหวาน
ไว้เจือจานโลกดวงใจ

มีห้องสมุดสื่อ
โลกลายสืออันกว้างใหญ่
ย่อโลกมารวมไว้
ให้คว้าไขว่ไม่ไกลเลย

วันเหงาสำหรับเธอ
ไม่หมองเหม่อเหมือนอย่างเคย
ท่องบรรณโลกเผย
โลกเฉลยไม่แล้งร้าย

มีแก้วกวินทร
เพชรอักษรอันเพริศพราย
เป็นช่อบุหลันฉาย
เป็นดาวรายชวาลา

เป็นอังศุมาลินทร์
แห่ด้าวดินดำเกิงกล้า
เป็นมัคคุเทศก์พา
ไปสู่ฟ้าไปสู่ฝัน

มาเถิดประทับรอย
มาถักร้อยทางนิรันดร์
ด้วยเท้าที่ก้าวทัน
คืนและวันอย่างมั่นคง

มาเถิดอย่าชักช้า
มาศึกษาความสูงส่ง
สูงแล้วใช่ต่ำลง
ให้ดำรงให้จงดี

มาเถิดเมื่อมาถึง
ณ จุดหนึ่งในวิถี
จะพบว่ายังมี

ทางรกก็รื่นรมย์
มีไม้ร่มอยู่สวยสด
ร่มไพร ณ บรรพต
ใช่วงกตที่คดค้อม

ทางเตียนก็มีตอ
ให้เธอหล่อให้เธอหลอม
รางชางและรอมชอม
ชีพถนอมทะนุกนาม

ทางลุ่มก็ชุ่มฉ่ำ
มีลำน้ำสรงสนาน
ซ่านใสหทัยธาร
กระเซ็นซ่านก็เย็นทรวง

ทางสูงก็จูงจิต
ให้รู้ปลิดเกลศปวง
สะอาดสะอ้านดวง
หทัยล่วงสลัดเบา

ทางใดก็ดีล้วน
เมื่อใคร่ครวญไม่เมาเขลา
ดุ่มเดินใช่ดุ่มเดา
ทุกทอดเท้าที่ทาบทาง

ณ บนถนนนี้
ที่ชีวีเธอวาดวาง
นักสู้และนักสร้าง
ได้ถมร่างเป็นร้อยร้อย

กว่าเถื่อนจะเป็นทาง
และกว่าร่างจะเป็นรอย
นานนับมิใช่น้อย
ที่โลกคล้อยวันและคืน

ณ บนถนนใด
ก็เป็นไปในภพพื้น
รอยทบรอยกลบกลืน
ไว้ดาษดื่นบนทางเดิน

ทุกรอยที่คล้อยผ่าน
ต้องร้าวรานต้องเลือดริน
สร้างทางและสร้างถิ่น
ด้วยชีวินด้วยชีวิต

ตำนานแห่งรอยเท้า
ทุกรอยเนาแนบสถิต
ในทุกสารทิศ
ในจิตพิจารณา

นั่น_ดูสิรอยใด
เคยยิ่งใหญ่ในพารา
ไร้ธรรมค้ำศรัทธา
ไม่เนิ่นช้าก็น่าชัง

รอยโน้น..แน่ะ-รอยนั้น
เคยหไหวหวั่นคอยสิ้นหวัง
ธรรมยึดประพฤติยัง
ให้มลังเมลืองแรง

เจ็บปวดสักเท่าไหน
ถ้าดวงใจยังกล้าแกร่ง
เหล็กลิ่มมาทิ่มแทง
ก็มิแปลงมีเปลี่ยนปราณ

สาหัสสักร้อยหน
ถ้าเที่ยงทนก็ทัดทาน
คราบสิ้นไร้วิญญาณ
ก็จะสานศรัทธาใจ

อุดมศึกษามิตร
มหาวิทยาลัย
รุ่งอรุโณทัย
ก็มิไกลมิห่างเกิน

ฉัน_เดินทางมามาก
ฉันจึงอยากให้เธอเดิน
เดินเถิดให้เพลิดเพลิน
กล้าเผชิญโชคชะตา

กล้าก้าวแต่ละก้าว
ทุกก้าวคราวนั้นมีค่า
ก้าวใครในมัคคา
จะเร็วช้าใช่สำคัญ

สำคัญเมื่อก้าวเท้า
ทุกก้าวเราและเขานั่น
ก้าวหน้าไปด้วยกัน
ฤาก้าวนั้นจะถอยหลัง

ฤาถอยเพื่อตั้งหลัก
เพื่อผ่อนพักเมื่อผิดพลั้ง
ก็ตามแต่กำลัง
ที่จะฝังจะฝากแฝง

ขอเธออย่าทดท้อ
ฉันจะรอทุกหนแห่ง
เชิญฝันอันโรจน์แรง
เสาะแสวงโลกแสงสี

สีแสงอารยะ
ล้ำสาระในโลกนี้
คือดวงแก้วมณี
แห่งชีวีมนุษย์ชน

คำว่า "มนุษย์" จูงใจ
จิตใจสูงของผู้คน
สูงพอและสูงพ้น
ความหลงตนเห็นแก่ตัว

มีธรรมเป็นตาชั่ง
มีศีลรั้งเป็นคอกรั้ว
น้ำใสไร้ขุ่นมัว
ประดับบัวหัวใจบาน

ภู่ฟ้อนภมรฟ้า
จะศรัทธา ณ สายธาร
น้ำไหวดอกไม้หวาน
ไม่หักหาญเมื่อดอมดม

เกียรติเธอผู้เดินทาง
มาสรรค์สร้างความพรั่งพร้อม
ความเป็นมนุษย์หลอม
ไว้กลางอ้อมอกสมัย

สวยเอย..สวยสะอาด
นรชาติ ณ เส้นชัย
ฝากรอยโลกวิไล
ไว้เพื่อใครอีกหลายคน

รอยเบิกและรอยบุก
บนทางทุกที่คงทน
ทุกข์ร้อนได้ผ่อนปรน
แก่หมู่ชนทุกชนชั้น

รอยบาปที่ทาบทบ
รอยบุญกลบสิทบทัน
ทิ้งรายไว้นิรันดร์
เพียงเฉิดฉันและเฉิดฉาย
จงลบจงสลาย
ความร้อนร้ายในโลกา

สักวันสำคัญคล้อย
รอยทุกรอยในโลกหล้า
จะหอมเสน่หา
ปานบุปผาสุมาลัย

ทวนลมกระแสโลก
ทวนทุกข์โศกไม่สงสัย
ดื่นดอมและหอมได้
ทั่วไผททิพย์ถาวร

ฉันฝันและฉันใฝ่
ฤาจะไร้จะร้าวรอน
หากเธอผู้อาทร
มิท้อถอนจะร่วมทาง

เธฮฝันและฉันใฝ่
ร่วมน้ำใจกันไม่จาง
รอยเท้าที่เราวาง
จะมิร้างไปสักรอย

ไรรอยจะร้อยรัด
เกียรติประวัติจะรัดร้อย
ทุกตรอกทุกซอกซอย
ชีวิตน้อยจะดำเนิน

ใจพ่อที่เลิศแล้
และใจแม่ที่จำเริญ
จะชื่นจะชมเพลิน
สุดประเมินสุดประมาณ

ญาติมิตรร่วมสมัย
จะสดใสจะสุขศานต์
ร่วมยุคสุขสราญ
ที่ก้าวผ่านทุกขั้นตอน

พักใจเธอตรงนี้
ลานวลีร่มอักษร
ดื่มน้ำคำสุนทร
สักหน่อยก่อนค่อยรอนแรม

มิดค่ำลงกลางคัน
เชิญพักขวัญชมจันทร์แจ่ม
ชมดาววับวาวแวม
อันแต่งแต้มรัตติกาล

ฟังเพลงเรไรร่ำ
น้ำค้างฉ่ำคัดนานต์
โชยมิ่งสุคันธมาลย์
มาซาบซ่านรสนาสา

เสียงลมบนยอดไม้
เสียงน้ำไหลในราวป่า
เสียงนกโกกิลา
จะแว่วมาเมื่อฟ้าสาง

เมื่อนั้นตะวันเรือง
จะย่างเยื้องรัถยางค์
ส่องทางอีกหลายทาง
ให้เธอย่างให้ฉันเยือน

อีกฟากและอีกฝั่ง
จะถึงรังจะถึงเรือน
อีกภาคอีกภพเพื่อน
จะถึงเดือนจะถึงดาว

ถึงแดนบุปผชาติ
ดารดาษดอกสีขาว
ผลพลอยเพชรพร้อยพราว
จะโน้มน้าวกิ่งมณี

หนึ่งนั้นคือบำเหน็จ
ความสำเร็จพิเศษศรี
เถิดมาอย่าช้าที
ลู่วิถีวลีทิพย์

จบร้ำคำจารึก
ยื่นบันทึกให้เธอหยิบ
ยามไร้อยู่ไกลลิบ
ฝากกระซิบในรอยสาร

กำไรจากรอยเท้า
คือรูปเงาแห่งเท้างาน
รอยกาพย์-ศิวกานท์
ผจงจารจากดวงใจ

" ศิวกานต์ ปทุมสูติ "

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น