ปัญหาจราจรเป็นปัญหาที่ใกล้ตัวและมีผลกระทบในวงกว้างทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ป ัจจุบันหลายหน่วยงานพยามเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวแต่เนื่องจากปริมาณยานพาหนะที่ เพิ่มอย่างรวดเร็วกว่าการสร้างถนนทำให้ปัญหาความคับคั่งของการจราจรดูเหมือน จะไม่ได้รับการแก้ไข หลายประเทศในโลกได้นำระบบเทคโนโลยี ICT เข้ามาช่วยแก้ปัญหาจราจรและพิสูจน์ว่าได้ผลดี ระบบดังกล่าวเป็นที่รู้จักในสากลมีชื่อว่า ระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ หรือ Intelligent Transport Systems ระบบนี้มิได้มุ่งเน้นการแก้ปัญหาจราจรติดขัดแต่อย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการนำเทคโนโลยี ICT มาช่วยในการขนส่งเช่นการขนส่งสินค้า หรือการขนส่งมวลชน และรวมไปถึงความอัจฉริยะที่ใส่เข้าไปในโครงสร้างพื้นฐานด้านการจราจรและตัวยานพาหนะเองอีกด้วย นอกจากนี้ ITS ยังส่งผลทางอ้อมต่อการลดและป้องกันอุบัติเหตุ การลดปัญหามลภาวะ และการประหยัดพลังงาน
แม้ว่าประเทศไทยจะเริ่มมีการนำเทคโนโลยี ITS จากต่างประเทศมาใช้และมีแผนแม่บทแห่งชาติขึ้นในปี 2548 แต่การวิจัยและพัฒนายังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง อีกทั้งการนำ ITS มาใช้ยังขาดการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่ลงทุนกับนักวิชาการและขาดการวางแผนร่วมกันระยะยาวทำให้ ITS ถูกนำมาใช้อย่างไร้ทิศทางและไม่เกิดประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดของรัฐที่ทำหน้าที่ดูแล ITS โดยตรง และยังไม่มีการรวมกลุ่มหรือตั้งสมาคมด้าน ITS มาก่อนแม้ว่าในหน่วยงานการศึกษาจะมีอาจารย์ที่ทำวิจัยด้านนี้มานานแต่ก็ยังไม่เคยนำผลงานมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ เพราะยังขาดเวทีและการสนับสนุนจากภาครัฐและการเชื่อมโยงกับ ITS community ในต่างประเทศ
โปรแกรมระบบขนส่งและการจราจรอัจฉริยะ- การใช้ Image Processing ในการวิเคราะห์การจราจรจากภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว และรายงานสภาพจราจรแบบ Real time เพื่อรายงานผลในรูปแบบต่างๆ ซึ่งในการประมวลผลภาพเคลื่อนไหวนี้ระบบจะตรวจนับจำนวนรถยนต์บนถนน และความเร็วรถ ซึ่งผลงานวิจัยสามารถนำไปใช้ได้กับหน่วยงานอื่น เพื่อสำหรับการแก้ปัญหาจราจร
- มีการใช้ http://traffic.thai.net/ เพื่อแพร่ภาพสภาพการจราจรบนทางด่วนสู่สาธารณะชนบนอินเทอร์เน็ต เพื่อการตัดสินใจเลือกเส้นทางซึ่งเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาการจราจร และเก็บข้อมูลสถิติทางจราจร มีการรายงานสภาพการจราจรที่ตัดขัด มีการสรุปรายงานล่าสุดเกี่ยวกับ อุบัติเหตุ งานก่อสร้าง รถเสีย
ที่มา http://learners.in.th/blog/a-a/31151
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น