++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

ไม่อยากให้หญิงต้องทุกข์เพราะรักเลย


คำว่า รัก มีหลายสิ่งให้มองเห็น
รักแบบไหน ที่เป็นไม่ทุกข์หนอ
คำว่า รัก มีมากล้น จนเกินพอ
ก็ไม่เคย แก้ปัญหา ที่ทุกข์ใจ

เพราะมัว แต่มองหา คน ที่จะรัก
ไม่เคยพัก มองใจตน ที่ไขว่หา
แท้จริงสิ่งที่ต้องการ เคียงกายา
มิใช่หา คนมารัก ให้ปวดทรวง

สิ่งที่หญิงพึ่งหาคือ ความรัก
มิใช่คนรัก ที่พาจิตผิดลุ่มหลง
ความรักแท้ พาหัวใจ ออกจากพง
กิเลสตน ที่เป็นคน เห็นแก่ตัว

หากว่ามองออกซึ่ง ความรัก
ไม่ช้ำหนัก เพราะ จะรักคน ที่ใจเห็น
คนที่รัก หัวใจให้ คนอื่นเป็น
มิใช่รัก คนที่เห็น แก่ตัว อยู่เรื่อยไป

จะรู้ได้อย่างไร ว่าใครรัก
ก็ประจัก ดูได้ด้วยเหตุผล
หากรักนั้นที่ให้มา มีเล่ห์กล
จะเป็นคน ที่ควรรัก ได้เช่นไร

หญิงพึ่งมอง พึ่งมั่น ว่าควรรัก
ก็ตระหนัก และคิดจน หายสงสัย
คนที่มา คนนี้ มีหัวใจ
ให้ความรัก เราจริง มิได้ลวง

หาก รู้แน่ ว่าต้องการ คือความรัก
ไม่ใช่ สักแต่ว่า จะหาเหมือน
ขอความรัก จริงๆ ไม่มีเลือน
คงต้องเตือนใจตน ตลอดไป

ความรักแท้ของชายที่หมายมั่น
จะต้องตั้งกำแพงสูงหนักหนา
ให้พวกชายเหล่านั้น ปีนป่ายมา
อย่าได้ลด กายา พาทุกข์ใจ

สิ่งที่ต้องหวงแหน ควรหวงแหน
สร้างกำแพงให้สูงสุด พอหายสงสัย
หากว่าชาย เล้าโลมเรา จนได้ไป
จะรู้ได้อย่างไร ว่ารักจริง มิได้ลวง

ใจเรารัก เราจึงให้ อย่าได้หลอก
ขอเพียงกอดเราก็รู้ว่า สุขสม
หากว่าเริ่ม ด้วยเล่ห์ จนท้องกลม
ก็ต้อง ตรม อุรา เพราะ รักลวง

หากว่ารัก ของชาย ไม่บริสุทธิ์
สิ่งที่จะ ผุด คือ ชายไร้ศักดิ์ศรี
ความรับผิดชอบ ที่ควรได้กลับไม่มี
เป็นแค่คน อัปรีย์ อย่าใส่ใจ

สิ่งที่หญิง พึ่งมั่น ควรสอนหญิง
ใจต้องหยิ่งและรัก ในศักดิ์ศรี
สอนลูกให้ รักษ์กาย ใจ อย่าได้พลี
ชาย ย่ำยี ไร้รัก จะทุกข์ตรม

ความรัก แท้ จะได้เจอ เมื่อเจอรัก
และประจักษ์ ในใจนั้นและน่า
ว่ารู้สึก อยากให้ตลอดเวลา
จะไม่เปลื้องกายา หากรักเป็น

เรารู้ ว่า เรารัก เราจักให้
ก็นำไป ใช้มองดู คู่ที่หา
หากไม่เคยให้เลยตลอดเวลา
เราจักหา ความรัก จากเขาได้อย่างไร

สิเน่หาใคร ใคร ก็ล้วนอยาก
แต่มันพรากความสุข จะเอาหรือ
หากว่าให้มันนำ ไม่ฝึกปรือ
เป็นกระบือ ให้มันหลอก อยู่เรื่อยไป

ขอแค่รู้ว่าสิ่งที่ต้องการคือความรัก
ได้ประจักษ์ ว่ารักนี้ดี หนัก หนา
จะสามารถ เหนี่ยวนำ และนำพา
ดวงวิญญาณ ไปสู่ นิจ นิรันดร์

ที่มา http://weblog.manager.co.th/publichome/manomai/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น