ในฟ้าบ่มีน้ำ ในดินซ้ำมีแต่ทราย
น้ำตาที่ตกราย ก็รีบซาบบ่รอซึม
แดดเปรี้ยงปานหัวแตก แผ่นดินแยกอยู่ทึบทึม
แผ่นอกที่ครางครึม ขยับแยกอยู่ตาปี
มหาห้วยคือหนองหาน ลำมูลผ่านเหมือนลำผี
ย้อมชีพ คือ ลำชี อันชำแรกอยู่รีรอ
แลไปสดุ้งปราณ โอ้อีศาน, ฉนี้หนอ--
คิดไปในใจคอ บ่ค่อยดีนี้ดังฤา?
พี่น้องผู้น่ารัก น้ำใจจักไฉนหือ?
ยืนนิ่งบ่ติงคือ จะใคร่ได้อันใดมา?
เขาหาว่าโง่เง่า แต่เพื่อนเฮานี่แหละหนา
รักเจ้าบ่จางฮา แลเหตุใดมาดูแคลน--
เขาซื่อสิว่าเซ่อ ผู้ใดเน้อนะดีแสน
ฉลาดทานเทียมผู้แทน ก็เห็นท่าที่กล้าโกง
กดขี่บีฑาเฮา ใครนะเจ้า จงเปิดโปง
เที่ยววิ่งอยู่โทงโทง เทียวมาแทะให้ทรมาน
รื้อคิดยิ่งรื้อแค้น ละม้ายแม้นห่าสังหาร
เสียตนสิทนทาน ก็บ่ได้สดวกดาย
ในฟ้าบ่มีน้ำ ในดินซ้ำมีแต่ทราย
น้ำตาที่ตกราย คือเลือดหลั่ง! ลงโลมดิน
สองมือเอามีแฮง เสียงเฮาแย้งมีคนยิน
สงสารอีศานสิ้น อย่าซุด, สู้ด้วยสองแขน!
พายุยิ่งพัดอื้อ ราวป่าหรือราบทั้งแดน
อีศานนับแสนแสน สิจะพ่ายผู้ใดเหนอ?
****************************
ผู้แต่ง : อัศนี พลจันทร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น