++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คิดติดกรอบ?



คนส่วนใหญ่รู้ว่าถ้าเราต้องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เราต้อง “คิดนอกกรอบ”!!! แต่คุณเชื่อไหมคะว่า น้อยมากที่คนจะรู้ว่า “กรอบความคิด” ของเขาอยู่ตรงไหน???
คำว่า “คิดนอกกรอบ”ในที่นี้ดิฉันไม่ได้หมายถึงแค่ ความคิดสร้างสรรค์ หรือไอเดียใหม่ๆเท่านั้น แต่ดิฉันอยากให้พิจารณาถึงวิธีคิดและวิธีการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วย “ข้อจำกัด” และ “กรอบ” ที่ปิดกั้นสิ่งที่เราอยากทำ อยากมี หรืออยากเป็น
เราใช้ชีวิตกับความคิดเดิมๆ การกระทำเดิมๆ มานานมาก เราทำซ้ำๆกันเป็นรูปแบบ(Pattern) เดิมๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว เหมือนปลาที่อยู่ในน้ำ มันจะไม่เคยเห็นน้ำอย่างชัดเจน ถ้าเราจับมันขึ้นออกมาจากน้ำแล้วให้มันดู ปลามันคงตกตะลึงว่า ..ว้าว! นี่หรือน้ำที่ฉันใช้ชีวิตแหวกว่ายอยู่ทุกวัน!
เหมือนกันกับเราที่เป็นมนุษย์นี่แหละ เราจะทำทุกอย่างโดยอัตโนมัติ คิด..พูด..ทำ..จากอดีตที่สมองบันทึกไว้ แล้วเราก็โต้ตอบกับผู้คนและสถานการณ์ต่างๆไปตามสัญชาติญาณการเอาตัวรอดโดยอัตโนมัติ ขอเน้นอีกครั้งว่า “โดยอัตโนมัติ” .. ถ้าใครทำไม่ดีกับเรา เราก็โต้ตอบกลับไป .. ใครว่าเรา เราก็ว่ากลับไป บางคนก็โต้ตอบด้วยการนิ่งเฉย .. เราทำโดยที่เราไม่รู้ตัว . . เหมือนเราเห็นจระเข้ เราไม่ต้องคิดเลยว่าเราจะวิ่งหนีดีหรือเราจะสู้ดี เราจะวิ่งหนีโดยอัตโนมัติเลยใช่ไหมคะ?
เรามีรูปแบบ (Pattern) ในการคิด พูด ทำ แบบอัตโนมัติเดิมๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยว่า มันได้กลายเป็น “กรอบ” และเป็น “ข้อจำกัด” ในการใช้ชีวิตของเรา!
ถ้าเราอยากจะ “คิดนอกกรอบ” ก่อนอื่นเราต้อง “เห็นกรอบ” ของเราซะก่อน!
การที่คุณจะ“เห็นกรอบ”ได้ คุณต้องถอนตัวเองออกมาเป็น “ผู้ดู” .. ดูตัวอัตโนมัติของคุณว่ามันทำงานอย่างไร? เหมือนดึงปลาออกมาจากน้ำ จะได้เห็นน้ำที่ชัดเจนสักทีหนึ่ง และวิธีการที่คุณจะดึงตัวเองออกมาเป็น “ผู้ดู” ก็คือ คุณต้อง “มีสติ” ในการดูในการแยกแยะ และการที่คุณจะ “มีสติ” ได้นั้น คุณต้อง“ฝึกสติ”! คอยจับตาดูอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด คำพูด และการกระทำของคุณเองว่า มันเกิดอะไรขึ้น มันมีที่มาจากไหน? . . ถ้าคุณกลัว ทำไมถึงกลัว คุณมีความคิดอะไรที่ทำให้คุณกลัว? . . ถ้าโกรธ ทำไมถึงโกรธ ความคิดที่ทำให้คุณโกรธคืออะไร? อันที่จริงแล้ว มันไม่ใช่ว่า “ใคร” ทำให้คุณโกรธ แต่คุณมี “ความคิด” อย่างไรที่ทำให้คุณโกรธต่างหากล่ะ?
อย่างที่กล่าวถึงข้างต้นว่า คนเราจะมีรูปแบบความคิดและการกระทำซ้ำๆแบบเดิมๆ ซึ่งคำว่า “แบบเดิม” ก็มีที่มาจาก “อดีต” . . เราใช้ชีวิตโดยมี “ข้อจำกัดจากอดีต” เยอะมาก และนี่คือ “กรอบ” ของเรา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเคยเสนอความคิดเห็นอะไรบางอย่าง แล้วเจ้านายไม่เห็นด้วยกับเรา ต่อไปเราอาจจะไม่เสนอความคิดของเราแล้วก็ได้ บางครั้งมีเรื่องใหม่เข้ามา ซึ่งเรามีไอเดียที่บรรเจิดมาก แต่เราก็อาจจะไม่เสนอ เพราะเราคิดว่า “เดี๋ยวเจ้านายก็คงไม่เห็นด้วยกับเราเหมือนเดิม (เหมือนในอดีต) นั่นแหละ ไม่รู้จะเสนอไปทำไม” .. ถ้าคิดแบบนี้ แล้วสิ่งใหม่ๆมันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร! .. นี่แหละคือ “ข้อจำกัด” และ “กรอบ”ในการใช้ชีวิตของเรา!
ดิฉันเชื่อว่า เวลาที่คุณสปอนเซอร์หรือรีครูตคนให้เข้ามาร่วมงานกับคุณ คุณคงได้รับคำตอบประเภทที่ว่านี้เยอะเลยใช่ไหมคะ? เช่น “โอ๊ย ฉันพูดไม่เก่ง ฉันทำงานแบบนี้ไม่ได้หรอก” “ฉันรู้จักคนน้อย ฉันทำไม่ได้หรอก” “ฉันเรียนมาน้อย ไม่มีใครเชื่อถือฉันหรอก” . . ถ้าถามคนเหล่านี้ว่าเขาเห็นโอกาสไหม? เขาอาจจบอกว่าเห็น ถ้าถามว่าเขาอยากมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมไหม? เขาก็คงบอกว่าอยาก แต่ถ้าจะให้เขาทำงานแบบนี้ เขาคงทำไม่ได้หรอก .. เพราะ “คิด” ว่าคนที่ทำงานขายต้องพูดเก่ง ต้องรู้จักคนเยอะ ต้องเรียนสูงหน่อยคนถึงจะเชื่อถือ! .. เห็นไหมคะว่า คนเราจะติดอยู่กับ “ข้อจำกัด” และ “กรอบความคิด” ของตัวเองเยอะมาก..ก..ก! ทำให้โอกาสดีๆหลุดลอยไป หรือรายได้ที่เขาสามารถสร้างได้นั้นผ่านเลยไป!
ขอถามหน่อยค่ะว่า คุณกลัวการเสนอขายลูกค้ารายใหญ่ไหมคะ? .. ถ้ากลัว ทำไมถึงกลัวล่ะคะ? คุณ “คิด” แบบนี้หรือเปล่าคะ? . . “เขารวยขนาดนี้ เขาจะมาฟังเราเหรอ” “เรามันคนละชั้นกับเขา เขาไม่ฟังเราหรอก” “พวกเศรษฐี เขาไม่สนใจคนอย่างเราหรอก” . . ถ้าคุณ “คิด” ทำนองนี้ ดิฉันอยากจะบอกว่า คุณก็กำลัง “ติดกรอบความคิด”ของตัวเองอยู่ ทำให้คุณไม่กล้าเสนอขาย!!! ความจริงก็มีแค่ “เขามีเงินมากกว่าคุณ” เท่านั้นแหละ! ปล่อยวางความคิดเดิมๆของคุณซะ แล้วใช้คาถาของดิฉัน .. “1 .. 2 .. 3 .. ลุย!” เอ่ยปากขายทันทีเลย O.K.ไหมคะ?
อย่าลืมที่จะ “ฝึกสติ” แล้วสำรวจตัวเองบ่อยๆว่า “เราคิดติดกรอบ” มากแค่ไหน???
ขอพูดถึงงานสัมมนา “ปลุกยักษ์” สักนิดนะคะ . . วันก่อนเจอผู้นำท่านหนึ่งที่พาดาวน์ไลน์ใหม่ๆเข้า เขาบอกว่า “เวิร์คมากเลยค่ะ อาจารย์ .. แต่ละคนกลับไปมีความกล้ามากขึ้น มุ่งมั่นมากขึ้น!” .. ดิฉันเจอแม่ทีมใหญ่ท่านหนึ่งเขาบอกว่า “ถ้าผมอยากให้ยอดขายขึ้น ผมแค่ส่งทีมงานไปเข้าปลุกยักษ์เยอะๆ ยอดก็ขึ้นแล้ว!” .. มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่า เขาเพิ่งเคยสัมผัสกับพลังที่ยิ่งใหญ่ในตัวเอง! .. น้องผู้ชายคนหนึ่งโทรมาหา พูดไม่หยุดเลยเพราะตื่นเต้นกับผลงานที่ตัวเองทำได้แบบเหนือความคาดหมาย! .. สามีภรรยาคู่หนึ่งพาทีมงานมาเกือบ 20 คน บอกว่าเขาอยากเข้าปลุกยักษ์มาก เขาตื่นเต้นที่เพื่อนของเขามีผลงานแบบก้าวกระโดด จากยอดขายที่เคยทำได้หมื่นต้นๆ กลับไปทำได้ 300,000กว่าบาท! .. ว้าว! สุดยอดมาก!
ที่ดิฉันเล่าให้ฟังเพราะอยากให้คุณได้มีโอกาสสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ในตัวเอง และถ้าคุณมีทีมงาน ก็ควรพาพวกเขาเข้า “ปลุกยักษ์” ให้มากที่สุดเท่าที่คุณสามารถทำได้ เพราะทีมงานของคุณมีศักยภาพอยู่ข้างในมากมายที่เขายังไม่ได้เอาออกมาใช้!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น