โลภมากลาภหาย ตายไปต้องเกิดเป็น เปรตเฝ้าสวนมะม่วง
ทรัพย์สิน เงินทองแม้จะเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตให้มีความสุขแต่ก็มีโทษมหันต์ เพราะเป็นเหตุให้เกิดกิเลสคือ ความโลภและมิใช่โลภแต่ในทรัพย์คนอื่นเท่านั้นที่มีโทษ แม้แต่โลภหรือหวงแหนในทรัพย์ของตนก็เกิดโทษเช่นกัน
ดังเรื่องของเปรตที่ปรากฏในคัมภีร์อรรถกถาว่า๑มี เศรษฐีผู้หนึ่งภายหลังหมดเนื้อหมดตัวกลายเป็นคนยากจน และภรรยาก็มาตายไปอีกเหลือเพียงลูกสาวคนเดียว จึงไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนบ้าน ต่อมาได้หยิบยืมเงินจาก
เพื่อนมา ๑๐๐ กหาปณะเพื่อมาลงทุนค้าขาย เมื่อขายสินค้าหมดแล้วได้เงินมาทั้งหมด ๕๐๐ กหาปณะ จึงเดินทางกลับ
ระหว่าง ทางมีโจรป่าดักปล้นทรัพย์ พวกพ่อค้าจึงแตกกระจายไปคนละทิศละทาง ส่วนตัวเขาด้วยความที่หวงแหนในทรัพย์สมบัติจึงนำไปฝังไว้ที่ใต้ต้นไม้ต้น หนึ่ง ในสวนมะม่วง แล้วไปหลบซ่อนอยู่ที่ใกล้ต้นไม้ใหญ่และถูกพวกโจรป่าฆ่าตายกลายเป็นเปรตเฝ้า สมบัติอยู่ที่ใต้ต้นไม้นั้นเอง
ภาย หลังลูกสาวของเขาทราบข่าวจากพวกพ่อค้าที่กลับมาบอกจึงถวายข้าวต้มยาคูและ มะม่วงสุกแก่ระพุทธเจ้าแล้วอุทิศผลบุญให้แก่บิดาที่ได้ล่วงลับไป ด้วยอานิสงส์ผลบุญนั้นส่งผลให้บิดาของนางได้เสวยทิพยสมบัติกลายเป็นเทวดา พ้นจากความเป็นเปรตในบัดนั้น
๑พระสูตร และอรรถกถา แปล ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เล่มที่ ๒ ภาคที่ ๒ : มหามกุฏราชวิทยาลัย ; ๒๕๒๕
เครดิต : หนังสือ "มีสุขในยุคของแพง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น