++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ข้อเท็จจริง กรณีอากง SMS




จากการที่มีการพูดถึงกันมาก เกี่ยวกับอากงSMS ผมขอแชร์ความรู้คราวๆ เกี่ยวกับระบบมือถือเท่าที่ผมรู้เพื่อเป็นข้อมูลอีกด้าน
นอกจาก ดราม่า "อากงผู้น่าสงสารที่นั่งอยู่ดี ๆ ที่บ้าน ก็โดน ตร. บุกมารวบเข้าซังเต 20 ปี ด้วยข้อหาหมิ่น
และ ศาลก็มีหลักฐานที่อ่อนอย่าง IMEI ที่สามารถปลอมแปลงได้"

ปกติ แล้ว โทรศัพท์ที่พร้อมใช้งาน จะมีข้อมูลสำคัญ 2 อย่างคือ 1) IMEI ซึ่งเป็น รหัสที่ระบุ ตัวตนของโทรศัพท์ซึ่งตามหลัก
โทรศัพท์แต่ละเครื่องควรจะมี IMEI ไม่ซ้ำกันถึงแม้จะเป็น ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันก็ตาม

2) IMSI ซึ่งเป็น รหัสที่ระบุใน SIM

หลังจากที่ เปิดโทรศัพท์แล้ว โทรศัพท์ จะรอคลื่นจาก Cell Site ที่มีรหัส SID(รหัสค่ายมือถือ) ตรงกับที่ระบุใน SIM
หากพบคลื่นจาก Cell Site โทรศัพท์มือถือจะทำการ "ลงทะเบียน" กับ Cell Site นั้น โดยส่ง IMEI/IMSI
ไปให้ Cell Site Cell Site ก็จะจดจำ IMEI/IMSI เข้าในเครือข่าย เพื่อว่า ใครโทรมาหาเรา เครือข่ายจะได้รู้ว่า
เราสังกัดอยู่ Cell Site ไหน แล้วทำให้โทรศัพท์เราดัง ได้ถูก ซึ่ง Cell Site นี้ มีระยะทำการตั้งแต่หลัก ไม่กี่ร้อยเมตร
จนถึงหลายกิโลเมตร ทำให้ข้อมูล Cell Site สามารถบ่งชี้ สถานที่ของผู้ใช้โทรศัพท์แบบคราว ๆ ได้ (ถ้าใครใช้
GoogleMap บน Smart Phone คงจะเคยเห็น วงฟ้าๆของระยะ Cell Site เวลา GPS ยังรับคลื่นไม่ได้)

ดัง นั้น log จาก โอเปอเรเตอร์ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในชั้นศาล จะมีข้อมูลสำคัญถึง 4 ด้าน คือ 1) IMEI
(รหัสที่ระบุ โทรศัพท์) 2) IMSI (รหัสที่ระบุ SIM) 3) Cell Site ที่เชื่อมต่อ ซึ่งจะบ่งชี้ถึงสถานที่ 4) ช่วงเวลา
ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย

ซึ่งข้อมูล log จาก โอเปอเรเตอร์ บ่งชี้ว่า ช่วงเวลา เชื่อมต่อกับ True หยุดไป ไปเชื่อมต่อกับ DTAC
แล้วส่งข้อความหมิ่นฯ ก่อนจะกลับมา เชื่อมต่อกับ True อีกครั้ง ใน cell site สถานที่เดียวกันคือ บ้านลุง
นั่นคือ โทรศัพท์อากง มีการเปลี่ยน SIM เพื่อหมิ่นฯ ก่อนจะเปลี่ยน SIM กลับ นั่นเอง!!!!

ถึง แม้จะมีข้อเท็จจริงว่า "มีโปรแกรมเฉพาะที่สามารถเข้าไปแก้ไขเลข IMEI ได้อย่างอิสระ" แต่ log จะไม่มีทางที่จะ
หน้าตาแบบนี้ อย่างน้อย cell site และ เวลาควรจะแตกต่างกันมากกว่านี้ ไม่ใช่สถานที่เดียวกัน แล้วช่วงเวลา
เชื่อมต่อ SIM กันแบบนี้

สรุปง่ายๆคือ
1) โทรศัพท์มือถือสามารถปลอมแปลง IMEI หรือไม่? คำตอบคือ "ใช่" . แต่ .
2) อากงถูกปลอมแปลง IMEI ไปหมิ่น หรือไม่? คำตอบกลับเด่นชัดว่า "ไม่"
เพราะ ข้อเท็จจริงของ log จาก โอเปอเรเตอร์ นั้นครอบคลุมชัดเจนกว่า เพียงด้าน IMEI
แสดง ให้เห็นว่า "จำเลยกระทำความผิดจริง อย่างมีการวางแผนล่วงหน้าเพื่อกลบเกลื่อนความผิดด้วยการซื้อ
SIM DTAC แบบใช้แล้วทิ้ง มาก่อการ" หน่ำซ้ำ จำเลยยังไม่สำนึกผิด ยังพยายามกลบเกลื่อนต่อในชั้นศาล
เพื่อให้ตนพ้นข้อกล่าวหาว่า โดย

1) ตอนแรกพยายามจะบอกว่า เดือนพฤษภาคมนั้นตนเอามือถือไปซ่อม (จะโบ้ยว่าร้านมือถือเป็นคนส่ง)
แต่หลักฐาน log มีสถานที่กำกับ จำเลยจึงเปลี่ยนคำให้การ อ้างว่าจำผิด อาจส่งซ่อมเดือนเมษายน
2) จากนั้นจึงอ้างว่า IMEI นั้นสามารถปลอมแปลงได้ ดังนั้น อากงอาจถูกปลอมแปลงตอนไปซ่อมมือถือ
แต่คำให้การก็มีพิรุธ อ้างว่าจำร้านซ่อมมือถือไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ ถ้าส่งซ่อมจริงต้องจำได้เพื่อไปเอามือถือคืน
นอกจากนี้ log ก็ ชี้ชัดอยู่แล้วว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
3)อากงจึงดิ้นรนเฮือกสุด ท้ายว่า อากงลืมมือถือไว้ที่บ้านบ่อย ๆ โดยให้คนใกล้ชิดมาเป็นพยาน
จะโบ้ยว่ามีใครบุกเข้ามาในบ้านเปลี่ยน SIM แล้วส่ง??) ซึ่งไม่ make sense เลยคือ ถ้าบุกถึงในบ้านจะมาเปลี่ยน
SIM ทำอาแป๊ะอะไร??

ศาลจึง จัดเต็ม ไป 4x5 = 20 ปี คุก 20 ปีของอากง จึงไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย!!

4) ข้อน่าสังเกตอันนึงคือ หลังจากจนต่อหลักฐานโจทก์ อากงยังเลือกที่จะสู้ต่อ ด้วยดราม่าน่าสงสาร ว่าตนจงรักภักดี,
แก่แล้วหลงๆลืมๆ, ส่ง SMS ไม่เป็น ฯลฯ และ ยังเอาหลานมาเป็นพยาน เพื่อให้บันทึกในศาลอีกด้วย ซึ่งตรงนี้ถ้าใครรู้
เรื่องนิติศาสตร์ จะรู้ว่าการต่อสู้แบบนี้จะไม่มีผลต่อคดีในศาลเลย เหมาะกับจัดตั้งมวลชนนอกศาลมากกว่า
เพราะคนปกติ มักจะคิดว่า คนใกล้ชิดให้การ ศาลควรให้น้ำหนัก เพราะน่าเชื่อถือ แต่จริงๆแล้ว ตามหลัก
นิติศาสตร์ คนใกล้ชิดฝ่ายใด
ฝ่ายนึง จะมีน้ำหนักน้อยมาก ในศาล เพราะมีแนวโน้มสูงว่าจะให้การช่วยเหลือ โจทก์/จำเลย (ดูความหมาย ผู้หญิง
ปิดตา ถือตาชั่งและดาบ) ยิ่งอากงให้การขัดกับหลักฐานมาก่อนหลายครั้งยิ่งไม่ต้องพูดเลยว่าจะเหลือ น้ำหนักเท่าไหร่
พูดง่าย ๆ คือ การสู้แบบนี้ มันไม่ได้คิดชนะในศาลแต่แรกแล้ว แต่จะใช้การดึงอารมณ์ร่วมจากประชาชนปกติที่ไม่รู้ตรงนี้
เพื่อจัดตั้งมวลชนนอกศาลมากกว่า!!!

อากงซวยโคตร...ทนายที่ว่าความให้ เป็นแดงเต็มตัวชื่อ อานนท์ นำภา มีฉายาว่า "ทนายดราม่า" ไม่รู้ว่าอากงรู้ว่าโดน
หลอกหรือเปล่า แต่ทนายคนนี้กะสังเวยอากงเพื่อเอาไปปลุกกระแสเหยื่อ ม.112 แน่
เพราะถ้าอากงรับสารภาพ 1. จะมีโทษ 4 วาระ ๆ ละ 3 ปี = 12 ปี 2. สารภาพรับโทษกึ่งนึงเหลือ 6 ปี
3. ไม่มีประวัติต้องโทษมาก่อนเหลือ 3 ปี 4. มีผู้เยาว์ในความดูแลและมีปัญหาสุขภาพ...ศาลอาจสั่งให้รอ
ลงอาญา กลับบ้านไปเลี้ยงหลาน....

ข้อมูลจากลุงขาว

แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 55 18:55:13

จากคุณ : Yogi Playgirl
เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 18:53:30 A:110.168.28.186 X:
ถูกใจ ·

นี่คือข้อมูลอีกด้านหนึ่ง อยากเอามาแชร์ให้เพื่อนๆทราบกันนะครับ กรุณา งดดราม่าด้วย

ส่วนใครจะคิดยังไง ก็แล้วแต่บุคคลนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น