++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ตื่นให้เป็น



             เป็นธรรมดาของชีวิตที่เกิดมาแล้วก็ต้องตาย ไม่อาจมีผู้ใดหนีรอดไปจากความตายได้ แต่ถึงกระนั้นคนทั้งหลายก็ไม่อยากตาย อยากให้มีอายุมั่นขวัญยืนด้วยกันทุกคน

            เมืองไทยของเราเวลานี้ก็มีชมรมของคนที่ต้องการมีอายุเกิน 100 ปีเกิดขึ้นแล้ว และจำได้ว่าพลเอก สายหยุด เกิดผล จะเป็นหนึ่งในคณะผู้นำของชมรมนี้

            ถ้ามองในแง่ทางธรรม ชมรมคนต้องการมีอายุเกิน 100 ปี ก็คือชมรมคนกลัวตายนั่นเอง แต่ถ้ามองในทางโลกก็จะเห็นถึงความพยายามในการดำรงรักษาสุขภาพให้ยืนยาว และย่อมเป็นที่สนใจของคนเราทุกคน

             มีการวิจัยพบว่า การตายตามธรรมชาติของคนเรามีถึงร้อยละ 70 ที่ตายในเวลาเช้าตรู่ มีเพียงร้อยละ 30 เท่านั้นที่ตายในเวลาอื่น ดังนั้นถ้ามีวิธีทำให้ไม่ตายในเวลาเช้าตรู่ได้ก็จะเป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้ชีวิตยืนยาว

            ผลจากการวิจัยปรากฏว่า เหตุที่คนมีโอกาสตายในตอนเช้าตรู่มากกว่าเวลาอื่นก็เพราะในขณะที่คนนอนหลับนั้นน้ำตาลในเลือดต่ำ การทำงานของหัวใจและระบบต่าง ๆ ของร่างกายได้ชะลอตัวลง มีเพียงประมาณร้อยละ 15 เท่านั้นที่ยังคงทำงานตามปกติ

            ดังนั้นเมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้า หัวใจและระบบทั้งหลายของร่างกายจึงยังไม่พร้อมที่จะทำงานในทันที เหมือนรถที่จอดนิ่งอยู่จะสตาร์ทแล้ววิ่งไปในทันใดก็จะตะกุกตะกักชะงักงัน

            แต่ร่างกายคนนั้นผิดจากรถที่เครื่องตะกุกตะกักหรือดับแล้วก็สตาร์ทใหม่ได้ เพราะคนเราเมื่อตื่นขึ้นก็มักจะพรวดพราดลุกขึ้น จึงทำให้ระบบต่าง ๆ เร่งทำงานอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ผู้มีอายุเลยวัย 40 ปี ปรับตัวไม่ทัน จึงเกิดอาการหัวใจวายบ้าง หน้ามืดเป็นลมตายไปบ้าง หรือไม่ก็หกล้มตายบ้าง

            นี่คือเหตุผลที่คนตายตามธรรมชาติถึงแก่ความตายในเวลาเช้าตรู่ถึงร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับการตายในเวลาอื่น เพราะตื่นแล้วรีบพรวดพราดลุกขึ้นโดยที่ระบบต่าง ๆ ของร่างกายยังไม่พร้อมแล้วเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายนั่นเอง

            เพราะเหตุนี้เมื่อทราบผลวิจัยแล้ว จึงมีการคิดหาวิธีการป้องกันเหตุไม่ให้ตายในเวลาเช้าตรู่ ซึ่งสามารถทำได้ เพราะสรรพสิ่งนั้นย่อมเกิดแต่เหตุ เมื่อแก้ที่เหตุได้แล้วก็จะแก้ที่ผลได้ด้วย ตรงกับพุทธภาษิตที่ว่า “ เยธัมมา เหตุปัพพะวา เตสังเหตุง ตะถาคะโต เตสังจะโย นิโรโธจะ เอวังวาที มหาสมะโน ” ซึ่งแปลว่าธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคตได้ตรัสถึงเหตุแห่งธรรมนั้น และความดับแห่งธรรมนั้น

            นั่นคือใช้วิถีทางแห่งพระพุทธศาสนาตามพระพุทธพจน์ในการป้องกันมิให้ถึงแก่ความตายในเวลาเช้าตรู่

             วิธีการที่เสนอก็คือ เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นแล้วอย่าเพิ่งรีบลุก ให้เริ่มต้นด้วยการสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ สัก 4-5 ครั้ง พร้อมกับรำลึกว่าเรานี้โชคดีหนอ ยังไม่ตาย และยังมีชีวิตอยู่เพื่อจะได้ทำความดี ทำประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทต่อไป เป็นการเจริญธรรมแห่งความไม่ประมาทได้อีกทางหนึ่ง และทำให้จิตสงบเย็น ยกระดับภูมิธรรมแห่งจิตไปทีละขั้นอีกทางหนึ่งด้วย 

            ถัดจากนั้นก็ให้พลิกตัวซ้ายขวาสลับกันอย่างช้า ๆ สัก 3-4 ครั้ง แล้วค่อย ๆ ยกขาทั้งสองข้างขึ้นลงสลับกันอีก 3-4 ครั้ง จะว่าเป็นการวอร์มร่างกายทำให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายค่อย ๆ ทำงานเป็นปกติจนมีความพร้อมแล้วจึงค่อยลุกขึ้น ก็จะทำให้ไม่ตายในเวลาเช้าตรู่ได้

            คนที่มีอายุเกินกว่า 40 ปี จำนวนหนึ่งมักจะตื่นในตอนดึก เข้าห้องน้ำปัสสาวะบ้าง หรือตื่นขึ้นเพราะฝันร้ายบ้าง บางคนตกใจตื่นก็รู้สึกเหนื่อย แล้วพาลหัวใจวายตายไปก็มี ทั้งนี้ก็เป็นเพราะมีมาแต่เหตุดังได้แสดงข้างต้นนั่นเอง

             วิธีการดังที่ได้เสนอจึงสามารถใช้คุ้มรักษาตัวได้เป็นอย่างดี ผมจึงนำมาแสดงไว้ในที่นี้เพื่อให้ญาติมิตรทั้งหลายที่เป็นแฟนคอลัมน์นี้ได้นำไปลองใช้ลองปฏิบัติ หรือถ้าท่านยังมีวัยไม่ถึง 40 ปี รู้แล้วก็ใช่ว่าจะเปล่าประโยชน์เสียทีเดียว เอาไว้ใช้ในวันหน้าหรือบอกเล่าให้แก่ญาติผู้ใหญ่นำไปปฏิบัติก็มีแต่จะเป็นกุศลแก่ตัว

             ลองดูเถิดครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น