ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน บุกกองทัพภาคที่2 ยื่นหนังสือทวงพื้นที่เขตชายแดน ไทย-กัมพูชา ต่อแม่ทัพ
นครราชสีมา วันนี้ (3 ก.ค.53) เวลา 12.30 น.พลเอกปรีชา เอี่ยมสุวรรณ ภาคีเครือข่ายผู้ติดตามสถานการณ์ปราสาทพระวิหาร สมัชาประชาชนแห่งประเทศไทยเครือข่ายทวงคืนแผ่นดินแม่ พร้อมกลุ่มสมาชิกภาคีกว่า 50 คน ยืนหนังสือต่อพลโทวีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่อง กรอบการเจรจาสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดน ระหว่างไทยและกัมพูชา ตลอดแนวชายแดน และต้องการให้ทหารที่เป็นรั้วของชาติได้เป็นกำลังหลักในการนำประชาชนร่วม เป็นกำลังสนับสนุนในการพิทักษ์รักษาดินแดนและผลประโยชน์ของชาติ ตามรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้
พลเอกปรีชา เอี่ยมสุวรรณ ภาคีเครือข่ายผู้ติดตามสถานการณ์ปราสาทพระวิหาร สมัชาประชาชนแห่งประเทศไทยเครือข่ายทวงคืนแผ่นดินแม่ กล่าว่า สำหรับการมายื่นหนังสือต่อแม่ทัพภาคที่2 ในครั้งนี้เพื่อต้องสอบถามถึง หมุดที่ปักตามเขตแนวชายแดนระหว่างไทย และ กัมพูชา นั้น ยังคงเป็นพื้นที่ของประเทศอยู่หรือไม่ เพราะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มีความทุกข์ใจเป็นอย่างมาก เพราะขณะนี้หลักเขตของประเทศกัมพูชาได้ลุกล้ำเข้ามาในฝั่งไทยอยู่เป็นจำนวน มากชาวบ้านจึงกลัวที่จะเสียดินแดน ดังนั้นกลุ่มภาคีต้องการให้ทาวงกองทัพหรือรัฐบาลเป็นผู้ออกมาชี้แจ้งเกี่ยว กับเรื่องหมุดปักเขตดินแดน ว่า หมุดที่ปักอยู่นั้นเป็นของใคร หรือเป็นหมุดที่ใช้แบ่งเขตที่แน่ชัดหรือเป็นหมุดที่เชื่อโยงทางแผนที่เท่า นั้น ซึ่งทุกวันนี้ประชาชนทุกคนไม่ต้องการที่จะเสียดินแดน ไทยไปมากกว่านี้อีกแล้ว พลเอกปรีชาฯ กล่าว
-----
สมัชชาประชาชนจี้กองทัพทวงคืนเขาพระวิหาร เรียกร้องประกาศกฎอัยการศึกใน 4 จังหวัดติดชายแดนเขมร ใช้อำนาจทหารปกป้องราชอาณาจักรไทย
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อม พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุวรรณ นายทหารนอกราชการ แกนนำภาคีเครือข่ายผู้ติดตาม สถานการณ์ปราสาทพระวิหาร และสมาชิกเครือข่ายทวงคืนแผ่นดินแม่ จำนวนกว่า 30 คน ได้จัดขบวนคาราวาน "ทวงคืนผืนแผ่นดินไทย" เคลื่อนขบวนมายื่นหนังสือ เรื่อง "ให้ทหารกองทัพภาคที่ 2 พิจารณาการเสียดินแดน และชี้แจงปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาโดยเร่งด่วน" จากนั้น พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผอ.กองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 ได้เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ ท่ามกางการรักษาความปลอดภัยของ จนท.ตำรวจ และสารวัตรทหารกว่า 10 นาย
"เรามีความหวงแหนแผ่นดินไทย และปราถนาให้ทหาร ซึ่งเป็นรั้วของชาติ ได้เป็นกำลังหลักในการนำประชาชน ร่วมสนับสนุนในการพิทักษ์รักษาแผ่นดิน และผลประโยชน์ของชาติ ภาคีเครือข่าย ฯ พบข้อสงสัยในกรณีหลัก จีพีเอส ของกรมแผนที่ทหาร เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ ที่มีพยานหลักฐานชัดเจน โดยพบการปักปันไว้ตามแนวชายแดน ในเขต จ.บุรีรัมย์ และสุรินทร์ มีการปักหลักหมุดแบ่งเขตแดนใหม่ ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนใน พื้นที่"
เนื่องจากมีบางหมู่บ้าน รวม 1.5 ล้านไร่ ที่อยู่ในแผ่นดินไทยมาโดยตลอด ถูกทางการไทยสั่งย้ายถิ่นฐาน เคลื่อนมาอยู่ในดินแดนไทยแห่งใหม่ แล้วต้องเสียพื้นที่เดิมให้กัมพู ชา อย่างไรก็ตาม หากผลปรากฏเป็นการเสียดินแดนไทยมีกฏหมายรับรอง ด้านพฤตินัย และนิตินัย กองทัพไทยได้โปรดดำเนินการสนับสนุนให้ความร่วม มือพิทักษ์รักษาแผ่นดินกับภาคประชาชน โดยประกาศกฎอัยการศึก ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ,สุรินทร์ ,อุบลราชธานี และศรีสะเกษ เพื่อใช้อำนาจทางการทหารดำเนินการปกป้องราชอาณาจักรไทย ตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต้องเรียกร้องให้ ประกาศกฎอัยการศึกนั้น นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า เนื่องจากประชาชนไม่เชื่อมั่น และไม่สามารถรอท่าที และนโยบายของรัฐบาลที่พยายามแสดงความไม่จริงใจ ในการปกป้องแผ่นดิน และกล่าวอ้างว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนมาโดยตลอด แต่ประชาชนไม่อาจยอมรับได้ว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน
สำหรับการเคลื่อนไหว ของคาราวานในครั้งนี้ จะมีการตั้งเวทีปราศรัยชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิด ขึ้นให้พี่ น้อง ประชาชน ที่ อ.พนมดงรัตน์ จ.สุรินทร์ โดยกำหนดเริ่มกิจกรรม เวลา 19.00-23.00 น. ภายในงานมีการร่วมลงรายชื่อของประชาชน เพื่อยืนต่อแม่ทัพภาคที่ 1 ในการประกาศกฎอัยการศึก เหตุที่เลือก จ.สุรินทร์ เพราะเป็นพื้นที่ ที่ไม่อยู่ในเงื่อนไข ขอบเขตของการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น