++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553

กระแสบอลโลกที่มาพร้อมภัยพนันฟีเวอร์/สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

ด้วยความที่มีลูกชายสองคนที่บ้ากีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ
ในขณะที่คุณสามีก็ชอบดูกีฬาฟุตบอลเหลือหลาย
ทำให้ช่วงการแข่งขันฟุตบอลยุโรปที่มีการแข่งขันลีกใหญ่ๆ
ไม่มีพลาดอย่างแน่นอน

พอเข้าช่วงฤดูกาลฟุตบอลโลก 2010 บรรยากาศความคึกคักก็มาถึงขีดสุด
ทุกคนตั้งตารอ โดยเฉพาะนัดที่มีทีมจากเอเชียอย่างเกาหลีใต้ได้ไปผงาดบนเวทีโลก
ก็ต้องลุ้นกันมากหน่อย ทีมที่คุ้นสุดๆ
ก็ไม่ต่างจากคนไทยทั่วไปที่นิยมชื่นชอบทีมอังกฤษ
เพราะติดตามพรีเมียร์ลีกมาโดยตลอด ก็เลยทำให้คุ้นเป็นพิเศษ

มหกรรมฟุตบอลโลกก็เลยคึกคักมากสำหรับครอบครัวเรา

เท่าที่ดิฉันจำความได้ เมื่อไรที่ถึงฤดูกาลฟุตบอลโลก
ก็จะต้องมีผู้คนอดหลับอดนอน เพื่อคอยลุ้นแมตซ์สำคัญๆ
ซึ่งมักจะมารอบดึกระดับตีหนึ่งตีสอง
ทำให้สุขภาพร่างกายทรุดโทรมกันเป็นแถวๆ

แต่สิ่งหนึ่งที่มักมาพร้อมกับการแข่งขันฟุตบอลโลกทุกครั้ง ก็คือ
การพนันฟุตบอล

จำได้ว่าตั้งแต่เด็กก็ได้ยินข่าวเรื่องฟุตบอลโลกที่มาพร้อมกับการพนัน
และก็จะได้ยินข่าวภาครัฐรณรงค์ไม่ให้ผู้คนในชาติเล่นการพนัน
แต่ก็มีผู้คนเล่นกันมากมาย

เพื่อนรอบข้างที่เรียนหนังสือก็เล่นกันตั้งแต่ระดับอุดมศึกษา
ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย
พอเข้าสู่สังคมคนทำงานก็คุ้นเคยเห็นเพื่อนฝูงเล่นกันจนชินตา

เรียกง่ายๆ
คือเห็นผู้คนเล่นพนันฟุตบอลเป็นว่าเล่นมาตั้งแต่เด็กจนโต
จนปัจจุบันเป็นแม่คน และมีลูก เรื่องการพนันก็ยังคงมีอยู่ และมีมากขึ้นๆ
เด็กสามารถเล่นได้ทุกตรอกซอกซอยจริงๆ

น่าแปลกที่ตำรวจกลับหาไม่เจอ..!!

นับวันการพนันชนิดนี้ ยิ่งเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เด็กลงๆ ทุกขณะ
เมื่อก่อนระดับอุดมศึกษา แต่ตอนนี้มาระดับมัธยมศึกษา
และลงมาประถมปลายอีกต่างหาก

ดูเหมือนยิ่งรณรงค์ เรากลับยิ่งเห็นปัญหาทวีขึ้นสวนทางอย่างเห็นได้ชัด

ล่าสุดผลสำรวจจากปัญญาสมาพันธ์
เพื่อการวิจัยความเห็นสาธารณะแห่งประเทศไทย
ได้ทำการสำรวจเกี่ยวกับผลกระทบจากการเล่นฟุตบอลของเยาวชนต่อสังคมไทยขึ้น
โดยสอบถามกลุ่มเป้าหมายเยาวชนตั้งแต่ระดับมัธยมต้นถึงระดับอุดมศึกษาจำนวน
4,461 คน ใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ พบว่า
กลุ่มนักเล่นพนันบอลส่วนใหญ่เริ่มเล่นตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
มีวงเงินที่เล่นพนันโดยเฉลี่ยครั้งละ 100-500 บาท
พื้นเพส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สิ่งจูงใจให้เยาวชนไทยเล่นพนันบอลคือ อยากได้เงิน
เมื่อได้รางวัลแล้วจะนำไปใช้ในการกินเที่ยวกับเพื่อนฝูง มีเยาวชนร้อยละ
21.82 ที่เคยเล่นพนันบอลแล้วบอกว่าเคยเป็นหนี้เป็นนักศึกษาชั้นอนุปริญญาตรี
ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาและสถานศึกษาอยู่ในภาคใต้

ร้อยละ 43.33 จะใช้หนี้พนันบอลโดยยืมเงินจากเพื่อน โต๊ะบอล
วิธีการทวงหนี้โดยการเจรจา รองลงมาคือการข่มขู่
และสุดท้ายรายการแข่งขันชิงถ้วยที่เยาวชนฮิตเล่นพนันอันดับหนึ่งคือ
พรีเมียร์ลีกของอังกฤษแต่ก็ยังมีเยาวชนส่วนใหญ่ใฝ่ดีที่ไม่เห็นด้วยกับการเล่นพนันบอล
โดยพวกเขาบอกว่า
ไม่ยอมรับว่าการพนันบอลเป็นเรื่องปกติและไม่ได้ทำให้ดูทันสมัย
กลุ่มเยาวชนเหล่านี้ไม่เห็นด้วยกับการเปิดให้มีการเล่นพนันบอลอย่างถูกกฎหมาย
เพราะเห็นว่าจะทำให้เกิดหนี้นอกระบบมากที่สุด รวมทั้งปัญหาการลักขโมย
ชิงทรัพย์ ฯลฯ และส่งผลกระทบถึงการเรียน

เมื่อลองสอบถามกลุ่มเยาวชนตัวอย่างที่ปัจจุบันเลิกเล่นพนันบอลไปแล้ว
ส่วนใหญ่บอกเหตุผลตรงกันว่า เพราะได้รับผลตอบแทนไม่คุ้มค่ากับที่เสีย
ตลอดจนไม่มีเงินเล่น กลัวติด กลัวพ่อแม่เสียใจ และกลัวถูกจับ เป็นต้น
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือผลสำรวจในครั้งนี้พบว่า ในช่วงฤดูกาลแข่งขันบอลโลก
2010 มีเยาวชนร้อยละ 17.66 บอกว่าจะเล่นพนันบอลครั้งนี้ด้วย
ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอนุปริญญาตรี

ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้น
มีเด็กที่เคยติดพนันบอลก็บอกทุกปีเหมือนกันว่า การรณรงค์ที่ผ่านๆ
มาไม่ให้เด็กเล่นพนันบอลเป็นเรื่องไม่ได้ผล
เพราะคนที่เล่นเขาก็ยังคงเล่นต่อไป
พวกเขาเหล่านั้นไม่สนใจเรื่องการรณรงค์อยู่แล้ว
และเด็กทุกคนก็รู้ว่าการพนันเป็นสิ่งไม่ดี
แต่เขากลับพบมันมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง

ประเด็นก็คือ ควรจะทำให้เด็กๆ
และเยาวชนรู้ถึงผลที่ตามมาว่าจะส่งผลกระทบต่อชีวิตต่อไปในอนาคตอย่างไรมากกว่า

ยิ่งปัจจุบันมีสิ่งเร้าที่เป็นแรงกระตุ้นมากมายที่มีแนวโน้มทำให้เด็กและเยาวชนตกเป็นทาสของการพนันมากขึ้น

สิ่งเร้ายุคปัจจุบันที่เป็นตัวเร่งทำให้เด็กและเยาวชนตกเข้าไปสู่โรคติดพนันบอลมีอะไรบ้าง

หนึ่ง สื่อทุกแขนงทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ ทีวี ทั้งช่องฟรีทีวี
และทีวีดาวเทียมที่ต่างก็มีการวิเคราะห์การแข่งขันฟุตบอลกันมากมาย
บางรายการถึงขั้นวิเคราะห์เป็นเรื่องการพนันอย่างโจ่งแจ้ง
ชี้นำว่าทีมนั้นเป็นทีมต่อ ที่มนี้เป็นทีมรอง
และบางรายถึงขั้นใช้ภาษาที่นักพนันบอลรู้กันอย่างโจ่งครึ่ม

สอง กระแสนิวมีเดียมาแรงมากในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กและเยาวชนรุ่นนี้
โดยเฉพาะช่องทางสื่ออินเตอร์เน็ต โทรศัพท์เป็นสื่อที่เข้าถึงได้เร็ว
เด็กและเยาวชนมักจะเลือกวิธีเล่นพนันบอลผ่านทางสื่อเหล่านี้
ในอดีตการแทงบอลยังต้องเดินทาง หรือโทรศัพท์ หรือมีหลักแหล่งที่ชัดเจน
แต่ในยุคปัจจุบันการพนันบอลสามารถคลิกได้ด้วยปลายนิ้วก็สามารถเล่นพนันได้แล้ว
ยิ่งโลกของเด็กรุ่นใหม่คือโลกอินเตอร์เน็ต
ก็ยิ่งทำให้เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว

สาม พ่อแม่เล่นเป็นแบบอย่าง
มีเด็กจำนวนมากที่บอกว่าเห็นพ่อเล่นพนันบอล เห็นแม่เล่นหวยเป็นเรื่องปกติ
อีกทั้งยังเห็นเพื่อนเล่นกันมากมาย
ก็เลยไม่คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะใครๆ ก็เล่นกัน

สิ่งต่างๆ เหล่านี้
ล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าถึงการพนันบอลได้อย่างน่าตกใจทีเดียว
เพราะมีสิ่งยั่วยุ
และเร่งเร้ามากมายที่จะทำให้เด็กและเยาวชนตกเข้าไปในกับดักของการพนัน

นายแพทย์พนม เกตุมาน สาขาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น
ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
เคยกล่าวถึงเรื่องเด็กติดพนันบอลว่า เป็นโรคชนิดหนึ่งเรียกว่า
"โรคติดการพนัน" (Pathological Gambling) มีลักษณะคล้ายกับติดสารเสพติด
จิตใจจะจดจ่ออยู่กับการพนันตลอดเวลา ไม่สามารถคิดหรือทำอย่างอื่นได้
มีความอยากเล่นที่ยากจะควบคุม มีการเล่นโดยไม่ยั้งคิด และเมื่อเล่นเสีย
ก็อยากเอาคืน ทำให้ถลำลึกไปเรื่อยๆ

สิ่งจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาทางด้านจิตใจ
ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ควบคู่กับครอบครัวด้วย
แต่โรคนี้เป็นโรคที่ยากต่อการรักษา ควรจะป้องกันตั้งแต่แรกจะได้ผลกว่า
ครอบครัวเป็นด่านสำคัญที่สุดที่จะดูแลปกป้องลูกหลาน
ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการพนัน เพราะจะทำให้มีปัญหาพฤติกรรมด้านอื่นๆ
ตามมาอีกมากมาย

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกเราเข้าข่ายติดพนันบอลหรือไม่
ประการแรก ลูกเริ่มมีพฤติกรรมแปลกไป เริ่มหลบๆ ซ่อนๆ
เวลาดูบอลจะเคร่งเครียดเป็นพิเศษ ระหว่างดูบอลก็จะโทรศัพท์บ่อยๆ
ระหว่างแข่งขันก็จะมีอารมณ์เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ยิ่งถ้าทีมที่เชียร์แพ้ แล้วมีอาการโมโห โกรธ หรือฟึดฟัดอารมณ์เสีย

ประการที่สอง โทรศัพท์บ่อยมาก โดยเฉพาะในช่วงก่อนแข่งขัน
หรือระหว่างแข่งขัน บิลค่าโทรศัพท์จะสูงมาก

ประการที่สาม มีพฤติกรรมการใช้เงินมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และเริ่มหลบๆ ซ่อน เพราะกลัวว่าพ่อแม่หรือคนในบ้านจะรู้

อาการเหล่านี้สามารถสังเกตได้ชัดเจน ถ้าพ่อแม่ใกล้ชิดลูก
ถ้ารีบเข้าไปจัดการปัญหาตั้งแต่แรกก็จะเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
แต่ขณะเดียวกัน พ่อแม่ก็ควรจะมีทางเลือกในการชักชวนเขาทำกิจกรรมอื่นๆ
ด้วย

เรื่องนี้เป็นสามารถใช้ความรักในการป้องกันได้
รวมถึงการพูดคุยให้เขาเห็นภาพว่าถ้าเขาเข้าไปสู่โรคติดพนัน จะนำไปสู่อะไร
และผลกระทบมีอะไรบ้าง

ความรักของพ่อแม่สามารถสกัดโรคได้ ถ้ารู้เท่าทันค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น