++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

D.I.Y.มาทำ "หน้ากากอนามัย" ใช้เองกันเถอะ!

D.I.Y.มาทำ "หน้ากากอนามัย" ใช้เองกันเถอะ!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กรกฎาคม 2552 09:35 น.
หลังการแพร่ ระบาดรุนแรงของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
จนส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงกว่า 20 ราย และมีผู้ติดเชื้อเฉียด
5,000 ราย แล้ว เริ่มส่งผลให้คนไทยตื่นตระหนกและหันมาป้องกันตัวเองตามการรณรงค์ของกระทรวง
สาธารณสุข ด้วยการหมั่นล้างมือให้สะอาด และสวมหน้ากากอนามัย

และภายหลังการแห่ซื้อหน้ากากอนามัยของประชาชน
ทำให้บางพื้นที่เกิดขาดแคลน ขาดตลาด หาซื้อไม่ได้ หรือที่ร้ายกว่านั้น
คือ มีพ่อค้าหัวใสฉวยโอกาสขึ้นราคาหน้ากากอนามัย
โดยเฉพาะชนิดที่ทำด้วยกระดาษ ให้พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว
ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อย
ไม่สามารถซื้อหาหน้ากากอนามัยมาสวมเพื่อป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อได้

สำนักโรคอุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
จึงได้ออกแผ่นพับแนะนำวิธีการทำหน้ากากอนามัยใช้เองแบบง่ายๆ
เพื่อเป็นทางเลือกแก่ประชาชนในการแก้ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย
วิธีการทำก็ไม่ยุ่งยาก
อุปกรณ์ที่ใช้ก็หาได้ในกล่องเย็บผ้าคุณแม่บ้านเป็นส่วนใหญ่
อาจจะมีต้องซื้อหาเพิ่มเล็กน้อย แต่ถ้าคิดแล้วสุดคุ้ม
เพราะซื้อครั้งเดียวทำได้หลายชิ้น แถมซักนำกลับมาใช้ได้เรื่อยๆ
ได้ทั้งประโยชน์ทางตรงคือประหยัดเงิน ได้หน้ากากหลายชิ้น สลับใช้ได้
ลดปัญหาการต้องซื้อของแพงและขาดตลาด
แถมในทางอ้อมยังได้ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
ลดขยะในประเด็นของการใช้หน้ากากอนามัยกระดาษที่ต้องใช้แล้วทิ้ง
เป็นการช่วยโลกร้อนไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย

อุปกรณ์ ที่ต้องใช้ ได้แก่ กรรไกรตัดผ้า, ด้ายและเข็ม, ผ้าฝ้าย
หรือผ้ายืด หรือผ้าสาลูเนื้อแน่น กว้าง 6 นิ้วครึ่ง ยาว 7 นิ้วครึ่ง 2
ชิ้น และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือยางยืดหรือไส้ไก่ยาว 7 นิ้วสำหรับทำหู 2
เส้น

...ทีนี้ก็ถึงเวลาลงมือทำกันแล้ว...

เริ่มด้วยการนำผ้าที่เตรียมไว้มาพับครึ่งตามความยาวผ้าแล้วพับจับ
จีบทวิส 1 นิ้ว ตรงกลางผ้ากลัดด้วยหมุด หรือ เนาตรึงไว้ และ
ทำอีกชิ้นเช่นเดียวกัน จากนั้นนำผ้าที่พับไว้มาวาง โดยหันด้านนอกขึ้น
และนำยางยืดมาวางที่มุมผ้าด้านกว้างข้างบน และข้างล่าง ด้านละ 1 เส้น
กลัดเข็มหมุด หรือ เนาตรึงไว้

ขั้นตอนต่อมานำผ้าที่พับไว้อีกชั้นมาวางซ้อนกับผ้าชิ้นแรกที่ตรึงยาง
ยืดไว้ โดยหันผ้าด้านนอกชนกัน แล้วเย็บจักร หรือ
ด้นถอยหลังรอบผ้าสี่เหลี่ยม ให้ห่างจากริมผ้า ด้านละครึ่งเซนติเมตร
โดยเว้นช่องว่างไว้กลับตะเข็บ ประมาณ 1 นิ้ว และขลิบผ้าตรงมุมทั้ง 4 มุม
ให้ใกล้กับรอยเย็บ เพื่อเวลากลับตะเข็บจะได้เรียบร้อยสวยงาม
จากนั้นปิดท้ายด้วยสอยปิดช่องว่างที่เว้นไว้ให้เรียบร้อย
เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำหน้ากากอนามัย

เห็นไหม...ไม่ยากเลย คุณหนูๆ ก็สามารถช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำได้
แถมภูมิใจเมื่อสวมหน้ากากที่เป็นคนทำเองด้วย

ทีนี้ก็มาถึงวิธีการสวมหน้ากากให้ถูกวิธี
เพื่อให้การใช้หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรคได้อย่างสูงสุดเต็มประสิทธิภาพ
ก่อนอื่นต้องล้างมือให้สะอาดเสียก่อนใส่
จากนั้นใช้มือจับหูยางยืดสวมกับหูตัวเอง
และดึงให้ส่วนที่เป็นหน้ากากคลุมจมูกและปากให้มิดชิด
ปรับสายให้หน้ากากกระชับกับใบหน้า

และ เมื่อใช้เสร็จแล้ว
การดูแลรักษาทำความสะอาดหลังใช้ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
หากเป็นกรณีของหน้ากากอนามัยกระดาษ ควรใช้ครั้งเดียวทิ้ง
และทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด
หากเป็นผ้าหลังจากใช้เสร็จความซักให้สะอาด และผึ่งแดดให้แห้ง
สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000080456

ผ้าสาลู" มันเป็นยังไง
สำลี

ผ้าอ้อมเด็กทารกน่ะค่ะ ที่ขายเป็นโหล ๆ พาหุรัด สำเพ็งมีเยอะแยะ
vud fk


ผ้ากรองมีหลายแบบ แบบแผ่นกระดาษเขียวๆที่ใช้กัน
ก็เหมือนที่ความเ็ห็นสองบอกไว้ ขนาดประมาณ3ไมครอนแทบจะช่วยอะไรไม่ได้
แบบที่ดีขึ้นมาหน่อย กรองของได้ต่ำกว่า0.3ไมครอน จะเป็นอีกแบบหนึ่ง
จะมีตัวมาตราฐานกำหนดไว้ที่ซองใส่ แพง อันละยี่สิบบาทได้
แบบที่ทำเองนี่ ใส่เพื่อความสบายใจที่ได้ใส่ แต่คงหวังผลอะไรไม่ได้
ช่วยได้กรณีมีคนไอจามข้างๆ ละอองน้ำลายอาจจะถูกกรองได้บ้าง
ถ้า อยากทำเองจริงๆ น่าจะลองสอดไส้แผ่นกรองของเครื่องแอร์
ถุงสีแดงๆที่ขานอยู่ทั่วไป แผ่นกรองแบบนั้นเค้าโม้ว่าใช้ไฟฟ้าสถิตย์
ซึ่งเหมาะกับการกรองของเล็กมากๆอย่างไวรัส น่าจะช่วยให้ดีขึ้นได้นะ
รักษาสุขภาพให้แข็งแรง นอนให้พอ ถ้าป่วยรีบดูแลตัวเอง
อย่าชะล่าใจเหมือนหวัดปกติ น่าจะดีที่สุดครับ
เดาเอา

หน้ากากอนามัยโดยทั่วไปมีขนาดของช่องว่างระหว่างเส้นใยของวัสดุที่ใช้
มากกว่า 3 ไมครอนซึ่ง ใหญ่กว่าขนาดของเชื้อไวรัสโดยประมาณ 10
เท่าจึงไม่สามารถใช้ป้องกันเชื้อไวรัสได้ แต่ใช้ป้องกันแปคทีเรียได้
แล้วยิ่งถ้ามาทำเองก็ไม่ต้องหวังอะไร
แล้วเชื้อไวรัสยังสามารถผ่านเข้าร่างกายได้ทาง ตา หู อีกด้วย
สุดท้ายต้องทำใจดีกว่า
โปรดระวัง

ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากปิดจมูกก็ได้
เวลาเดินเข้าใกล้คนเยอะๆก็คว้าออกมาปิด แรงจากมือทำให้ติดแน่นมิดชิด
สะดวกกว่าด้วย แถมดูไม่น่ากลัวอีกต่างหาก
-

ในสถานการณ์แพร่ระบาดขนาดนี้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับทัศนะคติสำหรับคนไทย
ในเรื่องการใส้หน้ากากอนามัยแล้วดูน่ากลัว หรือ เป็นพวกติดเชื้อ หรือ
คนใส่หน้ากากรังเกียจผู้อื่น หรือผู้อื่นรังเกียจคนใส่หน้ากาก
ว่ามันเป็นเรื่องของกันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วจะแก้ไม่ทัน
ทันโลก ทันโรค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น