แม้โลกเทคโนโลยี จะก้าวหน้าไปมากแค่ไหน อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
จะทันสมัยมากเพียงใด แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงพบเห็น
ตามบ้านเรือนผู้คนสมัยนี้ก็คือ "เตาถ่าน" เนื่องจากเตาถ่าน
มีสิ่งที่เตาไฮเทคอื่นไม่มี นั่นก็คือความหอมกรุ่น ของเชื้อเพลิงจากถ่าน
อันต่างจากอุปกรณ์ให้ความร้อน อย่างเตาแก๊สหรือเตาอบ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายครอบครัว ยังคงมีไว้ประจำบ้าน
บ้างก็มีไว้แก้ขัดเวลาไฟฟ้าดับ แต่เนื่อง จากที่ผ่านมาได้มีการศึกษา
และพบว่าเตาที่ใช้อยู่ทั่วไปมีข้อด้อยหลายอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นเส้าวางภาชนะหุงต้มที่ถูกออกแบบมาสูงกว่าขอบเตา
ขอบเตาเว้ามากทำให้ความร้อนสูญเสียสู่บรรยากาศมาก
ที่สำคัญช่องบรรจุถ่านใหญ่ทำให้ต้องใส่ถ่านมาก
ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ยังคงมีการตัดไม้ทำลายป่ากันอยู่
นอกจากนี้ ตัวเตายังมีลักษณะหนาเทอะทะ น้ำหนักมาก
ถังเปลือกเตาผุกร่อนเร็ว ปากเตาตรง วางภาชนะหุงต้มได้น้อย รังผึ้งบาง
ทำด้วยดินปั้นเตาทั่วไป ชำรุดง่าย รูรังผึ้งใหญ่ไม่ดูดอากาศ
เนื้อเตาทำด้วยดินปั้นเตาทั่วไป ไม่มีฉนวนกันความร้อนระหว่างเตากับตัวเตา
ให้ความร้อนต่ำ อุณหภูมิกลางเตาแค่ 500-600 ํC อายุการใช้งานไม่เกิน 1 ปี
ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง แม้จะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ
แต่ปีหนึ่งก็ทำให้เกิดการสูญเสียไม่น้อย
ด้วยเหตุนี้กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น กรมพัฒนาและอนุรักษ์ อยู่ในความดูแลของ
กระทรวงพลังงาน ร่วมกับกรมป่าไม้ประดิษฐ์คิดค้นเตาแบบใหม่ขึ้น
เพื่อช่วยประหยัด พลังงานฟืนและถ่าน เรียกว่า "เตาประสิทธิภาพสูง"
โดยมีจัดแสดงไว้ที่ สวนสาธิตเทคโนโลยีพลังงานทดแทน
สำนักงานพลังงานทดแทนจังหวัดเชียงใหม่ โดยหลังจากที่เปลี่ยนชื่อแล้วกรมฯ
ไม่ได้ทำแค่พลังงานทดแทนอย่างเดียว
แต่ยังทำในเรื่องการอนุรักษ์พลังงานด้วย "เตาประสิทธิภาพสูง"
เป็นหนึ่งในแผนงานดังกล่าว
ซึ่งมีข้อดีต่างจากเตาถ่านทั่วไปตรงที่มีลักษณะเพรียว น้ำหนักเบา
ถังเปลือกเตาใช้โลหะหนา ผุกร่อนช้า ทนทานแข็งแรง ปากเตาลาดเอียงลงด้านใน
วางภาชนะหุงต้มได้ 10 ขนาด สูญเสียความร้อนน้อย ช่องบรรจุถ่านจุได้
400-500 กรัม พอเพียงต่อการหุงต้มอาหาร แต่ละมื้อโดยไม่ต้องเติมถ่านอีก
รังผึ้งหนาทำด้วยดินปั้นเตาคุณภาพดี รูรังผึ้งเล็กและเรียว ดูดอากาศได้ดี
มีฉนวนกันความร้อน ระหว่างถังเปลือกเตากับตัวเตา ให้ความร้อนสูง
อุณหภูมิกลางเตา 1,000-1,200 ํ C ประหยัดถ่านกว่าเตาท้องตลาด 25-50%
อายุการใช้งานสูงกว่า 2 ปี
หากผลิตจำหน่ายก็จะได้ราคาแพงกว่าเตาอั้งโล่ในท้อง ตลาด 2-3 เท่า
ปัจจุบันมี โรงงานเตาทองที่จังหวัดราชบุรี
นำไปผลิตและจำหน่ายแทนเตาถ่านแบบเก่า
ซึ่งผู้ประกอบการรายใดที่คิดจะเปลี่ยนมาผลิตเตาประสิทธิภาพสูง
จำหน่ายบอกได้เลยว่าไม่มีอะไรยุ่งยาก โดย เฉพาะขั้นตอนการทำนั้น
เหมือนกับการผลิตเตาถ่านที่ผลิตอยู่ทั่วไป (แตกต่างกันที่แบบปั้นเตา)
คือมีวัตถุดิบ (ดิน) แบบปั้นเตา การขึ้นรูป ตบแต่ง ผึ่งให้แห้ง ทำรังผึ้ง
นำไปเผา ทำถัง และบรรจุเตา
เท่านี้ก็จะได้เตาประสิทธิภาพสูงไว้จำหน่ายในราคาดีขึ้น
ส่วนผู้บริโภคเองก็จะได้เตาหุงต้มรูปแบบใหม่ที่จุดไฟติดเร็ว เปลวไฟแรง
ประหยัดถ่าน ทนทาน ใช้งานคุ้ม ไว้ติดบ้านติดช่อง
ไม่ต้องนั่งตบยุงเวลาไฟดับแล้วล่ะค่ะ!!!
ดวงแก้ว ผุงเพิ่มตระกูล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น