วินาทีแรก ที่คนทั้งโลกได้เห็นไมเคิล แจ็กสัน
เลื่อนเท้าไถลถอยหลังเหมือนถูกลากด้วยเชือกล่องหนในเพลง Billie Jean ในปี
พ.ศ. 2525 นั้น สมุดบันทึกประวัติศาสตร์ด้านดนตรีของโลกก็ได้จารึกชื่อของ
ไมเคิล แจ๊กสันเอาไว้ที่หน้าหนึ่งทันที
ชื่อของไมเคิล แจ๊กสันถูกยกมาเอ่ยถึงด้วยเสียงชื่นชม
เพลงของเขาถูกเปิดซ้ำแล้วซ้ำอีกในร้านขายซีดี
มิวสิกวิดีโอของเขาถูกแพร่ภาพวันละหลายสิบครั้ง จากอัลบั้ม Thriller
ที่ทำไมเคิล กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกนั้น อีก 2 ปีต่อมาก็มีอัลบั้ม
Farewell My Summer Love ส่วนในปี พ.ศ. 2530 ก็คลอดอัลบั้ม Bad
ที่มีท่าโน้มตัวลงไปจนเกือบแตะพื้นในเพลง Smooth criminal
ทำให้ผู้ชมจดจ้องตาไม่กระพริบไปอีกหนึ่งท่า
"ตู้ ดิเรก"
ไม่ใช่แค่ทั่วโลก แต่กระแส 'ไมเคิล ฟีเวอร์'
ได้กินพื้นที่ซอกซอนไปทุกอาณาเขตที่สามารถเปิดรับสื่อจากตะวันตกได้
ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยที่กระแสวัฒนธรรมอเมริกันกำลังเฟื่องฟูถึงขีดสุด
'ตู้ ดิเรก' หรือ 'ดิเรก อมาตยกุล'
คือศิลปินไทยคนแรกที่ยึดไมเคิล แจ๊กสันเป็นแรงบันดาลใจ
เขาผันตัวจากบทบาทนักร้องนำวงเพรสซิเด้นท์ มาเป็นศิลปินเดียว
โดยยึดเอาการเต้นที่มีท่วงท่าลีลาที่คนทั่วไปเรียกขานว่า ไร้กระดูก
และด้วยพื้นฐานการเต้นดังกล่าวนี้เอง เมื่อมาผนวกกับความโด่งดังของไมเคิล
แจ๊กสันในช่วงที่เขากำลังทำงานเพลง ตู้ ดิเรก จึงนำท่าเต้น การแต่งกาย
และคาแรกเตอร์อื่นๆ
ของไมเคิลมาก๊อปปี้เรียกความสนใจจากคนฟังและสื่อได้เป็นอย่างดี
ถัดจากตู้ ดิเรก
ก็มีนักแสดงตลกทั่วฟ้าเมืองไทยจำนวนไม่น้อยที่นิยมนำเอาการแต่งกาย
และท่าเต้นของไมเคิล แจ๊กสันไปใช้ต่อบนเวที
ซี่งแทบทุกครั้งที่ดาวตลกเดินออกมาจากหลังเวทีพร้อมชุดรัดรูปสีดำล้วน
หมวกปีกกว้าง และผ้าพันฝ่ามือ นั้น
เรียกความสนใจและรอยยิ้มจากผู้ชมที่อยู่ด้านล่างได้เป็นอย่างดี
และยิ่งถ้านักแสดงตลกคนไหนสามารถเต้นท่าได้ใกล้เคียงกับไมเคิลมากเท่าไหร่
ผู้ชมก็จะยิ่งสนใจการแสดงของพวกเขามากขึ้นไปด้วย
"ไมเคิล ตั๋ง"
และนั่นก็ทำให้ ยาว ลูกหยี นักแสดงตลกร่างสูงโปร่ง แม๊ค ชวนชื่น
นักแสดงตลกรุ่นใหม่จากคณะชวนชื่น และตลกน้อยใหญ่
ทั้งที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และตลกปลายแถว ทั้งตลกรุ่นเก่า และตลกรุ่นใหม่
หรืแม้กระทั่ง เทพ โพธิ์งาม ก็เคยยึดเอาเป็นคาแรกเตอร์ถาวร
และบุคลิกชั่วคราว หันมาสวมชุดคล้ายไมเคิล เต้นท่าของไมเคิล
และทำอะไรเปิ่นเป๋อออกมาเรียกเสียงฮาในช่วงท้ายของการแสดงจนไม่สามารถนับ
ด้วยนิ้วมือได้หมด
แต่ถ้าจะให้กล่าวถึงผู้ที่ได้ชื่อว่า 'ไมเคิล ก็อปปี้' ตัวพ่อ
คงเป็นใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่ เขาคนนี้
"ไมเคิล ตั๋ง" คือผู้ที่ได้ชื่อว่านำเอาบุคลิก ลักษณะ การเต้น
การแต่งกาย และทุกสิ่งทุกอย่างของไมเคิล
แจ๊กสันมาแสดงบนเวทีได้ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด
การปรากฏตัวของเขาบนยกพื้น สร้างความประทับใจให้กับผู้ชม
เพราะไม่ว่าไมเคิล แจ๊กสันจะเต้นท่าอะไร หรือเคลื่อนขยับร่างกายแบบไหน
ไมเคิล ตั๋ง ผู้นี้ก็สามารถทำตามได้เสมอ
เลียนแบบ ลอกเลียน ก๊อปปี้ Cover
ไม่ว่าจะเรียกสิ่งที่พวกเขากระทำว่าอะไร
แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้จากกรณีไมเคิล ก๊อปปี้ก็คือ
แรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเกิดจากความสามารถของ 'ตัวจริง'
จะไม่เสื่อมสลายไปตามสังขารของบุคคลต้นธารของแรงบันดาลใจนั้น
เพราะจะว่าไปแล้ว ถ้าเรามองผลงานของไมเคิล
แจ๊กสันในฐานะของงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ชายจากรัฐอินดีแอนาผู้นี้สร้างสรรค์
ขึ้นมาแล้วนั้น คำกล่าวของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่บอกว่า "ชีวิตสั้น
แต่ศิลปะยืนยาว" ก็คงจะช่วยตอกย้ำความเป็นอมตะที่จะเกิดขึ้นกับผลงานของ
King of Pop ผู้นี้ได้อย่างแน่นอน
...
เยือนเมืองไทย
ไมเคิล แจ็กสัน มาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทย 2 ครั้ง
ครั้งแรกเมื่อกลางปี พ.ศ. 2536 ในการแสดงคอนเสิร์ต Dangerous World Tour
มีกำหนดการแสดง 2 รอบ ในวันที่ 21 สิงหาคม และ 22 สิงหาคม
ที่สนามศุภชลาศัย
คอนเสิร์ตในครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตที่ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นจากชาวไทย
และกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอยู่ช่วงหนึ่ง
ถึงความเหมาะสมของการจัดแสดง
เพราะบางส่วนเห็นท่าเต้นลูบเป้าของไมเคิลไม่เหมาะสมต่อวัฒนธรรมไทย
คอนเสิร์ตวันแรกจบลงด้วยดี แต่ในวันที่ 22 สิงหาคม ไมเคิล
อ้างว่าป่วยและขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 23 สิงหาคม
แต่เมื่อมาถึงก็ขอเลื่อนไปอีก สร้างความไม่พอใจแก่แฟน ๆ
จนเกิดเป็นจลาจลย่อย ๆ หน้าสนาม
จึงต้องใช้เทปเสียงของเจ้าตัวเพื่อยืนยันว่าป่วยจริง
และขอเลื่อนการแสดงไปเป็นวันที่ 24
สิงหาคมซึ่งก็สามารถจัดการแสดงได้และจบลงด้วยดี
คอนเสิร์ตของไมเคิล
แจ๊คสันถือเป็นการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ของนักร้องชาวต่างประเทศระดับโลกครั้ง
แรกของไทย และต่อมาก็ได้มีศิลปิน
นักร้องต่างประเทศทยอยเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยเรื่อยๆ
ครั้งที่ 2 คือ ในกลางปี พ.ศ. 2538 เป็นการโปรโมตอัลบั้ม History
จัดแสดงที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แสดง 2 รอบอีกเช่นเคย
แต่ครั้งนี้ไม่ได้รับความสนใจเท่าครั้งแรก
ผลงานการแสดง
1. Miss Cast Away (2004) .... Agent M.J.
2. Men in Black II (2002) .... Agent M
3. Ghosts (1997/I) .... Maestro/Mayor/Ghoul Mayor/Super Ghoul/Skeleton
... aka Michael Jackson's Ghosts
4. Captain EO (1986) .... Captain EO
5. The Wiz (1978) .... Scarecrow
6. Wiz on Down the Road (1978) .... Scarecrow
......
ลือแซด "ไมเคิล" อาจหัวใจวายเพราะติดยาแก้ปวด
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9520000072307
แฟนเพลงร่วมอาลัย"ราชาเพลงป๊อป"ลาโลก
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9520000072278
20 ภาพย้อนรอยทรงจำของ "ไมเคิล แจ็กสัน" ราชาเพลงป็อปผู้ลาลับ
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000072223
ช็อกโลก! "ไมเคิล แจ็กสัน" หัวใจวาย เสียชีวิตแล้ว!
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000072204
ช็อกโลก! สื่อมะกันรายงาน "ไมเคิล แจ็กสัน" ตายแล้ว
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000072202
เผยภาพหูสุดช็อคของ"ไมเคิล แจ็กสัน"หลังเฉือนกระดูกอ่อนไปสร้างจมูกใหม่
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000068388
"ไมเคิล แจ็กสัน"ยิ้มสู้แม้หมอยันเป็นมะเร็งผิวหนัง
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000055405
"ราชาเพลงป็อป" ขอเดิมพันด้วยคอนเสิร์ตสุดท้ายที่ลอนดอน
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000055405
"ไมเคิล แจ็กสัน"แย่อีกทำจมูกใหม่จนติดเชื้อ
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000017484
"ไมเคิล แจ็กสัน" จากดวงจันทร์สู่ผืนดิน
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000072317
"ไมเคิล แจ็กสัน" ราชาเพลงป็อปวัย 50 ปี
ผู้เป็นศิลปินระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการ
ลาโลกไปเมื่อคืนนี้ในอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
ก่อนที่เจ้าตัวจะมีคอนเสิร์ตใหญ่คืนไมค์อีกครั้งกับบัตรคอนเสิร์ตรอการกลับ
มาของเขาที่สามารถขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่นาน
ชะตาชีวิตของไมเคิล แจ็กสัน
ผ่านเรื่องราวและข่าวคราวด้านลบมามากมายขณะอยู่ในวงการที่ล้วนแต่เป็นเรื่อง
ราวที่แม้แต่คนธรรมดาก็ยากเกินจะรับมือได้
...
ปฐมบทแห่งชีวิต
ไมเคิล แจ็กสัน เกิดวันที่ 29 ส.ค. ปี 1958 ในแกรี อินเดียนา
เป็นลูกคนที่7ของครอบครัวแจ็กสัน
เขาเป็นหนึ่งในพี่น้องแจ็กสันที่ฟอร์มวงขึ้นมาอันประกอบไปด้วยแจ็กกี้,
ติโต้, เจอร์เมน์, มาร์ลอน และตัวไมเคิลเอง
เพื่อออกโชว์ด้วยกันครั้งแรกในรายการประกวดความสามารถค้นหาดาวขณะที่ไมเคิล
มีอายุเพียง 6 ปี โดยพวกเขาสามาถเดินกลับบ้านด้วยการคว้ารางวัลที่ 1
ไปครอง
หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มเข้าวงการภายใต้ชื่อวงใหม่ว่า
"แจ็กสันไฟว์" โดยเซ็นสัญญาภายใต้สังกัดโมทาวน์ เรคคอร์ดส์ ในช่วงปลายยุค
1960 ที่ผ่านมา จนกระทั่งมาเกิดเหตุการเปลี่ยนแปลงในวงแจ็กสันไฟว์
เมื่อเขาออกอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกในปี1972
...
ความสำเร็จ
ไมเคิล เปิดตัวซิงเกิล Thriller ครั้งแรกในปี 1982
ซึ่งกลายมาเป็นเพลงฮิตโด่งดังทั่วโลกและติดอันดับท็อปเท็นชาร์ตเป็นเวลานาน
หลายสัปดาห์ อัลบั้มดังกล่าวขายได้มากถึง 21
ล้านแผ่นในสหรัฐฯและมากกว่าอีก 27 ล้านแผ่นจากทั่วโลก
ในปีต่อมาเขาได้สร้างตำนานการเต้นแบบ "มูนวอล์ก" ขณะกำลังแสดงเพลง
Billie Jean เมื่อครั้งออกอากาศรายการพิเศษทาง NBC
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
เชื่อว่ายอดขายอัลบั้มทั้งหมดของเขาน่าจะมีจำนวนมากกว่า 750 ล้านแผ่น
พร้อมกันนั้นยังการันตีความสำเร็จด้วยการได้รับรางวัลแกรมมีเป็นจำนวน 13
รางวัลในสาขาต่าง
ซึ่งทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักร้องที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลก
...
เผชิญข้อกล่าวหา
ในปี 1993 ไมเคิล แจ็กสัน
ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายวัย 13 ปี
ในปีเดียวกันนั้นเอง
แจ็กสันออกมาประกาศว่าเขากลายมาเป็นผู้ติดยาแก้ปวดอย่างหนัก
และยกเลิกการเดินสายโปรโมตอัลบั้ม Dangerous ทั่วโลกลงทันที
ในปี 1994
มีข่าวว่าเขาถูกดำเนินคดีและจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนกว่า 23
ล้านดอลลาร์ให้กับครอบครัวของเด็กชายที่ตกเป็นข่าวในเวลานั้น
...
ชีวิตแต่งงานและครอบครัว
ในปี 1994 ไมเคิล แจ็กสัน แต่งงานกับ ลิซา มารี
ลูกสาวคนเดียวของราชาร็อกแอนด์โรลชื่อดัง เอลวิส เพรสลีย์
แต่การแต่งงานของพวกเขาก็มาสิ้นสุดลงด้วยการหย่าร้างในปี 1996
ก่อนที่เขาจะมาแต่งงานใหม่กับ เด็บบี โรว์ ในปีเดียวกันและมีลูกด้วยกัน 2
คน ก่อนที่จะแยกทางกันในปี 1999
ซึ่งแม้จะแต่งงานและมีลูกด้วยกันแต่ตามรายงานข่าวระบุว่าทั้งคู่ไม่เคยใช้
ชีวิตอยู่ร่วมกันเลย
แจ็กสันมีลูกทั้งหมด 3 คน คือ ไมเคิล โจเซฟ แจ็กสัน, ปาริส ไมเคิล
แคเธอรีน แจ็กสัน และปรินซ์ ไมเคิล แจ็กสัน ที่สอง
โดยลูกคนหลังสุดนี้ปรากฏตัวครั้งแรกอย่างน่าตื่นเต้นเมื่อครั้งที่ไมเคิล
พ่อของเขาอุ้มเขามาโชว์บริเวณระเบียงของโรงแรมจนเกือบหลุดมือซึ่งเป็นที่
วิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำสุดระห่ำครั้งนี้ของเขาไปทั่วโลก
ซึ่งนับจากนั้นหนูน้อยยังได้ชื่อเล่นว่า "แบลงเคต" (Blanket)
มาเป็นของแถมด้วย
...
ข้อพิพากษ์รุนแรงอื่นๆ
ในรายการพิเศษบันทึกประวัติชีวิตของไมเคิลที่มีชื่อว่า Living
with Michael Jackson ที่ออกอากาศเมื่อปี 2003 ได้กล่าวว่า
ไมเคิลยังคงนอนกับเด็กชาย แต่มีลูกคนที่สามกับแม่อุ้มบุญ
ทำให้ไมเคิลได้ออกมายุติคัดค้านการออกอากาศเรื่องนี้ด้วยตัวเขาเอง
ไมเคิลกลับมาฉาวอีกครั้งในปี 2005
และถูกจับหลังมีข่าวว่าเขาไปข่มขืนเด็กชายวัย 13 ปี เมื่อปี 2003
และยังมีข่าวว่าเขาวางแผนอย่างลับๆ ที่จะลักพาตัวเด็กชายคนดังกล่าวด้วย
ซึ่งทำให้เขาต้องเผชิญกับบทลงโทษที่น่ากลัวที่ว่าเขาต้องติดคุกเป็นเวลา
เกือบ 20 ปีหากพบว่าเขาทำผิดจริง
หลังจากนั้นเดือน มิ.ย.ปี 2005 อีก 4
เดือนต่อมาเขาก็พ้นผิดจากข้อกล่าวหาทั้งหมด
ก่อนที่เขาจะกลับมาใช้ชีวิตอยู่ทั้งในบาห์เรน, ไอร์แลนด์ และฝรั่งเศส
นับตั้งแต่เหตุการณ์รบกวนจิตใจต่างๆ ที่เขาต้องเผชิญยุติลง
...
การกลับมา
หลังจากต้องเผชิญเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ
มากมายในชีวิตจนแทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว ไมเคิล แจ็กสัน และ AEG LIVE
ผู้สนับสนุนการจัดคอนเสิร์ตของเขาก็ได้จับมือกันประกาศทัวร์การแสดงรอบโลก
โดยวางแผนไว้ว่าจะแสดงเป็นจำนวนกว่า 50 รอบ
ก่อนที่ไมเคิลจะออกมาปฏิเสธและขอลดลงเหลือเพียง 10
รอบการแสดงเท่านั้นด้วยปัญหาเรื่องสุขภาพเป็นสำคัญแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจาก
ผู้จัดและยืนยันในที่สุดว่าจะยังคงจัดเป็นจำนวน 50 รอบเหมือนเดิม
โดยคอนเสิร์ตแรกของเขากับการหวนคืนวงการอีกครั้งจะจัดขึ้นที่ โอทู อารีนา
ในกรุงลอนดอน โดยจะเริ่มคอนเสิร์ตวันที่ 13 ก.ค.ที่จะถึงนี้แล้ว
ไมเคิลฝึกซ้อมที่ลอสแองเจลิสเพื่อเตรียมตัวขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้ง
แรกในอังกฤษ ที่บัตรคอนเสิร์ตนั้นขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังเปิดขายเมื่อ
เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
ก่อนที่เจ้าตัวจะลาโลกนี้ไปโดยไม่มีโอกาสขึ้นแสดงคอนเสิร์ตที่นับเป็นความ
หวังสูงสุดของเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
การจากไปอย่างกะทันหันของไมเคิล แจ็กสัน
ศิลปินดังระดับตำนานในครั้งนี้นับเป็นข่าวคราวที่ช็อกแฟนเพลงทั่วโลก
ที่เหล่าคนดังฮอลลีวูดเองต่างก็ออกมาร่วมไว้อาลัยหลังทราบข่าวการจากไปของ
เขาทันที
แอชตัน คุชเชอร์ นักแสดงมาดกวนได้โพสต์ข้อความลงใน Twitter ว่า
"สู่สุคติ เราขอส่งความรักให้กับครอบครัวและเพื่อนๆของเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกๆ ทั้งสามคน"
เดมี มัวร์
ภรรยาของแอชตันก็ได้ออกมากล่าวถึงการสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่ครั้งนี้ว่า
"ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้งจริงๆ กับการสูญเสียทั้งฟาร์ราห์ ฟอว์เซตต์
และไมเคิล แจ็กสัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกๆ ของพวกเขา!"
จอห์น เมเยอร์ นักร้อง-นักแต่งเพลงชื่อดัง
ก็ได้แสดงความเสียใจต่อการจากไปครั้งนี้ของศิลปินระดับตำนานผ่านทาง
Twitter เช่นกัน "เรางงกันทั้งสตูดิโอ
คนสำคัญหลักของวงการต้นตำนานทางดนตรีของพวกเราจากไปแล้ว สู่สุคติไมเคิล
แจ็กสัน เราต่างเศร้าโศกต่อการจากไปครั้งนี้ของเขาเหมือนกับการสูญเสียความเป็นเด็ก
ในตัวเราเมื่อได้ฟังเพลง Thriller ในเครื่องเสียอ
ทางด้าน ควินซีย์ โจนส์ โปรดิวเซอร์ชื่อดัง
ก็ได้ออกมากล่าวเช่นกัน "ผมเสียใจอย่างมากกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้
มันเป็นข่าวที่คาดไม่ถึงจริงๆ"
"แจ็กสันมีทั้งพรสวรรค์ ความงดงาม ความเป็นมืออาชีพ และความทุ่มเท
วันนี้ผมสูญเสียน้องชายที่รักที่สุดคนหนึ่งไปและส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณผมได้
สูญเสียไปพร้อมกับเขาแล้วเช่นกัน"
แรปเปอร์ระดับตำนานอย่าง พี ดิดดี
ก็ออกมากล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์นี้ว่า "ไมเคิล แจ็กสัน
แสดงให้ผมเห็นว่าคุณสามารถทำเพลงขึ้นมาได้
เขาทำเพลงให้มันเหมือนมีชีวิตขึ้นมาได้ เขาทำให้ผมเชื่อในเวทมนตร์
ผมจะคิดถึงเขาตลอดไป!!"
ทางด้าน WYCLEF JEANหนึ่ง ในสมาชิกของ FUGEES ได้ไว้อาลัยผ่านทาง
Twitter ว่า "เขาอยู่ในใจผมมาโดยตลอด
ผมไม่มีทางลืมวันที่เขามาหาผมที่สตูดิโอและผมเล่นเพลงของเขาให้ฟังอย่างแน่
นอน...สู่สุคติไมเคิล แจ็กสัน
เทพเจ้าทางดนตรีของผม...เราเคยสูญเสียเอลวิส เพรสลีย์ มาแล้ว
และคราวนี้เรามาเสียไมเคิล แจ็กสัน
ไปอีก...วันนี้ผมร้องไห้เพราะว่าไมเคิล
แจ็กสันเป็นเหมือนพ่อคนหนึ่งที่เราได้สูญเสียเขาไปตลอดกาล""
ส่วนกูรูทางด้านการประชาสัมพันธ์อย่าง แม็กซ์ คลิฟฟอร์ด
ที่เป็นผู้ค้นพบแจ็กสันในช่วงยุค 1960
ก็ได้ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์ที่ไมเคิล อยากพบเจด กูดดี้
สามอาทิตย์ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไปด้วยโรคมะเร็งว่าเขาต้องการจะพบเธอ
"มันเป็นเรื่องที่ช็อกมากๆ
คุณคงสงสัยว่าความเครียดจากการเตรียมพร้อมคอนเสิร์ตที่จะเกิดขึ้นนี้มีส่วน
มากทีเดียว ภาพก่อนหน้านี้ไม่นานไมเคิลดูสุขภาพดีมาก
เมื่อครั้งที่เขาโทรมาเขากล่าวแค่ว่าเขาอยากมาพบเจด กูดดี้
แต่โชคร้ายที่เธอป่วยมากแต่พวกเขาก็คุยกันเล็กน้อยผ่านทางโทรศัพท์"
"และ คำสุดท้ายที่เขาพูดกับเธอ คือ
เขาอยากเจอเธอและอยากให้เธอได้มาชมคอนเสิร์ตของเขา
แต่น่าเศร้าที่เธอไม่สามารถมีชีวิตอยู่จนถึงวันที่เขาแสดงได้
และน่าเศร้ายิ่งกว่าที่ตัวเจ้าของคอนเสิร์ตเองก็อยู่กับเราไม่นานเช่นกัน
มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ"
...
ผลงาน
พ.ศ. 2514 Got to Be There
พ.ศ. 2515 Ben
พ.ศ. 2515 A Collection of Michael Jackson's Oldies
พ.ศ. 2516 Music and Me
พ.ศ. 2518 Forever, Michael
พ.ศ. 2522 Off the Wall
พ.ศ. 2524 One Day in Your Life
พ.ศ. 2525 Thriller
พ.ศ. 2527 Farewell My Summer Love
พ.ศ. 2530 Bad
พ.ศ. 2534 Dangerous
พ.ศ. 2538 HIStory - Past, Present and Future - Book I
พ.ศ. 2540 Blood on the Dance Floor: HIStory in the Mix
พ.ศ. 2544 Invincible
พ.ศ. 2544 Greatest Hits - HIStory Volume I
พ.ศ. 2546 Number Ones
พ.ศ. 2547 Michael Jackson: The Ultimate Collection
พ.ศ. 2548 The Essential Michael Jackson
Superstar เบอร์1 ที่เป็นตำนาน มักอายุสั้น
ไม่ว่าจะเป็น
Elvis King of Rock&Roll
Bruce Lee ตำนานหนังกังฟู
Marilyn Monro
John Lennon แห่ง Beetle
Jimmy Hendrix ตำนานมือกีต้าร์
John Bonham มือกลองที่เก่งสุดในประวัติศาสตร์
บ้างว่าอัจฉริยะมักถูกสาบ
บ้างว่าเขาเหล่านั้นกลับดาวตัวเอง
ทิ้งไว้แต่พวกเบอร์2 เช่น เฉินหลง, Madonna, Eric Clapton, Paul
McCartney ให้มีโอกาสได้แก่ตาย
เป็นห่วงแต่พี่เบิร์ดของเรา ยังสบายดีมั้ย!!
เป็นห่วง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น