++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เตือนดูพัฒนาการลูกช่วง1-2ปี ชี้เด็กแฝด-คลอดก่อนกำหนด เสี่ยงสมองพิการ

เตือนดูพัฒนาการลูกช่วง1-2ปี ชี้เด็กแฝด-คลอดก่อนกำหนด เสี่ยงสมองพิการ


ราชวิทยาลัย เตือนเด็กคลอดก่อนกำหนด เด็กแฝด
กลุ่มเสี่ยงสูงภาวะสมองพิการ แนะพ่อแม่สังเกตพัฒนาการลูกช่วงวัยเด็ก1-2ปี
หากเคลื่อนไหวผิดปกติ ไม่ลุกนั่ง ไม่เดิน รีบพบแพทย์

รศ.พญ.กมลทิพย์ หาญผดุงกิจ
อุปนายกราชวิทยาลัยเวชศาสตร์ฟื้นฟูแห่งประเทศไทย กล่าวว่า
ในผู้ป่วยกลุ่มสมองพิการที่มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งทำให้มีผลต่อการเคลื่อน
ไหวของร่างกายมีสาเหตุมาจากการเกิดภาวะที่สมองมีรอยโรคไม่ว่าจะเป็นการขาด
ออกซิเจนระหว่างการคลอด หรือการเกิดโรคทางสมอง อาทิ โรคไข้สมองอักเสบ
ฯลฯในช่วงที่สมองยังไม่พัฒนาการเต็มที่คือไม่ถึงอายุ 8 ปี
ผู้ปกครองจึงควรเฝ้าสังเกตพัฒนาการของลูกในช่วงวัยเด็กอย่างใกล้ชิด
หากไม่ลุกนั่ง ไม่เดิน
หรือมีความผิดปกติในการเคลื่อนไหวต่างจากพัฒนาการตามวัยเด็กประมาณ1-2
ปีที่ควรจะเป็น ควรรีบพบแพทย์

"ยิ่งคลอดก่อนกำหนดมากเท่าใด
โอกาสเสี่ยงที่เด็กจะมีภาวะสมองพิการจะมีมากขึ้นเท่านั้น
เช่นเดียวกับกลุ่มที่มีภาวะมีบุตรยาก มักจะถูกกระตุ้นให้ไข่ตกมากกว่าปกติ
ทำให้คลอดลูกแฝด และมักจะคลอดก่อนกำหนด ก็มีโอกาสเสี่ยงเช่นกัน
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า
เด็กที่คลอดก่อนกำหนดทุกรายหรือกลุ่มมีบุตรยากทุกรายจะมีบุตรที่มีภาวะสมอง
พิการดังกล่าว เพียงแต่ปัจจัยเหล่านี้ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงขึ้น
ขณะเดียวกันเด็กที่มีภาวะสมองพิการจะมีผลต่อความสามารถในการเคลื่อนไหว
ซึ่งบางรายเท่านั้นที่มีระดับสติปัญญาอ่อนร่วมด้วย"รศ.พญ.กมลทิพย์ กล่าว

รศ.พญ.กมลทิพย์ กล่าวต่อว่า
สำหรับอุบัติการณ์ของภาวะสมองพิการทำให้มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งประมาณ
2.4 รายของเด็กอายุ 3-10 ปีจำนวนพันราย
ในจำนวนนี้สาเหตุของการสมองพิการจากการคลอดมีประมาณ
1%ต่อทารกพันรายที่คลอดมีชีพ 86%
ของผู้ป่วยภาวะสมองพิการทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งส่วนล่างและเป็นทั้งสองข้าง
ภาวะทางสมองดังกล่าวทำให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อแล้วแต่จุด
หากหดเกร็งในท่อนขาก็ทำให้การเดินผิดปกติ เดินเขย่งตลอดชีวิต

"วิธีการรักษามีทั้งการทานยา และฉีด
แพทย์จะเป็นผู้เลือกว่าผู้ป่วยเหมาะกับอาการของโรคใด
ส่วนใหญ่ใช้หลายแนวทางร่วมกัน เช่น
ในรายที่มีอาการหดเกร็งกล้ามเนื้อมากอาจให้ยาทาน
หรือในรายที่เด็กจะให้ยาฉีด ซึ่งยาฉีดที่ใช้รักษาเดิมมีการใช้ สารฟีนอล
ซึ่งเป็นกลุ่มแอลกอฮอล์ วิธีการฉีดยุ่งยาก
เนื่องจากต้องปักเข็มเข้าเนื้อเพื่อหาจุดจึงค่อยฉีดยา
ซึ่งหากเป็นเด็กเล็กจะยุ่งยากมาก
ในระยะหลังวงการแพทย์มีการใช้สารโบทูลินั่มท็อกซินมาฉีดเพื่อให้กล้ามเนื้อ
คลายการหดเกร็ง โดยมีฤทธิ์ยาประมาณ 3 เดือน"รศ.พญ.กมลทิพย์ กล่าว

รศ. พญ.กมลทิพย์ กล่าวด้วยว่า
การรักษาด้วยสารโบทูลินั่มท็อกซินปัจจุบันเป็นวิธีที่ได้ผลดี
โดยเฉพาะในเด็กเล็ก แต่ต้องควบคู่ไปกับการทำกายภาพบำบัดด้วย
โดยการฉีดสารดังกล่าวจะคำนวณตามน้ำหนักของผู้ป่วย คือ 5-20
หน่วยต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หากเด็กน้ำหนัก 20
กิโลกรัมจะต้องใช้ยาประมาณ 200 หน่วยหรือประมาณ 2 ขวด
ซึ่งยาที่ใช้รักษาอยู่ในปัจจุบันนี้มีทั้งมาจาก สหรัฐอเมริกา อังกฤษ
ประมาณหมื่นกว่าบาทต่อขวด และทราบมาว่า
ล่าสุดมีบริษัทยาจากประเทศเกาหลีนำเข้าสารดังกล่าวที่มีคุณภาพเท่ากัน
แต่ราคาถูกกว่าประมาณ 30% ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ผู้ป่วยจะเข้าถึงยามากขึ้น

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000072605

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น