จาก หนึ่งสมอง สองมือ
รวมบทสนทนา "ชีวิตธุรกิจ" พ.ศ. 2530
โดย ประสาร มฤคพิทักษ์
นักธุรกิจคนหนึ่ง เริ่มงานเป็นเซลล์แมนที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เจนเนอรัลไฟแนนซ์ เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆ จนล่าสุดนี้มาเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทกรุงเทพแมทเทรส จำกัด ผู้ผลิตที่นอนสายทิพย์ซึ่งเป็นที่นอนซึ่งทำด้วยใยมะพร้าว นับเป็นนักธุรกิจที่มีความสามารคนหนึ่งครับ รวมบทสนทนา "ชีวิตธุรกิจ" พ.ศ. 2530
โดย ประสาร มฤคพิทักษ์
นิตยสารสไตล์ฉบับที่ 15 ได้ถ่ายทอดทัศนะของคุณยงวุฒิ จงกิตติพงศ์ไว้อย่างน่าฟังครับ คุณยงวุฒิกล่าวว่า
"สมัยก่อน ผมทำงาน ผมต้องการกล่อง ผมไม่ต้องการเงิน ผมคิดว่าระยะเริ่มแรก ผมยอมเสียเปรียบทุกๆคน เพื่อผมจะได้บรรลุในสิ่งที่ผมไม่รู้ อันนั้นมันดีกว่าเงินเดือนหลายร้อยเท่า มันเป็นประสบการณ์เก็บไว้ในตัวเรา เราไม่รู้เราก็ถามเพื่อน ถามผู้บังคับบัญชา หรือแม้กระทั่งเด็กที่ทำงานมาก่อนเรา เราก็ยังต้องลดตัวลงไปถาม ผมถึงบอกว่า ทำงานทิฐิไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ล่ะที่มันจะกลับมาหาตัวเรา เงินเดือนน้อยหน่อยช่างมัน อย่าคิดมาก เมื่อทฤษฎีเรามีประสบการณ์มากแล้ว คุณสะสมไว้ในตัวคุณ 5 ปี 10 ปี อันนี้ต้องมีข้อแม้ว่า ไม่ใช่คุณอยู่นิ่งนะ คุณสะสมพวกนี้เข้ามาเรื่อยๆ 10 ปีให้หลัง ถึงเวลานั้นคุณต้องการอะไรล่ะ เงินครับ ใครๆก็ต้องการคุณ ใครๆก็จะซื้อตัว"
นี่เป็นทัศนะที่แจ่มชัดมาก ผมมีโอกาสเห็นความแตกต่างระหว่างคนสองประเภทก็หลายคน
ใครก็ตามที่หายใจเป็นเงินทุกครั้งที่ลงมือทำ มักจะไปไหนไม่รอดครับ มีทางตันขวางอยู่ข้างหน้า แต่ใครก็ตามที่ถือผลสำเร็จของงานเป็นรางวัล มักจะก้าวกระโดดได้ไกล เพราะคนประเภทหลังนี้คือคนใจใหญ่อย่างแท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น