++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2552

โรคปวดหลัง ร้ายไม่ใช่เล่น!! เฉลี่ยอายุต่ำ...อาหารทำพิษ

โรคปวดหลัง ร้ายไม่ใช่เล่น!! เฉลี่ยอายุต่ำ...อาหารทำพิษ (เดลินิวส์)

เคยไหม? ลุกนั่ง ก้มเงย ปวดสันหลังวาบ
การใช้ชีวิตประจำวันดูเชื่องช้ากว่าปกติ
โดยเฉพาะในชีวิตคนทำงานอาการปวดหลังเป็นเหมือนเครื่องบั่นทอนให้งานไม่เป็น
ไปตามเป้าหมาย แต่จะทำเช่นไรเมื่ออาชีพที่ทำอยู่อาจมี
ส่วนทำให้เกิดอาการเหล่านี้

ยิ่งในคนที่มีอาการเรื้อรัง
เมื่อทำงานยิ่งซ้ำเติมความเจ็บปวดให้มากขึ้น...

แต่ใช่ว่าเราจะอยู่กับอาการเจ็บปวดนั้นไม่ได้ โดย นพ.ธวัช
ประสาทฤทธา ผู้เชี่ยวชาญ สาขาเวชกรรม ด้านออร์โธปิดิกส์ รพ.เลิดสิน
กล่าวถึงที่มาของอาการปวดหลังว่า 90%
อาการเหล่านี้ไม่สามารถตัดสินได้ว่ามาจากสาเหตุใด แต่อาจมีหลายปัจจัยรวมๆ
กัน ส่วนสถานการณ์ของผู้ป่วยที่เป็นโรคปวดหลังขณะนี้ในแต่ละวันมีผู้มาพบแพทย์
ไม่ต่ำกว่า 300 คน และมีแนวโน้มอนาคตคนไข้จะมีอายุต่ำลง
เนื่องจากสภาพสังคมปัจจุบันมีส่วนช่วยให้ประสบกับภาวะเหล่านี้มากขึ้น

สาเหตุ ของอาการเกิดจาก
1.กล้ามเนื้อบริเวณแผ่นหลังมีอาการอักเสบ
2.หมอนรองกระดูกเคลื่อนตัวหรือได้รับการกระทบกระเทือน
3.กระดูกที่ลึกลงไปใต้ผิวหนังมีอาการผิดปกติ

หากมีอาการปวดเมื่อยบริเวณแผ่นหลังโดยไม่มีไข้เข้ามาแทรกซ้อนเพียง
1 อาทิตย์ ก็จะหายเป็นปกติ โดยแพทย์ไม่ต้องให้ยา
แต่ควรลดกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการ เช่น ยกของหนัก เล่นกีฬา

ส่วนผู้ที่มีอาการปวดติดต่อกันมากกว่า 1 อาทิตย์
ควรไปพบแพทย์เพื่อหาทางแก้ไข เนื่องจากอาจเป็นโรคที่ร้ายแรง เช่น
ติดเชื้อบริเวณกระดูกสันหลังหรือมะเร็งกระดูกที่หลายคนนึกว่าเป็นอาการปวด
หลังธรรมดา แต่กลับมีอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยการรักษาแพทย์จะให้ยาแก้ปวด
แก้อักเสบ หรือยากล่อมประสาทเพื่อลดอาการเจ็บปวด
ด้านรายที่มีอาการหนักถึงขั้นผ่าตัดแพทย์ต้องตรวจให้ชัดเจนว่าสาเหตุเกิดจาก
ส่วนใดแล้วจึงทำการผ่าตัด

"หากเป็นอาการปวดที่ไม่รุนแรงเพียง 5 วันก็หายเป็นปกติ
แต่ถ้าเป็นอาการร้ายแรงคือ
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจะต้องใช้เวลาในการรักษานานกว่าจะหายเป็นปกติ
ส่วนอายุเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้อาการปวดหายช้ากว่าปกติ"

ปัจจุบัน หลายคนทำงานเกินเวลาเพื่อให้ได้เงินเพิ่มมากขึ้น แต่
นพ.ธวัช มองว่า การทำงานบางอย่าง ซึ่งต้องอยู่กับที่เกิน 8
ชั่วโมงจะทำให้เกิดโรคปวดหลัง ซึ่งอาชีพที่เสี่ยง เช่น พนัก งานขับรถ,
คนยกของ, พนักงานเย็บผ้า
ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ควรพักให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย

เดิมคนที่มีอายุเกิน 30 ปี จะมีอาการปวดหลัง แต่ ขณะนี้พบว่า
มีเด็กที่อายุเพิ่ง 20 ปี
ก็มีอาการปวดหลังมากขึ้นเนื่องจากสภาพสังคมตอนนี้เด็กส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่
หน้าคอม พิวเตอร์นานทำให้เกิดอาการปวดหลัง ขณะเดียวกัน
อาหารส่วนใหญ่มีสารพิษเจือปนทำให้คนแก่เร็วขึ้น เช่น
ผงชูรสที่ผสมในอาหารส่งผลให้กระดูกผุเร็วขึ้น หรือบรรดาสารสีต่าง ๆ
ที่จะเป็นตัวบั่นทอนความแข็งแรงของกระดูก

"การดื่มเหล้าสูบบุหรี่ก็เป็นอีกตัวที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหลัง
เพราะในบุหรี่มีสารนิโคตินทำให้หลอดเลือดหดตัวส่งผลให้เลือดไปหล่อเลี้ยง
เซลล์ไม่ดีเป็นผลให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรัง"

การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ ควรเอาใจใส่
อาหารที่รับประทานให้มีความสะอาดปราศจากสารพิษให้มากที่สุด
และต้องพักผ่อนเพียงพอ ไม่ทำงานหนักเกินไป และไม่ควรกินยาเอง
แต่ควรกินยาตาม แพทย์สั่งเพราะบางครั้งกินยา เองก็จะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด
อยากให้นึกว่าชีวิตเรามีค่ามาก กว่าราคายา ดังนั้นควรดูแลรักษากันให้ดี

โรคปวดหลังอาจเป็นอีกหนึ่งบทสะท้อนถึงคุณภาพชีวิตของคนไทย
ที่วันนี้ความป่วยไข้เริ่มเข้ามาใกล้เยาวชนมากขึ้น
ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้คุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ในอนาคตก็จะต่ำลงไปด้วย
--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น