++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2551

กลั่นจันทร์


คล้ายแพรหมอกสไบฟ้า,ใครลากผ่าน
ณ เบื้องแห่งอุทยานคนึงถิ่น
ณ คืนดอกแก้วรื้นหอมระริน
ณ จันทร์คืนรื้นกลิ่นประโดยฟ้า


หอมฟ้าหอมหาราตรีโลก
หอมเศร้าหวามแกมโศกประโลมหล้า
หอมค่ำ ณ คืนแห่งดารา
ประดับแต่งแต้มฟ้าประปรายราย


จึงอีกคืนให้เริ่มต้นขณะขวบ
เป็นคืนสีทองดอกบวบโดยง่ายง่าย
โดยเยียบเงียบย้อยสนามหญ้าอันเปลี่ยวดาย
อุทยานอยู่ภายใต้เสน่ห์จันทร์


***


เงียบนักเนิ่นนานคนึงนิจ
นานคืน- หนาวจิตเรียวหญ้าสั่น
นานคืนคืนยิ่งหนาวยะเยือกอัน
กลับดอกแก้วกลีบหวั่นในหมอกราย


เนิ่นนานเพียงนานในหยดฝัน
และแพรเนียนผ่านจันทร์เป็นสายสาย
แลแพรเมฆผ่านใจ,สไบกราย
และแลจันทร์ร้องไห้ทำไมจันทร์


สะอึกเอยในคืนจันทร์สีดอกบวบ
ณ อุทยานประจวบประจงขวัญ
ณ อาบคืนพื้นหญ้าคืนนี้จันทร์
จันทร์โอบอ้อมซบสั่นสะอื้นใน


คืนนางสวรรค์รำสไบผ่านพิ้นหญ้า
คืนแผ่วหมอกทิ้งทาเอาไว้ให้
คืนเผอเรอ,หรือนางสวรรค์นี้จงใจ
ทิ้งจริงหรือฝันไว้ ณ อุทยาน


วูบพราวจึงบนพื้นสนามหญ้า
ดั่งแฉกแสงสะท้อนดาราละเลื่อมผ่าน
ดั่งโปรยหอมร่วงมุกเสนาะนาน
บนพื้นแก้วระนาบขานดุริยคีต์


ดุริยคีต์ ณ กรณียขับ
ดุริยางคศิลป์ลึกลับกระเทือนถี่
ต้องการดั่งจะสร้างใดด้วยดนตรี
ฤาดุริยคีต์จะสร้างได้รูปรอย


รูปรอย ฤาชรอยหยาดหล้า
ฤาชรอยแห่งหยาดฟ้าฉงายถ้อย
ฤาชรอยแห่งจันทร์จะกลั่นกลอย
ฤาดินหญ้าประดอยประดิดพร้อง


จริงที่เห็น,ฤาให้เป้นมโนภาพ
เอิบอาบอยู่ในแสงอันนวลผ่อง
ทารกน้อยดื่มน้ำนมจากถันทอง
โดยมือน้อยไล้ต้องแผ่วถันเธอ


โดยเธอ-โดยมือเธอร้อยถัก
โดยเธอ-โดยมือแห่งความรักเธอเสมอ
โดยเธอ-โดยมือปราณีเธอปรนเปรอ
โดยเธอ-เธอโลมไล้บุตรเธออยู่ไปมา


โดยเธอ-โดยตาดาวแห่งเธอฝัน
โดยเธอ-โดยดวงจันทร์เธอสง่า
โดยเธอ-โดยหอมดอกแก้วมา
โดยเธอ-โดยกาลเวลาแห่งดุริยางค์


ดั่งเสียงมุกหอมร่วงบนลานแก้ว
ดั่งดื่มด่ำในคำแนวแห่งเธอสร้าง
ดั่งเธอ- ในอุทยานอันแววพราง
เธอขับคำแก้วกล่อมร่างดนุชกานต์


ว่า-โอ, ด้วยโลกรอยกาลผ่านซ้อนซับ
โลกแต้มรู้รอยประดับละรอยผ่าน
ละรอย-ทีละรอย ละรอยการณ์
และรอยเก่าหลากล้านก็ซ้อนเลือน


ซ้อนเลือนซ้อนลาย แล้วซ้อนโลก
ซ้อนแล้วไล้รอยโบกละเลือนเคลื่อน
ซ้อนซ้อนแล้วคล้ายซ้อนจะย้อนเยือน
ซ้อนย้อนแล้วหมอกเกลื่อนก้เข้ามา


เข้ามา เข้ามาอาจรู้เห็น
เข้ามาจนเป็นวัฏรกถา
เข้ามาจนเกินกว่าจะเพียงตา
จะแยกแยะมายาแห่งเนื้อใน


ว่า-โอ,เอยแล้วมนุษย์ก็ลืมแล้ว
ลืมรสน้ำแก้วแห่งหยาดใส
ลืมเย็นอันควรดื่มลืมกลิ่นไอ
ลืมก่นค้นคนในมนุษย์แท้


ว่าโอ,มนุษย์แท้มนุษย์แห่งความรัก
มนุษย์แห่งอิสรศักดิ์ขจายแพร่
มนุษย์เพื่อจะถนอมมนุษย์แพร
มนุษย์เอื้อเพื้ออยู่แผ่มนุษย์เนื้อ


แต่อาจมนุษย์ไม่ยอมตื่นในจันทร์กระจ่าง
ในโลมจันทร์กลั่นน้ำค้างขึ้นแผ่เอื้อ
ในอ่อนโยนหยดจันทร์กลั่นเจือ
แวมผุดหยดน้ำขึ้นเพื่อสนามจันทร์


หรืออาจเป็นด้วยมนุษย์ไม่เคยเห็น
ผุดแย้มน้ำค้างเย็นในยามฝัน
หรืออาจมนุษย์ไม่เคยดื่มน้ำกลั่นจันทร์
ในย้อยสะอาดหยาดฝันแห่งอุทยาน


ธัช ธาดา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น